TCAP ผลงานปี 65 กำไรจากการดำเนินงานปกติโต 13.7% บริษัทร่วมและบริษัทย่อยหนุน พร้อมเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จ

พุธ ๒๒ กุมภาพันธ์ ๒๐๒๓ ๐๙:๓๒
บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TCAP เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2565 มีกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมจำนวน 6,428 ล้านบาท โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนของบริษัทฯ จำนวน 5,220 ล้านบาท เป็นผลมาจากบริษัทร่วมและบริษัทย่อยมีผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการลงทุนเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทร่วมและบริษัทย่อย และการขยายสินเชื่อผ่านธนชาตพลัส

นายสมเจตน์ หมู่ศิริเลิศ กรรมการผู้จัดการใหญ่ TCAP เปิดเผยว่า "ในปี 2565 บริษัทฯและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิตามงบการเงินรวมจำนวน 6,428 ล้านบาท โดยเป็นกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทฯ จำนวน 5,220 ล้านบาท ลดลง ร้อยละ 1.27 จากปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักมาจากรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยปรับตัวลดลง เนื่องจากในปี 2564 บริษัทฯ รับรู้รายได้ที่เป็นรายการพิเศษจากการโอนกลับสำรอง NPA ทั้งนี้ หากไม่รวมรายการพิเศษจากการโอนกลับสำรอง NPA ดังกล่าว บริษัทฯ จะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.7 ซึ่งเกิดจากผลการดำเนินงานของบริษัทย่อยและบริษัทร่วมที่สำคัญเติบโตขึ้นและสามารถทำผลงานได้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 คลี่คลายลง ประกอบกับการที่บริษัทฯ ลงทุนเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม รวมไปถึงการขยายสินทรัพย์ผ่านการให้เงินกู้ยืมแก่ ธนชาตพลัสในการปล่อยสินเชื่อที่มีหลักประกันซึ่งเป็นการลงทุนในธุรกิจที่บริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญ โดยบริษัทฯ มีความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจของบริษัทเหล่านี้จะสร้างผลตอบแทนเพิ่มขึ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นในอนาคต

อย่างไรก็ตาม การลงทุนเพิ่มขึ้นและการขยายสินทรัพย์ดังกล่าว บริษัทฯ ยังไม่ได้รับประโยชน์เต็มปีในปี 2565 ที่ผ่านมา กล่าวคือ บริษัทฯ เพิ่มสัดส่วนการลงทุนใน ธนาคารทหารไทยธนชาต จากร้อยละ 23.32 เป็นร้อยละ 24.87 และราชธานีลิสซิ่ง จากร้อยละ 60.16 เป็นร้อยละ 60.61 ในช่วงระหว่างปี 2565 และซื้อหุ้นของธนชาตประกันภัยและหลักทรัพย์ธนชาต เพิ่มเติมในไตรมาส 4 ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นของทั้ง 2 บริษัทเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 50.96 เป็นร้อยละ 89.96 รวมถึงขยายสินทรัพย์ผ่านการให้เงินกู้ยืมแก่ ธนชาตพลัส ส่งผลให้สินเชื่อเติบโตจาก 2,000 ล้านบาท เป็น 4,000 ล้านบาท ซึ่งรวมเป็นเงินลงทุนและเงินให้สินเชื่อเพิ่มเติมจำนวน 8,267 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10.8 จากพอร์ตเงินลงทุนและเงินให้สินเชื่อปี 2564 ของบริษัทฯ แต่เม็ดเงินที่ใส่เพิ่มเข้าไปนั้นจะได้รับผลตอบแทนเต็มปีในปี 2566 นี้ โดยการเติบโตในปี 2566 จะมาจาก 2 ส่วนด้วยกันคือ จากการเติบโตของบริษัทย่อยและบริษัทร่วม ที่คาดว่าจะมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นหลังจากผ่านพ้นวิกฤตโควิด และจากเงินลงทุนที่ใช้เพิ่มสัดส่วนการลงทุนในบริษัทย่อยและบริษัทร่วม รวมทั้งเงินให้กู้ยืมเพิ่มเติมแก่ธนชาตพลัส สิ่งที่ฝ่ายจัดการได้ดำเนินการมาทั้งหมดก็เพื่อเป็นการต่อยอดความสำเร็จของกลุ่มธนชาต เพื่อโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้นต่อไปในอนาคต"

ที่มา: ทุนธนชาต

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๐:๔๙ ไอแบงก์ ลงนาม MOU สินเชื่อสวัสดิการแก่ข้าราชการและลูกจ้างประจำ สำนักงานศาลยุติธรรม กว่า 16,000 คน ทั่วประเทศ
๑๐:๕๔ รวม 4 วิธีที่ช่วยปรับให้รถที่ขับอยู่นุ่มนวลขึ้นเหมือนได้คันใหม่
๑๐:๔๘ ซีพีแรม เปิดตัว FTEC (Food Technology Exchange Center) ศูนย์ความร่วมมือและแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีอาหาร
๑๐:๑๔ iQIYI (อ้ายฉีอี้) เดินหน้ารุกตลาดยกระดับวงการ จัดงาน iQIYI 2025 World Conference เปิดตัวพรีเมียมไลน์อัพกว่า 400
๑๐:๑๓ บล.เกียรตินาคินภัทร แนะ 5 หุ้นนอกคุณภาพ นำโดย Netflix และ Mastercard คว้าโอกาสท่ามกลางตลาดผันผวน
๑๐:๓๖ อบอุ่นมาก! จิม ทอมป์สัน x ซี-นุนิว เสิร์ฟความฟินขั้นสุดกับ Exclusive Lucky Fan Dinner ค่ำคืนสุดพิเศษที่เหล่า ซนซน
๑๐:๕๓ เวียตเจ็ทเสริมฝูงบิน เดินหน้ารุกตลาดญี่ปุ่น ขยายเส้นทางระหว่างประเทศ หนุนแผนเติบโตปี 2568
๑๐:๕๖ เบทาโกร ได้รับการยกระดับ CAC ในระดับสูงสุด ตอกย้ำการดำเนินธุรกิจด้วยหลักธรรมาภิบาล ซื่อสัตย์ และโปร่งใส
๐๙:๓๖ เฮ้าส์ สามย่าน จัดสองเทศกาลภาพยนตร์คุณภาพ กับ MOVIEMOV Italian Film Festival 2025 และ European Union Film Festival
๐๙:๑๑ จากไอดอลสู่หมอผี! ซอฮยอนฟาดหนัก เสิร์ฟความเดือด Holy Night: Demon Hunters คนต่อยผี 8 พ.ค.นี้