LEO ทรงอย่างดี! กำไรปี 65 แตะ 306.4 ลบ.ทำสถิตินิวไฮต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน บอร์ดอนุมัติปันผล 0.20 บ./หุ้น ขึ้น XD วันที่ 9 พ.ค.2566 นี้

จันทร์ ๒๐ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๓ ๑๐:๒๒
บมจ.ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์(LEO) โชว์กำไรปี 2565 ที่ 304.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% จากปีก่อน โดยทำสถิติ New High ในรอบ 3 ปีตั้งแต่ปี 2562 ขณะที่บอร์ดใจดีอนุมัติจ่ายเงินปันผลอัตรา 0.20 บาท/หุ้น เตรียมขึ้น XD วันที่ 9 พฤษภาคม 2566 และกำหนดจ่ายเป็นเงินสดวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 ฟากซีอีโอ "เกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์" ระบุปี 2566 ตั้งเป้า Gross Profit Margin เพิ่มขึ้นเป็น 15-20% เน้นการลงทุนธุรกิจใหม่ที่เป็น Non Freight มีกำไรขั้นต้นสูงถึง 40-45% ควบคู่การเดินหน้าลุยเจรจาปิดดีล JV และ M&A ทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงผลักดันธุรกิจการขนส่งทางรถไฟและการเป็นตัวแทนจัดหาสินค้าไปยังประเทศจีน สนับสนุนอนาคตเติบโตก้าวกระโดด
LEO ทรงอย่างดี! กำไรปี 65 แตะ 306.4 ลบ.ทำสถิตินิวไฮต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน บอร์ดอนุมัติปันผล 0.20 บ./หุ้น ขึ้น XD วันที่ 9 พ.ค.2566 นี้

นายเกตติวิทย์ สิทธิสุนทรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LEO เปิดเผยว่าภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2565 บริษัทฯมีกำไรสุทธิ(ส่วนของผู้ถือหุ้นบริษัทใหญ่) อยู่ที่ 304.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 198.8 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิทำสถิติ New High ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 นับตั้งแต่บริษัทฯเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในปี 2562 และเป็นปีที่ 5 หากนับต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2560

ขณะที่ปี 2565 บริษัทฯมีรายได้รวมอยู่ที่ 4,495.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมเท่ากับ 3,369.7 ล้านบาท และมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ระดับ 20% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 19% ปัจจัยที่สนับสนุนให้กำไรสุทธิปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่อง เป็นผลจากความสามารถในการสร้างรายได้ และบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ของบริษัท ที่ได้มีการปรับแผนการตลาดและการขาย ให้เหมาะสมกับสถานการณ์การตลาดและการแข่งขันที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาได้อย่างดีเยี่ยม

"แม้ว่ารายได้รวมในไตรมาส 4/2565 จะลดลง จากไตรมาส 3/2565 เนื่องจากสถานการณ์ค่าระวางทางเรือที่ปรับตัวลดลงทั่วโลก แต่บริษัทฯ ก็ยังมีความสามารถในการบริหารจัดการเชิงกลยุทธ์ และสามารถรักษาระดับอัตราการทำกำไรขั้นต้นไว้ได้ในระดับที่ดี โดยล่าสุดมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 26 % จากงวดไตรมาสที่ 3/2565 อยู่ที่ 23% "

ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566 ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีหลังของปี 2565 ให้กับผู้ถือหุ้นเป็นเงินสด ในอัตรา 0.20 บาท/หุ้น เป็นจำนวนเงิน 63.01 ล้านบาท และกำหนดขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 เมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่จ่ายไปแล้วเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2565 ที่ 0.20 บาท เท่ากับบริษัทฯจ่ายเงินปันผลเป็นจำนวนเงิน 0.40 บาทต่อหุ้น

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 LEO เดินตามแผนยุทธศาสตร์ "365 Degree Collaboration" ตั้งเป้าเป็นปีแห่งการก้าวสู่ความเป็นบริษัท Blue Chip Stock ของผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจรที่มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดและยั่งยืน โดยวางเป้าการเติบโตของ Gross Profit Margin ในปี 2566 เพิ่มขึ้น 15-20% จากปีก่อน เน้นการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่เป็น Non Freight และมีกำไรขั้นต้นมากกว่า 40-45% เช่น Self Storage,Container Depot, Warehouse & Logistics Center และ Cold Chain Logistics โดยจะร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจเพื่อพัฒนาโครงการ ใหม่ๆ ซึ่งเมื่อรวมรายได้จากบริษัท JV ใหม่ที่เกิดขึ้นและการขยายงานของทางบริษัทเองก็จะทำให้รายได้ของธุรกิจ Non-Freight ของบริษัทฯ มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

รวมทั้งบริษัทฯ ยังเดินหน้าพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ ที่เป็น Non Logistics โดยจะทำการต่อยอดธุรกิจกัญชงและกัญชาที่ได้มีการลงนาม MOU กับทางวิสาหกิจชุนชนสุขฤทัย และบริษัท แคนบิซ จำกัด ให้สามารถพัฒนาขึ้นมาเป็นธุรกิจใหม่และสร้างรายได้ให้กับทางบริษัทฯในอนาคตอันใกล้ รวมถึงการพัฒนาธุรกิจการเป็นตัวแทนในการซื้อสินค้าจากประเทศไทยเพื่อส่งให้ E-commerce Platform ของ China Post และ Tengjin ภายใต้ชื่อ บริษัท ลีโอ ซอร์สซิ่ง แอนด์ ซัพพลายเชน จำกัด ที่ปัจจุบันมีคำสั่งซื้อสินค้าที่เป็นทุเรียนและผลไม้อื่นๆเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยบริษัทฯเชื่อว่าธุรกิจ Non Freight และ Non Logistics ใหม่ทั้งหมดนี้ จะสามารถสร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญในช่วง 1-3 ปีข้างหน้า และมีกำไรขั้นต้นในระดับสูง ซึ่งจะสามารถมาทดแทนรายได้ค่าระวางเรือที่เริ่มปรับตัวลดลงตามแนวโน้มอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ในปี 2566 บริษัทฯ ก็มีความพร้อมในการพัฒนาและทำการตลาดการขนส่งสินค้าทางรถไฟระหว่างไทย - จีน แบบ End-to-End กับทาง China Post ที่เป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการของทางการรถไฟจีนในการทำการตลาดการขนส่งทางรางไทย-จีน และบริษัทฯก็ยังได้มีการจัดตั้งบริษัทใหม่ร่วมกับทาง บริษัท เบาไทย อินเด็กซ์ แอสโซซิเอท จำกัด และ บริษัท ศรีตรังโลจิสติกส์ จำกัด ภายใต้ชื่อ บริษัท ล้านช้าง เอ๊กซ์เพรส จำกัด เพื่อร่วมทำการขนส่งสินค้าทางรางระหว่างประเทศจีนมายังประเทศไทย และประเทศไทยยังประเทศประเทศจีน รวมถึงการใช้ประเทศไทยเป็น Logistics Hub ในการส่งสินค้าไปยังกลุ่มประเทศเอเชียใต้ หรือกลุ่มประเทศ Bimstec ซึ่งมีปริมาณสินค้ามากกว่า 100,000 ตันต่อปี

ปัจจุบันบริษัทฯกำลังทำการศึกษาที่จะจัดตั้งบริษัทใหม่เพื่อลงทุนในระบบการขนส่งสินค้า Cold Chain ไปยังประเทศจีนทางรถไฟ เพื่อรองรับการส่งออกสินค้าผลไม้จากไทยไปจีนทางบกที่มีปริมาณสูงถึง 420,000 ตันต่อปี และมีมูลค่าส่งออกมากกว่า 3.3 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ในฤดูกาลส่งออกผลไม้ของปี 2566 นี้ทาง LEO มีความพร้อมที่สุดในแง่ของเครือข่ายการขนส่งทางรถไฟในประเทศจีน ลาว และไทย รวมถึงการมีเครือข่ายตัวแทนในแต่ละประเทศ เพื่อประสานงานและดูแลงานให้กับลูกค้าของบริษัทฯด้วยโครงสร้างราคาที่ดีกว่าผู้ประกอบการรายอื่นๆ

อีกทั้ง LEO ในปี 2566 บริษัทฯมีแผนที่จะร่วมกับพันธมิตรในธุรกิจการขนส่งทางบก ที่จะจัดตั้งบริษัทใหม่เพื่อให้บริการการขนส่งในลักษณะของ Green Logistics ที่จะให้บริการขนส่งและการกระจายสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสร้างความยั่งยืน (Sustainability) โดยใช้รถพลังงานไฟฟ้า ลดการใช้พลังงานที่ก่อให้เกิดมลพิษและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน (Carbon Emission) โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้สามารถลดภาวะโลกร้อนและเปลี่ยนให้เป็น Carbon Credit ให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการของบริษัทฯ

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าเรื่องการเจรจาเพื่อซื้อกิจการ (M&A) กับพันธมิตรที่เป็นบริษัทชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกหลายประเทศ เช่น เป็นประเทศกัมพูชา เบลเยี่ยม สิงคโปร์ และสาธารณรัฐประชาชนจีน คาดว่าจะมีความชัดเจนในไตรมาส 2/2566 และสามารถรับรู้รายได้ภายในไตรมาสที่ 3-4/2566 ซึ่งการ M&A หลายๆ โครงการนี้ จะสนับสนุนการเติบโตทั้งในด้านธุรกิจและรายได้อย่างก้าวกระโดด โดยบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะมีรายได้ใหม่ๆที่เกิดจากธุรกิจ JV ใหม่ๆและ M&A ทั้งหมดนี้ประมาณ 300-700 ล้านบาทในอีก 1-3 ปีข้างหน้า

"บริษัทฯเชื่อมั่นว่าในปี 2566 LEO จะยังคงรักษาระดับการเติบโตของกำไรขั้นต้นและผลประกอบการอย่างต่อเนื่อง เพราะบริษัทฯจะเริ่มรับรู้รายได้จากการขนส่งสินค้าทางรางไปยังประเทศจีนนับตั้งแต่ปลายไตรมาส 1/2566 รวมถึงเริ่มรับรู้รายได้ และกำไรจากโครงการ JV ใหม่ๆที่เป็น Non Freight และ M&A ที่จะเกิดขึ้นในปี 2566 ซึ่งจะทำให้รายได้ กำไรขั้นต้นและผลประกอบการของบริษัทฯเติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง" นายเกตติวิทย์ กล่าวในที่สุด

ที่มา: ลีโอ โกลบอล โลจิสติกส์

LEO ทรงอย่างดี! กำไรปี 65 แตะ 306.4 ลบ.ทำสถิตินิวไฮต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน บอร์ดอนุมัติปันผล 0.20 บ./หุ้น ขึ้น XD วันที่ 9 พ.ค.2566 นี้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง