นางสาวปิยจิต รักอริยะพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็ปเป้ จำกัด (มหาชน) หรือ SAPPE เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดวิตามินและอาหารเสริมของไทยมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2020 มีมูลค่าตลาดรวมสูงถึง 25,269 ล้านบาท ซึ่งในภาพรวมดังกล่าว ตลาดคอลลาเจนมีสัดส่วนสูงสุดถึง 5,000 ล้านบาท และมีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยปีละ 5.9 % (อ้างอิงจากบทวิเคราะห์ Grand View Research) และเมื่อย้อนดูสถิติการค้นหาคำว่า "Collagen" ใน Google จะพบว่า ตั้งแต่ปี 2017 เป็นต้นมา มียอดการค้นหาเพิ่มสูงขึ้นถึง 212% เลยทีเดียว นับเป็นการตอกย้ำว่าผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของคอลลาเจนยังคงเป็นตลาดที่ทรงอิทธิพลอย่างมากในอุตสาหกรรมสุขภาพและความงาม
เซ็ปเป้ในฐานะผู้นำตลาดเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลในไทยแบรนด์ เซ็ปเป้ บิวติ ดริ้งค์ มายาวนาน มีฐานลูกค้าที่เหนียวแน่น มองเห็นโอกาสในช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีกรายย่อยหรือร้านโชห่วย (Traditional Trade) ที่ปัจจุบันยังไม่ค่อยมีสินค้าประเภทคอลลาเจนจัดจำหน่ายในช่องทางนี้ จึงได้พัฒนาและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่แบรนด์ "เซ็ปเป้ บิวติ พาวเดอร์ สติกซ์" (Sappe Beauti Powder Stix) เพื่อตอบโจทย์เรื่องของความงามในรูปแบบคอลลาเจนผง กลิ่นสตรอเบอร์รี่ คุณประโยชน์จัดเต็มด้วยส่วนผสมผสมคอลลาเจน 2,000 มก. มีส่วนช่วยทำให้ผิวมีสุขภาพดี และวิตามินซีสูงถึง 100% ช่วยในการดูดซึมคอลลาเจนได้ดียิ่งกว่าเดิม ดื่มง่ายแค่ฉีก-ชง-ดื่ม รสชาติอร่อย สดชื่น ไม่คาว ตัวช่วยเรื่องผิวสวยกระจ่างใส เติมคอลลาเจนให้ผิวได้ทุกวัน ในราคาเพียงซองละ 10 บาท เน้นเจาะกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคอายุระหว่าง 20 - 45 ปี ที่ต้องการดูแลสุขภาพให้ดูดี ผิวกระจ่างใส ราคาที่ย่อมเยาและหาซื้อง่ายที่ร้านค้าใกล้บ้าน
"เราเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพและความงามมานานกว่า 15 ปี มีความตั้งใจส่งมอบสินค้าคุณภาพให้คนไทยทุกคนสามารถดูแลตัวเองได้ง่ายๆ จากร้านค้าใกล้บ้าน การพัฒนาต่อยอดสินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์เซ็ปเป้ บิวติ คริ้งค์ ที่คนไทยคุ้นเคย ด้วยรูปแบบใหม่ 'คอลลาเจนผงในซองสติกซ์' นับเป็นหนึ่งในกลยุทธ์หลักของตลาดในประเทศในปีนี้ ที่ต้องการปลุกกระแสการดูแลสุขภาพและความงามให้เข้าถึงคนไทยทั่วประเทศ ด้วยสินค้าคุณภาพ ทานง่าย อร่อย ไม่คาว ราคาย่อม หาซื้อง่าย เชื่อว่าจะช่วยให้คนไทยสุขภาพดี มีความมั่นใจในผิวพรรณตัวเองได้ง่ายกว่าเดิม พร้อมเตรียมกิจกรรมการตลาดเพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายให้เข้าใจในสินค้า และกิจกรรมต่างๆ ให้ร่วมสนุกในปีนี้ นับเป็นการเพิ่มฐานลูกค้าในช่องทางใหม่เพิ่มเติมพอร์ตในประเทศ จึงตั้งเป้ายอดขายปีแรกไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท" นางสาวปิยจิต กล่าว
ที่มา: เอ็ม ที มัลติมีเดีย
