นายแพทย์ รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ (หมอกัน) จบการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ทำงานเป็นแพทย์ประจำโรงพยาบาลศิริราช ก่อนจะตัดสินใจลาออกมาเปิดคลินิกของตัวเอง จากนั้นได้ศึกษาต่อในวิชาแพทย์เฉพาะทางด้านผิวหนัง (Diploma Of Dermatology) และศัลยกรรมความงาม (Aesthetic Surgery of Korea) โดยได้นำศาสตร์ปรับโหงวเฮ้งซึ่งเป็นวิชาที่ถ่ายทอดสืบต่อกันมานับแต่บรรพบุรุษ เข้ามาร่วมประยุกต์ใช้กับการออกแบบใบหน้าคนไข้
โดย "โหงวเฮ้ง" นั้นเป็นศาสตร์ของชาวจีนที่เกิดขึ้นมาแล้วหลายพันปีนับตั้งแต่ในสมัยขงเบ้ง ซึ่งคำว่า "โหงว" นั้นแปลว่า ห้า ส่วน "เฮ้ง" นั้นแปลว่า คุณลักษณะ ใช้สำหรับวิเคราะห์อุปนิสัยเพื่อการเลือกใช้คนของนักปราชญ์และแพทย์ชาวจีน โดยจะมีการศึกษารูปร่างหน้าตาแล้วทำบันทึกข้อมูลพฤติกรรมมนุษย์สะสมไว้คล้ายการสรุปสถิติ ว่าคุณลักษณะแบบนี้จะเป็นคนนิสัยใจคออย่างไร จะเป็นคนร่ำรวยวาสนาดี หรือชีวิตมีความลำบาก หรือเหมาะแก่การทำงานแบบใด จึงเป็นที่มาของศาสตร์ "โหงวเฮ้ง" ตามตำราจีนโบราณ
ในด้านความงาม เมื่อนายแพทย์ รัฐรุจน์ บารมีไชยภัสร์ (หมอกัน) ได้นำเอาหลักการนี้มาประยุกต์ใช้ตามความหมายของ "โหงวเฮ้ง" คือหมายถึง คุณลักษณะของธาตุทั้ง 5 ดังนั้นการทำศัลยกรรมเปลี่ยนโหงวเฮ้งจึงนำมาใช้เพื่อการออกแบบใบหน้าคนไข้ โดยปรับให้ธาตุทั้ง 5 ให้อยู่ในลักษณะที่ดี ตรงตามศาสตร์มากที่สุด ตามความเชื่อที่จะช่วยเสริมดวงหรือเสริมความมั่นใจ โดยนอกจากจะเน้นเรื่องความงดงามของใบหน้าเป็นสำคัญแล้ว ยังใส่ใจลึกลงไปถึงเรื่องของเทรนด์ความนิยมในความสวยงามบนใบหน้าที่แตกต่างกันไปในแต่ละปีด้วย ซึ่งเป็นส่วนสำคัญมากที่แพทย์ผู้รักษาต้องเข้าใจและเข้าถึงอย่างมากที่สุด เพื่อสามารถผสมผสานการออกแบบใบหน้าคนไข้ ได้ถูกต้องตามหลักตำรา และยังสวยกลมกล่อมถูกใจคนไข้ได้อีกด้วย โดยตลอด 15 ปีที่ผ่านมา หลังใช้ศาสตร์การปรับโหงวเฮ้งเข้ามาใช้ในการรักษาเพื่อความงามอย่างจริงจัง จนมีคนไข้กลับมาเล่าเรื่องราวชีวิตให้ทราบว่าได้เปลี่ยนไปอย่างไร
หากคุณเป็นคนหนึ่งที่กำลังมองหาสถานบริการด้านศัลยกรรมความงาม มาพร้อมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญมากด้วยประสบการณ์ ที่สามารถเปลี่ยนชะตาชีวิตด้วยศาสตร์การรักษาความงามจากการปรับโหงวเฮ้งให้เข้ากับคุณ เสริมความมั่นใจ เสริมชะตาโชคลาภ การันตีผลลัพธ์ด้วยเคสการรักษาจากเหล่าคนดังมากมายที่เข้ามารับบริการ จนได้รับฉายาว่า "หมอกัน มือหัตเถวะ" แพทย์ผู้เชี่ยวชาญฝีมือระดับเทพ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=C8DXKYP1wWo
ที่มา: Move Pr
