กองทรัสต์ "SSTRT" จ่อเปิดขายหน่วยเพิ่มทุน นักลงทุนทั่วไป 23 และ 26 ธ.ค.นี้

พฤหัส ๒๒ ธันวาคม ๒๐๒๒ ๑๐:๓๙
กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทรัพย์ศรีไทย ("SSTRT") เปิดเสนอขายหน่วยเพิ่มทุน สำหรับนักลงทุนทั่วไป ระหว่างวันที่ 23 และ 26 ธ.ค. 65 ที่ระดับราคา 5.80 บาทต่อหน่วย จ่อนำ เม็ดเงินที่ได้เข้าลงทุนเพิ่มในทรัพย์สิน 4 อาคาร มูลค่ารวมไม่เกิน 190 ล้านบาท ตอกย้ำการเป็นกองทรัสต์ประเภทคลังเอกสาร เพียงรายเดียวในประเทศไทย ชูผลตอบแทน (Dividen d Yield) ไม่ต่ำกว่า 7%
กองทรัสต์ SSTRT จ่อเปิดขายหน่วยเพิ่มทุน นักลงทุนทั่วไป 23 และ 26 ธ.ค.นี้

นายเอกชัย ลิ้มศิริวัฒนา กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอสที รีท แมเนจเมนท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทรัพย์ศรีไทย ("SSTRT") เปิดเผยว่า ทางกองทรัสต์ฯเตรียมเสนอขายหน่วยทรัสต์ที่ออกและเสนอขายเพิ่มเติมในการเพิ่มทุนครั้งที่1 จำนวน 36.21 ล้านหน่วย ให้กับกลุ่มนักลงทุนทั่วไป ระหว่างวันที่ 23 และ 26 ธันวาคม 2565 โดยกำหนดราคาเสนอขายที่ 5.80 บาทต่อหน่วยทรัสต์ หลังจากที่เปิดเสนอขายหน่วยหน่วยทรัสต์เพิ่มทุน ให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์เดิม ระหว่างวันที่ 21-22 ธันวาคมที่ผ่านมา ในอัตราส่วนการจัดสรร 1 หน่วยทรัสต์เดิม ต่อ 0.2317 หน่วยทรัสต์ใหม่ ทั้งนี้นักลงทุนทั่วไป สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด

สำหรับการเพิ่มทุนของกองทรัสต์ SSTRT ในครั้งนี้ จะเป็นการลงทุนในทรัพย์สินหลักเพิ่มเติมของ บริษัท ทรัพย์ศรีไทย จำกัด (มหาชน) ประกอบด้วย ที่ดิน 4 ไร่ 1 งาน 68.9 ตารางวา และ อาคารคลังเอกสาร จำนวน 4 อาคาร มูลค่ารวมไม่เกิน 190 ล้านบาท ซึ่งภายหลังการเข้าลงทุนแล้วเสร็จ คาดว่าจะอยู่ในช่วงปลายปี 2565 นั้น จะส่งผลให้ SSTRT มีมูลค่าทรัพย์สินรวมของกองทรัสต์แตะที่ระดับกว่า 1,700 ล้านบาท และถือเป็นกองทรัสต์ฯ เพียงรายเดียวในประเทศไทยที่เป็นกองทรัสต์ประเภทคลังเอกสาร

สำหรับทรัพย์สินที่กองทรัสต์ SSTRT จะเข้าลงทุนในครั้งนี้ ประกอบด้วย

  1. อาคารคลังเอกสารหมายเลข 36 พื้นที่อาคารประมาณ 1,750 ตารางเมตร
  2. อาคารคลังเอกสารหมายเลข 37 พื้นที่อาคารประมาณ 1,750 ตารางเมตร
  3. อาคารคลังเอกสารหมายเลข 38 พื้นที่อาคารประมาณ 1,750 ตารางเมตร
  4. อาคารคลังเอกสารหมายเลข 39 พื้นที่อาคารประมาณ 1,750 ตารางเมตร

ผู้จัดการกองทรัสต์ SSTRT กล่าวตอกย้ำอีกว่า กองทรัสต์ SSTRT เป็นกองทรัสต์ประเภท Freehold 100% ที่มีการจ่ายประโยชน์ตอบแทนต่อหน่วยแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์อย่างสม่ำเสมอ และภายหลังการลงทุน ในทรัพย์สินหลักในครั้งนี้มีการประมาณการการจ่ายประโยชน์ตอบแทน ประมาณ 0.4170 บาทต่อหน่วย สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2565 ถึง วันที่ 30 พฤศจิกายน 2566 คิดเป็นอัตราจ่ายประโยชน์ตอบแทน (Dividend Yield) 7% ซึ่งถือเป็นระดับผลตอบแทนที่เหมาะสมกับทิศทางโดยรวมของเศรษฐกิจที่มีความผันผวนในขณะนี้

ที่มา: มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๐ เม.ย. มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ตอกย้ำปณิธาน สร้างชีวิต มอบเครื่องเล่นสนาม อุปกรณ์ครุภัณฑ์ พร้อมเครื่องอุปโภคบริโภคแก่เด็กนักเรียนในส่วนภูมิภาค ณ โรงเรียนวัดนาร่อง อ.เมือง
๓๐ เม.ย. เฮงลิสซิ่ง จับมือ วิริยะประกันภัย เสนอ ประกันภัยอุ่นใจ ทางเลือกใหม่สำหรับประกันภัยคุ้มครองบ้าน
๓๐ เม.ย. ม.วลัยลักษณ์-สมาคมกีฬาตะกร้ออาวุโส-สมาคมกีฬา จ.นครศรีฯ เอ็มโอยูเตรียมระเบิดศึกตะกร้อเยาวชนฮอนด้า ยูเนี่ยน
๓๐ เม.ย. หลักสูตรการประยุกต์ใช้ NODE-RED ในงานอุตสาหกรรม เชื่อมต่อ CLOUD PLATFORM NEXIIOT
๓๐ เม.ย. ม.วลัยลักษณ์ คว้า 2 รางวัลระดับโลก 3G Award 2024
๓๐ เม.ย. YouTrip เปิดอินไซต์ช่วงหยุดยาวคนไทยแห่เที่ยว ญี่ปุ่น-จีน ยอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 150%
๓๐ เม.ย. คณะการท่องเที่ยวฯ DPU ให้ความสำคัญต่องานบริการ จัด HT Makeup Competition 2024 เพิ่มทักษะแต่งหน้าให้กับ นศ.
๓๐ เม.ย. กิจกรรมดี ๆ สำหรับเยาวชนหญิงที่หลงใหลศิลปะการทำอาหาร ในโครงการ Women for Women (WFM) Internship Program ร่วมฝึกงานในร้านอาหารโพทง
๓๐ เม.ย. ผู้ถือหุ้น CIVIL โหวตอนุมัติ จ่ายปันผล 0.012 บาท/หุ้น ทิศทางธุรกิจปี 67 เติบโตต่อเนื่อง
๓๐ เม.ย. PRM จัดประชุม E-AGM ปี 67 อนุมัติจ่ายปันผล 0.26บ./หุ้น