มังคุดนอกฤดูจังหวัดนครศรีธรรมราชสร้างรายได้เกษตรกรพุ่ง 200 บาท/กิโลกรัม

พฤหัส ๒๙ ธันวาคม ๒๐๒๒ ๑๑:๔๗
นายระพีภัทร์ จันทรศรีวงศ์ อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เปิดเผยว่า ในพื้นที่ภาคใต้จังหวัดนครศรีธรรมราชมีพื้นที่ปลูกมังคุดมากที่สุดจำนวนทั้งหมด 62,672 ไร่ และมีผลผลิตรวม 33,276.63 ตัน คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้น 746.39 ล้านบาท ซึ่งผลผลิตในฤดูปกติจะออกระหว่างเดือนมิถุนายน-ตุลาคม จากความแตกต่างของพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชที่มีข้อได้เปรียบทางธรรมชาติในเรื่องของภูมิประเทศทำให้มีผลผลิตมังคุดออกดอกนอกฤดูประมาณเดือนสิงหาคม และจะเก็บเกี่ยวประมาณเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ซึ่งในช่วงเวลาดังกล่าวจะไม่มีผลผลิตจากพื้นที่อื่น ทำให้เกษตรกรสามารถขายผลผลิตมังคุดได้ราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 150-200 บาท รวมทั้งการเก็บเกี่ยวมังคุดในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชจะยาวนานประมาณ 3-4 เดือน ทำให้ไม่มีปัญหาราคาผลผลิตตกต่ำ
มังคุดนอกฤดูจังหวัดนครศรีธรรมราชสร้างรายได้เกษตรกรพุ่ง 200 บาท/กิโลกรัม

นอกจากนี้ ยังพบว่าผลผลิตมังคุดในแถบเทือกเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรรมราช จะมีลักษณะคุณภาพพิเศษที่เป็นลักษณะเด่นแตกต่างจากมังคุดทั่วไป และรับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI ) "มังคุดเขาคีรีวง" โดยมีลักษณะผลกลมใหญ่ ก้นรี เปลือกหนา ผิวมันวาว เมื่อสุกจะมีสีชมพูถึงสีแดง หรือสีม่วงอมชมพู มีนวลแป้งสีขาวเคลือบผิว ขั้วและกลีบขั้วผลสีเขียวสด เนื้อสีขาว หนานุ่ม ฉ่ำน้ำ รสชาติเปรี้ยวอมหวานอร่อย ผลผลิตจึงเป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ

อธิบดีกรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า การที่มังคุดในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชจะออกดอกนอกฤดูได้นั้นมีหลายปัจจัยเป็นตัวควบคุม ซึ่งการจัดการสวนที่ถูกต้องและเหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญ การผลิตมังคุดจะประสบความสำเร็จได้ผลผลิตเป็นที่พอใจต่อผู้ผลิตและผู้บริโภค เกษตรกรควรรู้ถึงห่วงโซ่อุปทานทั้งระบบของการผลิตตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ จะทำให้สามารถจัดการสวนมังคุดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น กรมวิชาการเกษตรจึงมีคำแนะนำสำหรับเกษตรกรชาวสวนมังคุดนำไปปฏิบัติ ดังนี้

การให้ปุ๋ยกับต้นมังคุดควรให้ปุ๋ยอินทรีย์แก่มังคุดอย่างน้อยปีละครั้ง ถ้าให้มากครั้งได้ยิ่งดี ซึ่งการให้ปุ๋ยควรโรยที่รอบทรงพุ่มในปริมาณที่พอสมควร ระยะที่เหมาะกับการใส่ปุ๋ยอินทรีย์คือ หลังจาก เก็บผลแล้ว อาจใส่ในช่วงกลางของฤดูฝน และหลังจากติดผลแล้วอีก 1-2 ครั้ง สำหรับปุ๋ยเคมี ปกติชาวสวนจะให้ปุ๋ยเคมีปีละ 2 ครั้ง คือ หลังจากเก็บผลแล้วโดยให้ปุ๋ยสูตรเสมอ เช่น 15-15-15 และหลังจากมังคุดออกดอกก็จะให้ปุ๋ยสูตรที่มีโพรแทสเซียมสูง เช่น 12-12-17-2 หรือ 13-13-21 ส่วนการให้ปุ๋ยทางใบควรให้พร้อมกับการฉีดพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชจะสิ้นเปลืองน้อยลง

