สรุปเทรนด์การเดินทางแห่งอนาคต: นักท่องเที่ยวไทยพร้อมบุกเบิกประสบการณ์ใหม่หรือแสวงหาความตื่นเต้นในปี 2576

พฤหัส ๐๙ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๓ ๑๓:๐๖
รายงานล่าสุดโดยอะมาดิอุส (Amadeus) บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลก และนอร์ทสตาร์ รีเสิร์ช พาร์ทเนอร์ส (Northstar Research Partners) บริษัทวิจัยระดับโลก ได้นิยามเทรนด์นักเดินทางใหม่ แบ่งเป็น 4 กลุ่มนักเดินทาง (Traveler Tribes) ที่จะกลายเป็นเทรนด์ท่องเที่ยวสำคัญในทศวรรษหน้าสรุปเทรนด์กลุ่มนักเดินทางใหม่ในอนาคต ซึ่งมาจากผลสำรวจนักเดินทางทั่วโลกกว่า 10,000 คนใน 14 ประเทศ รวมถึงการสัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญ การรวบรวมข้อมูล 5.8 ล้านจุด และการประยุกต์ใช้เทคนิคการแบ่งกลุ่มเชิงจิตวิทยาผลสำรวจพบว่า 50% ของคนไทยเป็นนักเดินทางที่พร้อมบุกเบิกประสบการณ์ใหม่ (Pioneering Pathfinders) ที่มีไลฟ์สไตล์เร่งรีบและมักมองหาการผจญภัยครั้งต่อไปอยู่เสมอการท่องเที่ยวระหว่างประเทศเดินหน้าฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากตัวเลขของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นจาก 175 ล้านคนในปี 2564 เป็น ประมาณ 474 ล้านคน ในช่วงเดือนมกราคม ถึง กรกฎาคม 2565

แล้วแนวโน้มการเดินทางในอีก 10 ปีข้างหน้าหรือในปี 2576 จะเป็นอย่างไร? อะมาดิอุส (Amadeus) บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำสำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั่วโลก และนอร์ทสตาร์ รีเสิร์ช พาร์ทเนอร์ส (Northstar Research Partners) บริษัทวิจัยระดับโลก ได้ร่วมกันจัดทำรายงานการสำรวจระดับโลก Traveler Tribes 2033 ซึ่งเป็นรายงานฉบับที่สามในโครงการศึกษาวิจัยที่เผยแพร่ครั้งแรกปี 2550 โดยรายงานฉนับล่าสุดที่ระบุถึงเทรนด์กลุ่มนักเดินทาง (Traveler Tribes) 4 กลุ่ม ที่คาดว่าจะเป็นเทรนด์ท่องเที่ยวสำคัญในอีก 10 ปีข้างหน้า โดยพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ได้แก่ การเปลี่ยนแปลงในอนาคตที่จะส่งผลกระทบต่อการเดินทาง ควบคู่ไปกับลักษณะนิสัย พฤติกรรม และความชอบของนักเดินทางเหล่านี้ เพื่อทำความเข้าใจว่านักเดินทางต้องการอะไรในอีกสิบปีนับจากนี้

รายงาน Traveler Tribes 2033 คาดการณ์ว่านักเดินทางจำนวนมากจะเปิดรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ และต้องการที่จะเดินทางด้วยวิธีที่ยั่งยืนมากขึ้น แต่เนื่องจากนักเดินทางบางคนมีข้อกังวลเกี่ยวกับเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่เพิ่มจำนวนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงความต้องการด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และการให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของข้อมูลที่เพิ่มขึ้น ทุกฝ่ายในอุตสาหกรรมการเดินทางจึงต้องทำงานร่วมกันเพื่อให้แน่ใจว่านักเดินทางทุกคนจะได้รับประโยชน์จากความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

แนวทางเชิงจิตวิทยาในรายงานผลสำรวจล่าสุดนี้มิได้ใช้วิธีการแบ่งเทรนด์นักเดินทางแบบดั้งเดิมที่ยังมีข้อจำกัด แต่ได้ระบุถึง 4 กลุ่มนักเดินทางที่จะกลายเป็นเทรนด์ท่องเที่ยวสำคัญในปี 2576 ดังต่อไปนี้

  • นักเดินทางที่แสวงหาความตื่นเต้น (Excited Experientialists) - จำนวน 23% ของคนไทยอยู่ในกลุ่มนี้และมีแนวการใช้ชีวิตและการเดินทางแบบ 'ลองทำดูก่อน' (try it and see) โดย 44% ของนักเดินทางกลุ่มนี้ทั่วโลกไม่มีลูกและมีรายได้ระดับกลางถึงสูง อีกทั้งยังมีวิถีการทำงานที่ยืดหยุ่น ซึ่งช่วยให้พวกเขาสามารถออกไปเดินทางสำรวจโลกได้อย่างง่ายดาย พวกเขานิยมวิธีการแบบ You Only Live Once (YOLO) (โอกาสที่จะใช้ชีวิตมีแค่ครั้งเดียว ควรใช้ให้คุ้ม) และมีแนวโน้มที่จะทำตามสัญชาตญาณมากกว่านักเดินทางกลุ่มอื่น ทำให้พวกเขาเป็นนัก 'ต่อต้านการวางแผน' แห่งปี 2576 ทั้งยังชอบเปิดรับประสบการณ์การเข้าพักที่คาดเดาไม่ได้หรือไม่ได้วางแผนไว้ รวมถึงมีความน่าตื่นเต้นมากกว่าที่พักทั่วไป พวกเขายังเปิดรับเทคโนโลยีที่ช่วย 'เพิ่มความเร็ว' ในบางแง่มุมของการเดินทาง โดยหลายคนคาดหวังว่าจะใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่สนามบินด้วย
  • นักเดินทางที่ต้องการสร้างความทรงจำสุดประทับใจ (Memory Makers) - มีคนไทยเพียง 12% เท่านั้นที่อยู่ในกลุ่มนี้ นักเดินทางกลุ่มนี้มีเป้าหมายและสไตล์การท่องเที่ยวที่เรียบง่ายกว่า นั่นคือการสร้างความทรงจำและเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ โดย 44% ของนักเดินทางกลุ่มนี้ทั่วโลกมีอายุ 42 ปีขึ้นไปและมีพฤติกรรมเฉพาะตัวในการเดินทาง พวกเขามองว่าอนาคตเป็นสิ่งที่น่ากังวลและให้ความสำคัญกับผู้คนเป็นอันดับแรก และให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและความยั่งยืนรองลงมา พวกเขารู้สึกมั่นใจและอุ่นใจกับวิธีการเดิม ๆ อย่างไรก็ตาม แม้พวกเขาจะกังวลเกี่ยวกับเทคโนโลยี แต่ก็ยังรู้สึกตื่นตาตื่นใจกับทัวร์ชมตัวอย่างด้วยเทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน (Virtual reality: VR) และความเป็นจริงเสริม (Augmented Reality: AR) โดยคาดว่านักเดินทางกลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะใช้ทัวร์ชม VR ก่อนจะตัดสินใจซื้อทัวร์
  • นักเดินทางที่ชอบใช้เทคโนโลยีในการท่องเที่ยว (Travel Tech-fluencers) - จำนวน 15% ของคนไทยจัดอยู่ในกลุ่มนี้ ซึ่งรวมถึงนักเดินทางเพื่อธุรกิจรุ่นใหม่ในปัจจุบันที่มีมุมมองการใช้ชีวิตที่พร้อมปรับเปลี่ยนไปกับอนาคต โดย 48% ของนักเดินทางกลุ่มนี้ทั่วโลกมีอายุต่ำกว่า 32 ปี และมุมมองของพวกเขาปรับไปตามอุปกรณ์และเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่พวกเขามีและใช้อยู่ อย่างไรก็ตาม พวกเขาอาจยังไม่แน่ใจเมื่อพูดถึงสิ่งที่ทำให้ตื่นเต้นและกังวลเกี่ยวกับอนาคตของเทคโนโลยีและการเดินทาง แม้หลายคนต้องการเดินทางอย่างยั่งยืน แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะให้ความสำคัญกับวิธีเดินทางเพื่อความยั่งยืนมากกว่าที่พักเพื่อความยั่งยืน
  • นักเดินทางที่พร้อมบุกเบิกประสบการณ์ใหม่ (Pioneering Pathfinders) - คนไทยครึ่งหนึ่ง (50%) จัดอยู่ในกลุ่มนักเดินทางนี้ โดยเป็นกลุ่มที่มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่เร่งรีบและมองหาการผจญภัยครั้งต่อไปอยู่เสมอ นักเดินทางกลุ่มนี้ทั่วโลกใช้ชีวิตแบบเต็มที่และสุดเหวี่ยง โดย 82% ของกลุ่มนี้มีอายุระหว่าง 23 ถึง 41 ปี พวกเขาชอบวางแผนแต่ก็ไม่กลัวความเสี่ยงและเปิดรับประสบการณ์ใหม่ ๆ พร้อมเต็มใจมากกว่านักเดินทางกลุ่มอื่น ๆ ที่จะเลือกความยั่งยืนในการเดินทาง พวกเขาสบายใจมากที่จะใช้วิธีการชำระเงินทางเลือกทุกรูปแบบในปี 2576 ไม่ว่าจะผ่านสกุลเงินดิจิทัลหรือผ่านเทคโนโลยี VR ก็ตาม

ผลสำรวจยังเผยให้เห็นว่าคนไทยตั้งตารอที่จะ:

  • นำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อช่วยลดปัญหาระหว่างการเดินทาง (42%)
  • วางแผนการเดินทางได้รวดเร็วขึ้นด้วย AI (38%)
  • เดินทางไปยังจุดหมายปลายทางได้เร็วขึ้น (38%)

ในขณะเดียวกัน เทคโนโลยีใหม่ 3 อันดับแรกที่คาดว่านักเดินทางชาวไทยจะสนใจในปี 2576 ได้แก่ การสามารถชำระเงินเพื่อทริปการเดินทางด้วยสกุลเงินดิจิทัล ไม่ว่าจะในรูปแบบเสมือนจริงหรือผ่านการจดจำใบหน้า รวมถึงการใช้ข้อมูลเพื่อสร้างการเดินทางที่เกี่ยวข้อง และการใช้แอปพลิเคชันที่มีทุกอย่างที่จำเป็นในการวางแผนการเดินทาง

นายเดซิอัส วัลมอร์ไบดา (Decius Valmorbida) ประธานฝ่ายการเดินทางของอะมาดิอุส กล่าวว่า "ในฐานะผู้ให้บริการในอุตสาหกรรม เราต้องการส่งมอบประสบการณ์การเดินทางที่ทั้งสร้างแรงบันดาลใจและน่าประทับใจให้แก่นักเดินทาง และเราสามารถทำเช่นนั้นได้ด้วยการทำความเข้าใจเหล่านักเดินทางว่า พวกเขาต้องการอะไรทั้งในปัจจุบันและอนาคต เมื่อมองไปยังอนาคตข้างหน้า มันชัดเจนว่าสิ่งที่นักเดินทางที่แสวงหาความตื่นเต้น (Excited Experientialists) ต้องการจะแตกต่างจากนักเดินทางที่ต้องการสร้างความทรงจำที่ประทับใจ (Memory Makers) และเมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้ามากขึ้นด้วย AI, ไบโอเมตริก และเมตาเวิร์ส (Metaverse) เราก็จะสามารถส่งมอบประสบการณ์การเดินทางที่ตอบโจทย์ความต้องการของนักเดินทางแต่ละกลุ่มได้อย่างเฉพาะตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นความต้องการด้านความเร็ว ความสะดวกสบาย ความอุ่นใจและมั่นใจ หรือความตื่นเต้นแปลกใหม่ก็ตาม"

นายปาโก้ เปเรซ-โลซาโอ รือเธอร์ (Paco Perez-Lozao Rueter) ประธานฝ่ายการบริการของอะมาดิอุส กล่าวว่า "การเดินทางเป็นเรื่องของสถานที่ที่เราพัก จุดหมายปลายทางที่เราไปเยือน และประสบการณ์ที่เราได้รับ สิ่งสำคัญที่พวกเราต้องตระหนักก็คือเมื่อเราเดินทาง เราจะต้องสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสถานที่ที่เราไปเยือน และเป็นมุมมองที่กำลังได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ความชอบของนักเดินทางจะมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง รายงานการสำรวจล่าสุดนี้ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของการเดินทางในอนาคต เราทุกคนมีความต้องการด้านการเดินทางที่แตกต่างกัน โดยสิ่งเหล่านี้ขึ้นอยู่กับว่าเราเดินทางกับใคร และประสบการณ์ที่เรามองหาคืออะไร ความท้าทายสำหรับอุตสาหกรรมนี้คือการปรับตัวให้เข้ากับความต้องการที่เปลี่ยนแปลงของผู้คน เพื่อให้แน่ใจว่าจุดหมายปลายทางและสถานที่ต่าง ๆ สามารถตอบโจทย์ความต้องการของนักเดินทางได้อย่างตรงจุด"

นายการุณ พุทธราชา (Karun Budhraja) รองประธานอาวุโสฝ่ายการตลาดด้านการเดินทางประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของอะมาดิอุส กล่าวว่า "ภูมิทัศน์ด้านการเดินทางในตลาดทั่วเอเชียแปซิฟิกนั้นมีความหลากหลายอย่างไม่น่าเชื่อ เมื่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง รายงาน Traveler Tribes 2033 ได้เผยให้เห็นภาพรวมของปัจจัยที่สำคัญที่สุดสำหรับนักเดินทางในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางที่ยั่งยืนหรือเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ ไปจนถึงพฤติกรรมและค่านิยมที่เหล่านักเดินทางมองหาสำหรับการเดินทาง ปัจจัยเหล่านี้จะกำหนดรูปแบบอุตสาหกรรมการเดินทางและการท่องเที่ยวในปี 2576 และในอนาคตต่อ ๆ ไป"

รายงาน Traveler Tribes 2033 เป็นรายงานฉบับที่สามในโครงการรายงานศึกษาวิจัย Traveler Tribes ของอะมาดิอุส ซึ่งเผยแพร่รายงานฉบับแรกในปี 2550 และฉบับที่สองในปี 2558 รายงานการสำรวจนี้เป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจความมุ่งมั่นของอะมาดิอุสในการขับเคลื่อนนวัตกรรมในระดับต่าง ๆ และช่วยยกระดับประสบการณ์การเดินทางให้ดีขึ้นสำหรับทั้งนักเดินทางและบริษัทท่องเที่ยวทุกแห่งทั่วโลก

นายแจ็ค ไมล์ส (Jack Miles) หัวหน้านักวิจัยและผู้อำนวยการอาวุโสของนอร์ทสตาร์ รีเสิร์ช พาร์ทเนอร์ส กล่าวว่า "การคาดการณ์อนาคตเป็นเรื่องยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการเดินทาง เนื่องจากการเดินทางเป็นเรื่องเกี่ยวกับมนุษย์ วิธีคิด และพฤติกรรมของมนุษย์ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเรื่องซับซ้อนเนื่องจากพฤติกรรมของผู้คนไม่ได้อยู่บนพื้นฐานของเหตุผลตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม การใช้รายงานการวิจัยนักเดินทางอย่างครอบคลุมอาศัยข้อมูลการวิเคราะห์ด้านพฤติกรรมศาสตร์และจิตวิทยาผู้บริโภค ควบคู่ไปกับข้อมูลเชิงลึกของผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา เช่น การคาดการณ์ เทคโนโลยีและวิชาการ และการวิเคราะห์ข้อมูล รายงานผลสำรวจล่าสุดนี้ได้เผยให้เห็นข้อมูลเชิงลึกมากมายที่ช่วยให้เราเข้าใจนักเดินทางและคาดการณ์พฤติกรรมในอนาคตของพวกเขาได้ ด้วยความสำคัญและความท้าทายในเรื่องของความยั่งยืน ไปจนถึงความต้องการสร้างความมั่นใจให้กับนักเดินทางเกี่ยวกับบทบาทของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป สิ่งหนึ่งที่ชัดเจนคือ การเดินทางจะยังคงมีบทบาทสำคัญในการทำให้ชีวิตของผู้คนดีขึ้นเมื่อเราก้าวสู่ปี 2576"

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงาน Traveler Tribes 2033 และเทรนด์กลุ่มนักเดินทางในอนาคต ได้ที่ amadeus.com/traveler-tribes

มาลองทำแบบทดสอบของเรา! เพื่อดูว่าคุณเป็นนักเดินทางประเภทใด:

https://amadeussurvey.typeform.com/traveler-tribes

หมายเหตุสำหรับบรรณาธิการ:

เกี่ยวกับอะมาดิอุส (Amadeus)

เพราะการเดินทางช่วยขับเคลื่อนความก้าวหน้า อะมาดิอุส (Amadeus) จึงพร้อมขับเคลื่อนการเดินทางเพื่อทุกคน โซลูชั่นเพื่อการเดินทางของอะมาดิอุสช่วยให้เหล่านักเดินทางสามารถเชื่อมต่อเข้ากับทรัพยากรสำคัญด้านการท่องเที่ยวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทตัวแทนท่องเที่ยว เสิร์ชเอนจิน (Search Engine)  ผู้จัดการทัวร์ สนามบิน โรงแรม รถโดยสาร และรถไฟ

อะมาดิอุสได้พัฒนาเทคโนโลยีของเราร่วมกับภาคส่วนต่าง ๆ ในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวมานานกว่า 30 ปี  เราได้รวบรวมและผสมสานความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับวิธีการเดินทางของผู้คนเข้ากับความสามารถในการออกแบบและส่งมอบระบบที่ซับซ้อนและเชื่อถือได้ตามความต้องการของลูกค้า โดยในปีพ.ศ. 2562 เราช่วยเชื่อมต่อผู้คนกว่า 1.9 พันล้านคนเข้ากับผู้ให้บริการท่องเที่ยวท้องถิ่นในกว่า 190 ประเทศ

เราเป็นบริษัทที่มีแนวคิดระดับโลกและดำเนินการอยู่ในแต่ละประเทศที่ลูกค้าต้องการเรา

จุดประสงค์ของเราคือสร้างอนาคตแห่งการเดินทาง และเรายังมุ่งมั่นแสวงหาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะช่วยยกระดับการเดินทางของคุณให้ดียิ่งขึ้น

อะมาดิอุสเป็นบริษัท IBEX 35 ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์สเปนภายใต้ AMS.MC   นอกจากนี้ อะมาดิอุสยังได้รับการรับรองจากดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ในช่วงสิบปีที่ผ่านมาอีกด้วย

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับอะมาดิอุสได้ที่ www.amadeus.com

ติดตามเราได้ในช่องทางต่าง ๆ ที่: Facebook  | Twitter | Linkedin | Youtube | Website  



ที่มา:  พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง