มหาวิทยาลัยปักกิ่งครองอันดับ 1 ในเอเชีย โค่นแชมป์เก่าอย่างมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ที่รั้งอันดับ 1 มานานถึง 4 ปี ก่อนที่จะหล่นมาอยู่ในอันดับ 2 ขณะที่มหาวิทยาลัยชิงหัวครองอันดับ 3 ส่วนในภาพรวมนั้น มหาวิทยาลัยจากจีนแผ่นดินใหญ่เข้ามาติดอันดับมากที่สุด (128 แห่ง) รองลงมาคืออินเดีย (118 แห่ง) และญี่ปุ่น (106 แห่ง)
20 อันดับแรกปี 2566ปี 256512มหาวิทยาลัยปักกิ่ง (Peking University)จีนแผ่นดินใหญ่ 21มหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (National University of Singapore)สิงคโปร์35มหาวิทยาลัยชิงหัว (Tsinghua University)จีนแผ่นดินใหญ่ 43=มหาวิทยาลัยฮ่องกง (University of Hong Kong)เขตบริหารพิเศษฮ่องกง53=มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีหนานหยาง (Nanyang Technological University)สิงคโปร์6= 7มหาวิทยาลัยฟูตัน (Fudan University)จีนแผ่นดินใหญ่ 6=6มหาวิทยาลัยเจ้อเจียง (Zhejiang University)จีนแผ่นดินใหญ่ 814สถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงแห่งเกาหลี (KAIST) เกาหลีใต้98มหาวิทยาลัยมาลายา (Universiti Malaya)มาเลเซีย1010มหาวิทยาลัยเซี่ยงไฮ้เจียวทง (Shanghai Jiao Tong University)จีนแผ่นดินใหญ่ 1111=มหาวิทยาลัยโตเกียว (The University of Tokyo)ญี่ปุ่น12= 11=มหาวิทยาลัยจีนแห่งฮ่องกง (CUHK)เขตบริหารพิเศษฮ่องกง12= 16มหาวิทยาลัยยอนเซ (Yonsei University)เกาหลีใต้149มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งฮ่องกง (HKUST)เขตบริหารพิเศษฮ่องกง1513มหาวิทยาลัยเกาหลี (Korea University)เกาหลีใต้ 1615มหาวิทยาลัยเกียวโต (Kyoto University)ญี่ปุ่น1718มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล (Seoul National University)เกาหลีใต้1817มหาวิทยาลัยซองคยุนกวาน (Sungkyunkwan University)เกาหลีใต้1919มหาวิทยาลัยแห่งชาติไต้หวัน (National Taiwan University)ไต้หวัน2021สถาบันเทคโนโลยีแห่งโตเกียว (Tokyo Institute of Technology)ญี่ปุ่น(C) QS https://www.topuniversities.com/- ญี่ปุ่นและจีน แต่ละประเทศมีมหาวิทยาลัย 2 แห่งที่ติด 5 อันดับแรกในด้านชื่อเสียงทางวิชาการและทัศนคติของผู้จ้างงานต่อมหาวิทยาลัย โดยมหาวิทยาลัยโตเกียวครองอันดับหนึ่งของตัวชี้วัดทั้งสอง
- อินเดียมีความเป็นเลิศด้านการผลิตงานวิจัย โดยมีมหาวิทยาลัย 3 แห่งติด 5 อันดับแรกในด้านเอกสารการวิจัย/คณาจารย์
- หากพิจารณาจากการกระจุกตัวของมหาวิทยาลัยที่ติดอันดับ พบว่าเกาหลีใต้มีมหาวิทยาลัยที่รั้ง 20 อันดับแรกมากที่สุด ขณะที่มาเลเซียมีมหาวิทยาลัยที่รั้ง 50 อันดับแรกมากที่สุด (17%) รวมถึงรั้ง 100 อันดับแรกมากที่สุด (22%)
- สิงคโปร์และเขตบริหารพิเศษฮ่องกงผลิตงานวิจัยที่มีอิทธิพลสูง โดยมีมหาวิทยาลัย 2 แห่งที่ติด 5 อันดับแรกในด้านการอ้างอิง/เอกสารการวิจัย
- มหาวิทยาลัยอากาข่าน (Aga Khan University) ของปากีสถานมีความสามารถด้านการสอนสูงสุดในเอเชีย ตามดัชนีชี้วัดด้านคณาจารย์/อัตราส่วนนักศึกษา
- มีมหาวิทยาลัยหน้าใหม่ 5 แห่งที่เข้ามาติด 100 อันดับแรก โดยมหาวิทยาลัยแห่งชาติอัล-ฟาราบี คาซัค (Al-Farabi Kazakh National University) ของคาซัคสถาน เข้ามาในอันดับสูงสุด (อันดับ 44)
- อิหร่านเป็นหนึ่งในประเทศที่มีคณาจารย์ที่ได้รับการฝึกอบรมอย่างดีที่สุดของเอเชีย จากดัชนีชี้วัดด้านบุคลากรที่มีวุฒิปริญญาเอก
- ประเทศไทยประสบความสำเร็จในด้านชื่อเสียงทางวิชาการด้วยอันดับดีที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยมีมหาวิทยาลัย 5 แห่งติด 100 อันดับแรก ในขณะที่ฟิลิปปินส์ประสบความสำเร็จในด้านทัศนคติของผู้จ้างงานต่อมหาวิทยาลัย โดยมีมหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์ 4 แห่งติด 100 อันดับแรก
- เวียดนามมีการพัฒนามากที่สุด โดยมหาวิทยาลัย 55% มีอันดับดีขึ้น
คุณเบน โซวเทอร์ (Ben Sowter) รองประธานอาวุโสของคิวเอส กล่าวว่า "การลงทุนด้านการอุดมศึกษาอย่างต่อเนื่องและมหาศาลของจีนเป็นรากฐานของความสำเร็จในปัจจุบัน โดยมหาวิทยาลัยปักกิ่งคว้าตำแหน่งมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในเอเชีย ขณะที่มหาวิทยาลัยชิงหัวก็สามารถคว้าอันดับ 3 ไปครอง ส่วนสิงคโปร์ยังคงทำผลงานได้ดี โดยมีมหาวิทยาลัยติด 5 อันดับแรกถึง 2 แห่ง อย่างไรก็ตาม ระบบการอุดมศึกษาของบางประเทศในเอเชียกำลังเผชิญกับความท้าทายเนื่องจากจำนวนประชากรที่ลดลง"
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1503777/QS_World_University_Rankings_Logo.jpg