นอกจากนี้ ต้องหมั่นให้น้ำอย่างสม่ำเสมอช่วงการเจริญเติบโตทางใบต้นมังคุดที่มีอายุตา ยอด 9-12 สัปดาห์และผ่านสภาพแล้ง 20-25 วัน ควรมีการจัดการน้ำเพื่อควบคุมให้มีปริมาณดอกเพียงร้อยละ 35-50 ของยอดทั้งหมด เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพ โดยหลังจากมังคุดออกดอกแล้ว 10-15 เปอร์เซ็นต์ของตายอดทั้งหมดให้น้ำปริมาณมากถึง 220-280 ลิตรต่อต้นทุกวัน จนกระทั่งพบว่ายอดที่ยังไม่ออกดอกเริ่มมียอดอ่อนแทนตาดอกจึงเริ่มให้น้ำตามปกติคือ 80-110 ลิตร ต่อต้น และจะต้องให้น้ำในปริมาณนี้อย่างสม่ำเสมอต่อเนื่องทุกวัน

สำหรับการจัดการศัตรูพืชช่วงมังคุดแตกใบอ่อน ออกดอก และผลอ่อน จะมีศัตรูหลายชนิดที่เป็นศัตรูสำคัญ ได้แก่ เพลี้ยไฟ ไรแดง หนอนกินใบ หนอนชอนใบ เกษตรกรต้องเฝ้าระวังหมั่นสังเกตและสำรวจแปลงปลูกอยู่เสมอ ซึ่งจะช่วยลดการระบาดของศัตรูพืชได้ดี และหากเกิดการระบาดจะสามารถป้องกันกำจัดศัตรูพืชได้ทันเหตุการณ์ ในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตปกติการออกดอกของมังคุดจะไม่ออกพร้อมกันแต่จะทยอยออกอยู่นาน 30 วัน การเก็บเกี่ยวต้องทยอยเก็บเกี่ยวไปด้วยเช่นกัน โดยหลังจากมังคุดเริ่มติดผลประมาณ 11-12 สัปดาห์จะทยอยเก็บเกี่ยวได้ ซึ่งการเก็บเกี่ยวอย่างถูกวิธีให้ยึดหลักมังคุดได้รับความกระทบกระเทือนน้อยที่สุด จะช่วยรักษาคุณภาพไว้ได้ และหลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตให้ ตัดแต่งกิ่งที่เป็นโรค ตัดแต่งกิ่งที่แตกใหม่ภายในทรงพุ่ม ส่วนต้นมังคุดที่มีอายุมากกว่า 20 ปีควรมีการตัดยอดออกเพื่อเปิดทรงพุ่มให้แสงทะลุผ่านได้รับแสงเต็มที่เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการสังเคราะห์แสง มีผลทำให้ผลผลิตสูง และมี ประสิทธิภาพในการลดการระบาดของโรคและแมลงศัตรูพืชบางชนิดได้

จังหวัดนครศรีธรรมราชเป็นแหล่งผลิตมังคุดนอกฤดูกาลแหล่งสำคัญของประเทศไทย ผลผลิตมังคุดนอกฤดูเป็นการเพิ่มมูลค่าให้แก่เกษตรกร เนื่องจากผลผลิตจะมีปริมาณน้อยกว่าปกติทำให้มีราคาสูง สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรชาวสวนในพื้นที่เป็นอย่างมากเป็นที่ต้องการของประเทศจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเปลี่ยนผ่านรหัส GAP รูปแบบใหม่สามารถดำเนินการส่งออกได้อย่างราบรื่นไม่มีปัญหา สำหรับเกษตรกรที่สนใจสามารถขอรับคำแนะนำการจัดการสวนมังคุดให้มีคุณภาพตามหลักวิชาการได้ที่นางอาพร คงอิสโร นักวิชาการเกษตรชำนาญการพิเศษ เบอร์โทรศัพท์ 0858833995 ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรนครศรีธรรมราช โทรศัพท์ 0 7580 9709 สำนักวิจัยและพัฒนาการเกษตรเขตที่ 7 กรมวิชาการเกษตร

ที่มา: กรมวิชาการเกษตร

มังคุดนอกฤดูจังหวัดนครศรีธรรมราชสร้างรายได้เกษตรกรพุ่ง 200 บาท/กิโลกรัม

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง