นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART เปิดเผยว่า ผลประกอบการงวดประจำไตรมาส 3/2565 (กรกฎาคม - กันยายน 2565) มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,435.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน กำไรสุทธิอยู่ที่ 563.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 108.8% ขณะที่อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 16.4% ปรับตัวสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมา จากผลงานทุกบริษัทในกลุ่มสามารถเดินตามเป้าหมาย และกำไรที่เกิดจากมูลค่าที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าไปลงทุนในบริษัท ที่เข้าไปลงทุนเมื่อไตรมาส 3/65 ที่ผ่านมา คือ การเข้าไปลงทุนในบริษัท น้ำตาลบุรีรัมย์ จำกัด (มหาชน) นอกจากนี้ ยังชูจุดแข็ง Strong Synergy & Ecosystem ที่ครบวงจร ทั้งด้านธุรกิจค้าปลีก การเงิน และเทคโนโลยี เริ่มส่งสัญญาณพร้อมที่จะเติบโตแบบ Exponential Growth ตามเป้าหมาย คาดกำไรจะเติบโตในระดับ 50% ต่อเนื่อง 3 ปี นับตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ขณะที่ผลงานงวด 9 เดือน กำไรอยู่ที่ 1,278.0 ล้านบาท โต 52.9%
สำหรับบริษัทในกลุ่ม ธุรกิจบริหารหนี้ของ JMT มีการเติบโตที่น่าประทับใจ ด้วยยอดจัดเก็บกระแสเงินสดที่โตแรง ขณะที่ JK AMC บริษัทร่วมทุนที่เข้ามาดันกำไรเพิ่ม สนับสนุนผลงานเติบโตต่อเนื่องในระยะยาว ด้านธุรกิจ SINGER ภาพรวมการขายและการปล่อยสินเชื่อยังทำได้ดี มีการขยายเครือข่ายตัวแทนขาย และแฟรนไชส์สาขาย่อย เข้าใกล้เป้าหมาย 7,000 สาขา เป็นจุดแข็งที่สนับสนุนให้กลุ่ม JMART มีช่องทางการเข้าถึงลูกค้าที่แข็งแกร่ง สำหรับ JAS ASSET เดินหน้าปั๊มรายได้จากโครงการดูแลผู้สูงอายุ เตรียมเปิดตัว Senera Senior Wellness ในเดือนธันวาคมนี้ และกางแผนพัฒนาโครงการคอมมูนิตี้มอลล์เพิ่มเติมอีก 2 แห่งปีหน้า เพิ่มพื้นที่เช่าศูนย์การค้ารวมทุกศูนย์การค้ามากกว่า 1 แสนตารางเมตร หนุนความสามารถการทำกำไรที่โดดเด่นต่อเนื่อง
ขณะที่ Jaymart Mobile เข้าสู่ไฮซีซั่นธุรกิจ สินค้าเทคโนโลยีใหม่ๆ เปิดตัว และได้รับการตอบรับที่ดี เช่น iPhone14 และ Samsung รุ่นใหม่ สนับสนุนกำไรเติบโตเท่าตัวจากปีที่ผ่านมา ด้านบริษัท KBJ มีการเดินหน้ารุกธุรกิจสินเชื่ออย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัวบริการซัมซุงไฟแนนซ์พลัส (Samsung Finance+) สินเชื่อซื้อโทรศัพท์มือถือซัมซุง อนุมัติไวง่าย ได้ใน 3 นาที ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค และบริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด (JVC) บริษัทด้านเทคโนโลยีที่ขับเคลื่อนกลุ่มบริษัทเจมาร์ทให้แข็งแรง เริ่มสร้างกำไรและตัวเลขการเติบโตที่มีนัยสำคัญ โดยงวด 9 เดือน JVC ทำกำไรสุทธิแล้วที่ 13 ล้านบาท
อย่างไรก็ดี ล่าสุด ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 9/2565 อนุมัติให้เข้าลงทุนและลงนามในสัญญาที่เกี่ยวข้องกับการเข้าลงทุนในบริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด (BNN) ซึ่งประกอบธุรกิจร้านอาหารภายใต้แบรนด์ "สุกี้ ตี๋น้อย" ในสัดส่วน 30% มูลค่าลงทุนรวมไม่เกิน 1,200 ล้านบาท พร้อมดันเข้าตลาดหุ้นใน 2 ปี มองว่า จะเพิ่มส่วนแบ่งในด้านกำไร 30% จากการทำ Synergy Ecosystem ร่วมกัน และสนับสนุนให้เจมาร์ทมีพอร์ตธุรกิจกลุ่ม Food & Beverage เพิ่มเติม นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างพูดคุยกับพันธมิตรรายใหม่ๆ เพื่อลุยสร้าง J-Curve เสริมศักยภาพการทำกำไรที่แข็งแกร่งในอนาคต
ที่มา: ไออาร์ พลัส