ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานระดับซี ตลอดจนรัฐมนตรี, ซีอีโอ และผู้มีอำนาจตัดสินใจมากกว่า 600 คนจะมารวมตัวกันในงานนี้เพื่อหารือและแสดงเทรนด์ล่าสุด เทคโนโลยี และโอกาสทางธุรกิจในภาคส่วนพลังงานลม นอกจากการประชุมเชิงกลยุทธ์แล้ว งานอาเซียน วินด์ เอเนอร์จี ประจำปี 2566 ยังจะเป็นเจ้าภาพจัดนิทรรศการพลังงานลมอาเซียน (ASEAN Wind Energy Exhibition) และการประชุมสุดยอดเทคโนโลยีลมนอกชายฝั่ง (Offshore WindTech Summit) ที่คาดว่าจะมีบริษัทพลังงานสะอาดหลายพันแห่งและผู้เยี่ยมชมที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมกว่า 8,000 ราย
ภูมิภาคอาเซียนมีการเติบโตอย่างมากในตลาดพลังงานลมตั้งแต่ปี 2560 โดยมีประเทศต่าง ๆ เช่น เวียดนาม, ไทย และฟิลิปปินส์เป็นผู้นำ จากข้อมูลของสำนักงานพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศ (International Renewable Energy Agency) อาเซียนมีกำลังการผลิตลมสะสมติดตั้งอยู่ที่ 8.5 กิกะวัตต์ภายในสิ้นปี 2563 และหากนโยบายกับเป้าหมายในปัจจุบันบรรลุผลสำเร็จ ก็คาดว่าจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าอยู่ที่ 35 กิกะวัตต์ภายในปี 2573
ด้วยความสำเร็จในการจัดงานกิจกรรมด้านพลังงานลมมาแล้วถึง 4 ครั้งในเวียดนาม อาเซียน วินด์ เอเนอร์จี จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดในการมีส่วนร่วมด้านพลังงานลมในภูมิภาค โดยอาเซียน วินด์ เอเนอร์จี ประจำปี 2566 เป็นเวทีธุรกิจระหว่างประเทศที่มีบุคคลชั้นนำจากทั่วทั้งอุตสาหกรรมมาร่วมแบ่งปันข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับความคืบหน้าของโครงการใหม่และโอกาสใหม่ ๆ ที่จะเกิดขึ้น
นอกจากนี้ งานอาเซียน วินด์ เอเนอร์จี ประจำปี 2566 ยังจะมีพิธีมอบรางวัลวินด์ ฟิวเจอร์ อวอร์ดส์ (Wind Future Awards) เพื่อยกย่องบริษัทในภาคส่วนพลังงานลมที่มีผลิตภัณฑ์และผลการดำเนินงานทางธุรกิจที่โดดเด่นอีกด้วย
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานอาเซียน วินด์ เอเนอร์จี ประจำปี 2566 ได้ที่เว็บไซต์ www.aseanwindenergy.com
ติดต่อ: คามิ หวัง (Cami Wang), โทร: +86-15618560256