นายบุญชัย สุวรรณวุฒิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ผลธัญญะ จำกัด (มหาชน) หรือ PHOL ผู้ประกอบธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าเพื่อความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมครบวงจร รายใหญ่ของประเทศไทย เผยว่า ในปี 2566 บริษัทฯมองเห็นโอกาสจากภาคอุตสาหกรรมฟื้นตัวหลังสถานการณ์โควิดคลี่คลาย รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การลงทุนระบบโครงสร้างพื้นฐานและการขนส่งต่างๆจากภาครัฐ สนับสนุนดีมานด์สินค้าและบริการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสิ่งแวดล้อมของบริษัท โดย บริษัทมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าและบริการเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเดิมและขยายไปยังอุตสาหกรรมใหม่ที่เป็นเทรนด์การเติบโตในอนาคต เช่น ตลาดรถยนต์ไฟฟ้า อุตสาหกรรมการแพทย์ เป็นต้น โดยปี 2566 วางเป้ารายได้เติบโตราว 15% จาก 3 ธุรกิจหลักของบริษัท
ธุรกิจกลุ่มสินค้าด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อม หรือ SAFETY ซึ่งมีสัดส่วนราว 75% ของรายได้ในปี 2565 คาดว่าภาคอุตสาหกรรมหลักต่างๆจะฟื้นตัวกลับมาและมีการขยายตัวที่ดีขึ้น และการเปิดประเทศทำให้การท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก การลงทุนและการขยายงานในภาคอุตสาหกรรมและหน่วยงานภาครัฐเริ่มฟื้นตัวดีขึ้น ส่งผลดีต่อธุรกิจของบริษัท โดยบริษัทฯ ให้ความสำคัญในการพัฒนาสินค้าและบริการ ทำการตลาดเพื่อขยายฐานลูกค้าทั้งในกลุ่มอุตสาหกรรมเดิมและอุตสาหกรรมใหม่ที่มีทิศทางเติบโตในอนาคต และการพัฒนาช่องทางออนไลน์ต่อเนื่องให้สามารถรองรับตลาดผู้บริโภคได้เพิ่มขึ้น
ด้านธุรกิจกลุ่มสินค้าเพื่อการควบคุมสภาพแวดล้อม หรือ CE มีสัดส่วนราว 22% ของรายได้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์เป็นหลัก มีแนวโน้มการเติบโตจากการใช้เทคโนโลยีเพิ่มขึ้น ฐานโรงงานอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทยมีการขยายการผลิตเพิ่มขึ้น การลงทุนในเขต EEC หนุนลูกค้าต่างชาติในกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ย้ายฐานการลงทุนมาประเทศไทย เป็นโอกาสให้ธุรกิจ CE เติบโตขึ้น นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนพัฒนาสินค้า CE ในกลุ่มอุตสากรรมการแพทย์ซึ่งมีแนวโน้มเติบโตในอนาคต
สำหรับธุรกิจสินค้าและบริการด้านระบบบำบัดน้ำเพื่ออุปโภคหรือบริโภค หรือ WATER มีสัดส่วนราว 3% ของรายได้ คาดตลาดยังมีโอกาสเติบโตสูง มีปัจจัยสนับสนุนจากลูกค้าที่มีแนวโน้มให้ความสำคัญในด้านสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น ทั้งเรื่องการดูแลบำบัดน้ำเสีย และการทำระบบรีไซเคิลน้ำเพื่อลดต้นทุนและแก้ปัญหาภัยแล้ง บริษัทมุ่งเน้นการให้บริการโครงการระบบน้ำในกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมเป็นหลัก รวมทั้ง ร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อเพิ่มโอกาสในการรับงานโปรเจกต์ขนาดกลางถึงขนาดใหญ่
สำหรับผลประกอบการงวดประจำปี 2565 (สิ้นสุด 31 ธันวาคม 2565) มีรายได้จากการขายและให้บริการรวมอยู่ที่ 1,000.48 ล้านบาท และมีผลกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่จำนวน 54.04 ล้านบาท โดยที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นสำหรับงวดครึ่งปีหลัง ในอัตราหุ้นละ 0.12 บาท รวมทั้งปีปันผลในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท โดยจะขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 27 เมษายน 2566 นี้ กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิประชุมผู้ถือหุ้นและได้รับปันผล (Record date) วันที่ 3 มีนาคม 2566 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 19 พฤษภาคม 2566
ที่มา: ไออาร์ พลัส
