กสิกรไทยสนับสนุนสร้างหอผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรมหัวใจฯ พร้อมครุภัณฑ์ทางการแพทย์ให้แก่ รพ.สระบุรี

อังคาร ๑๐ มกราคม ๒๐๒๓ ๑๔:๓๘
ธนาคารกสิกรไทย ร่วมสมทบทุน 33.6 ล้านบาทให้โรงพยาบาลสระบุรี สร้างหอผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรมหัวใจและทรวงอก พร้อมจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ รองรับการผ่าตัดหัวใจแบบเปิด-ผ่าตัดลิ้นหัวใจ เพื่อขยายการบริการให้ผู้ป่วยในพื้นที่จังหวัดสระบุรีและใกล้เคียงได้รับการผ่าตัดเร็วขึ้น ตอกย้ำความมุ่งมั่นของธนาคารที่ส่งเสริมการนำเทคโนโลยีช่วยพัฒนาบริการทางการแพทย์ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงอย่างเท่าเทียมกัน เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทย นำไปสู่การขับเคลื่อนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศ ทั้งในมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เผยในอนาคตธนาคารเตรียมพัฒนาโครงการเพื่อช่วยส่งเสริมให้ประชาชนสามารถใช้บริการจากผู้ให้บริการขนาดเล็กที่มีคุณภาพ ทั้งผู้ให้บริการคลินิก หรือบริการผ่านเทคโนโลยีเฮลท์เทค อย่างทั่วถึง

นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารกสิกรไทยดำเนินธุรกิจควบคู่กับการส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ โดยให้ความสำคัญแก่การนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาช่วยยกระดับบริการในอุตสาหกรรมต่าง ๆโดยเฉพาะบริการด้านสุขภาพที่เป็นหัวใจสำคัญในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอีกทั้งเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างการเติบโตและการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน ธนาคารจึงได้เข้าร่วมพัฒนาระบบนิเวศการดูแลสุขภาพของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมบริการในโรงพยาบาลรัฐขนาดใหญ่ที่ต้องรองรับการใช้บริการของประชาชนจำนวนมาก ล่าสุด ธนาคารกสิกรไทยได้สนับสนุนงบประมาณ 33.6 ล้านบาท แก่โรงพยาบาลสระบุรี เพื่อสร้างหอผู้ป่วยวิกฤตศัลยกรรมหัวใจและทรวงอก พร้อมจัดหาครุภัณฑ์ทางการแพทย์ รองรับการผ่าตัดหัวใจแบบเปิด-ผ่าตัดลิ้นหัวใจ เพื่อให้โรงพยาบาลสระบุรีซึ่งเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ในพื้นที่ภาคกลางสามารถรองรับผู้ป่วยโรคหัวใจได้อย่างเต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สร้างโอกาสและความเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการด้านสาธารณสุขให้แก่ผู้ใช้บริการทั้งในจังหวัดสระบุรีและใกล้เคียง

ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยจะเดินหน้าร่วมพัฒนาระบบนิเวศการดูแลสุขภาพของประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง ด้วยความมุ่งหวังที่จะร่วมเป็นกำลังสำคัญของประเทศในการช่วยให้ประเทศไทยมีความพร้อมที่จะดูแลประชาชน และรับมือกับสถานการณ์การเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ของประเทศมากยิ่งขึ้น โดยที่ผ่านมาธนาคารได้มีการร่วมพัฒนาดิจิทัลเฮลท์แคร์แพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มศักยภาพการให้บริการด้านสุขภาพให้แก่โรงเรียนแพทย์และโรงพยาบาลภาครัฐขนาดใหญ่ต่าง ๆ รวมทั้งการพัฒนาแอปพลิเคชัน "หมอพร้อม" ของกระทรวงสาธารณสุข และ "หมอ กทม." ของกรุงเทพมหานคร นอกจากนี้ ในอนาคตธนาคารจะมีการพัฒนาโครงการเพื่อช่วยส่งเสริมให้ประชาชนสามารถใช้บริการจากผู้ให้บริการขนาดเล็กที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้บริการคลินิก หรือบริการผ่านเทคโนโลยีที่เรียกว่าเฮลท์เทคได้อย่างทั่วถึง

นายแพทย์อนันต์ กมลเนตร ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสระบุรี เปิดเผยว่า โรงพยาบาลสระบุรีเป็นโรงพยาบาลศูนย์ระดับตติยภูมิ ขนาด 700 เตียงในเขตสุขภาพที่ 4 สังกัดกระทรวงสาธารณสุข มีศักยภาพเป็นศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะโรค ได้แก่ โรคมะเร็ง ทารกแรกเกิด อุบัติเหตุ โรคหัวใจ และการปลูกถ่ายอวัยวะ อีกทั้งทำหน้าที่เป็นศูนย์รับส่งต่อผู้ป่วยที่มีอาการซับซ้อนในจังหวัดสระบุรีและใกล้เคียง ทั้งนี้ตั้งแต่ปี 2555 โรงพยาบาลสระบุรีได้เริ่มพัฒนาศักยภาพเพื่อเปิดบริการศูนย์โรคหัวใจดูแลผู้ป่วยในเขตสุขภาพที่ 4 เนื่องจากสถิติพบว่า มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้นในทุกปี โดยมีทีมแพทย์เฉพาะทางโรคหัวใจที่สามารถรักษาผู้ป่วยที่มีภาวะเส้นเลือดหัวใจอุดตันด้วยวิธีการสวนหัวใจด้วยบอลลูนเพื่อขยายหลอดเลือด โดยในปี 2561-2564 มีผู้ป่วยได้รับการสวนหัวใจประมาณ 800-1,000 รายต่อปี แต่ด้วยข้อจำกัดในเรื่องบุคลากรทางแพทย์เฉพาะทางโรคหัวใจด้านผ่าตัดหัวใจแบบเปิด ทำให้มีจำนวนผู้ป่วยที่ต้องรอคิวการผ่าตัดหัวใจแบบเปิด 60-80 รายต่อปี ระยะเวลารอคอยประมาณ 1-2 เดือน และรอคิวผ่าตัดเปลี่ยนลิ้นหัวใจประมาณ 40-50 รายต่อปี ระยะเวลารอคอยประมาณ1 ปี

เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาที่ได้กล่าวมาข้างต้น ทีมผู้บริหารของโรงพยาบาลจึงได้วางแผนดำเนินการมาโดยตลอดจนสามารถทำการผ่าตัดหัวใจแบบเปิด (Opened Heart Surgery) ให้กับผู้ป่วยรายแรกได้สำเร็จ เมื่อเดือนมกราคม 2565 ขณะเดียวกันได้มีแพทย์ศัลยกรรมทรวงอก สำเร็จการศึกษากลับมาประจำการเพิ่มอีก 2 คน โรงพยาบาลจึงได้วางแผนขยายการให้บริการผ่าตัดหัวใจแบบเปิดให้กับผู้ป่วยที่รอคิวผ่าตัดเป็นจำนวนมาก โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากธนาคารกสิกรไทย ในการปรับปรุงพื้นที่ภายในอาคาร 100 ปีสาธารณสุขไทย ชั้น 6 เพื่อเปิดบริการหอผู้ป่วยวิกฤตสำหรับดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัดหัวใจ (ICU CVT) จำนวน 8 เตียง รวมทั้งจัดหาครุภัณฑ์ที่จำเป็นโดยได้ดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2565 ที่ผ่านมา

นายแพทย์อนันต์ กล่าวด้วยว่า เมื่อโรงพยาบาลสามารถเปิดให้บริการหอผู้ป่วยวิกฤตสำหรับดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัดหัวใจ (ICU CVT) จะทำให้โรงพยาบาลสามารถเปิดบริการผ่าตัดหัวใจแบบเปิดได้ตามแผนที่กำหนดไว้ผู้ป่วยได้รับการดูแลหลังผ่าตัดตามมาตรฐาน สามารถลดระยะเวลารอคอยในผู้ป่วยโรคหัวใจที่ได้รับการรักษาเบื้องต้นที่โรงพยาบาลสระบุรีและที่จำเป็นต้องรักษาด้วยการผ่าตัด และที่สำคัญโรงพยาบาลสระบุรีมีห้องผู้ป่วยวิกฤตสำหรับดูแลผู้ป่วยหลังผ่าตัดหัวใจที่มีความพร้อมในด้านอุปกรณ์ทีมแพทย์ และพยาบาลทีมสหสาขาวิชาชีพ ที่มีศักยภาพในการดูแลผู้ป่วยในอนาคต

ที่มา: ธนาคารกสิกรไทย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน