หลงลืม พูดติดขัด! รู้จักและเข้าใจอาการ "โรคสมองเสื่อม" แพทย์ รพ. วิมุตชี้แนวทางรับมือก่อนสาย เมื่อผู้ใหญ่ที่บ้านมีพฤติกรรมเสี่ยง

พุธ ๑๙ เมษายน ๒๐๒๓ ๑๐:๓๙
ประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงวัยหรือ Aging Society อย่างสมบูรณ์ไปเมื่อปี 2565 และกลุ่มผู้สูงอายุก็จะมีจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคตอันใกล้ สำหรับลูกหลานแล้ว ร่างกายและความคิดความอ่านที่เสื่อมถอยของคุณพ่อคุณแม่ที่บ้าน ก็อาจทำให้เราเป็นห่วงและไม่สบายใจ หลาย ๆ คนก็กลัวว่าผู้ใหญ่ที่บ้านเมื่ออยู่เฉย ๆ ไม่ได้ทำอะไรก็จะหลงลืมจนส่งผลต่อการใช้ชีวิตเพียงลำพังนั่นเอง วันนี้เราได้ชวน นพ. กฤตวิทย์ รุ่งแจ้ง อายุรแพทย์ผู้ชำนาญการด้านสมองและระบบประสาท ศูนย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลวิมุต มาช่วยเล่าถึงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อโรคสมองเสื่อม รวมถึงอาการที่เข้าข่าย และแนวทางการดูแลเมื่อคนใกล้ตัวได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคดังกล่าว
หลงลืม พูดติดขัด! รู้จักและเข้าใจอาการ โรคสมองเสื่อม แพทย์ รพ. วิมุตชี้แนวทางรับมือก่อนสาย เมื่อผู้ใหญ่ที่บ้านมีพฤติกรรมเสี่ยง

โรคสมองเสื่อม ไม่ใช่แค่อัลไซเมอร์

"ก่อนอื่นเลยอยากให้เข้าใจความแตกต่างของโรคสมองเสื่อมกับโรคอัลไซเมอร์ โดย 'กลุ่มโรคสมองเสื่อม หรือ Dementia' หมายถึง ภาวะที่การทำงานของการรับรู้ลดลง โดยเริ่มจากการทำงานของสมองขั้นสูงด้านในด้านหนึ่งในทั้งหมด 6 ด้าน ได้แก่ ด้านสมาธิ ด้านการตัดสินใจและการวางแผน ด้านความจำ ด้านการใช้ภาษา ด้านมิติสัมพันธ์ และด้านการเข้าสังคม ซึ่งความผิดปกตินี้ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ในขณะที่ 'โรคอัลไซเมอร์' เป็นโรคสมองเสื่อมชนิดหนึ่งที่ส่งผลต่อความจำ กระบวนการคิด และพฤติกรรม เป็นหลัก ซึ่งหมายความว่าผู้เป็นโรคสมองเสื่อมบางรายอาจไม่ได้เป็นอัลไซเมอร์" นพ. กฤตวิทย์ รุ่งแจ้ง อธิบาย

ทำไม "สมองเสื่อม" จึงพบมากในผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป

โรคสมองเสื่อม รวมถึงโรคอัลไซเมอร์ มักพบได้บ่อยในผู้สูงอายุ โดยเฉพาะวัย 65 ปีขึ้นไป เนื่องจากมีความเกี่ยวข้องกับความเสื่อมถอยของร่างกาย เมื่อคนเราอายุมากขึ้น เซลล์สมองและหลอดเลือดในสมองอาจได้รับความเสียหายมากขึ้น โดยจะมีการสะสมของโปรตีนชนิดหนึ่งที่เรียกว่า 'เบต้า-อะไมลอยด์ (beta-amyloid)' ซึ่งมีผลต่อการทำงานของโครงข่ายประสาทในสมอง นอกจากนี้ เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น ก็มีแนวโน้มที่จะป่วยเป็นโรคอื่น ๆ ที่จะมาเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะสมองเสื่อม เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน และโรคหัวใจขาดเลือด เป็นต้น "จากการวิจัยยังไม่สามารถฟันธงได้ว่าพฤติกรรมใดที่นำไปสู่โรคสมองเสื่อม แต่ปัจจัยด้านพันธุกรรม สิ่งแวดล้อม และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ล้วนมีบทบาทสำคัญในการทำให้เกิดโรค นอกจากนี้ ยังพบว่าคนอายุน้อยก็สามารถเป็นโรคสมองเสื่อมได้ แต่สาเหตุมักเกิดจากพันธุกรรม การประสบอุบัติเหตุที่ส่งผลกระทบกระเทือนต่อเนื้อสมอง การใช้สารเสพติดหรือยานอนหลับบางชนิด การติดเชื้อเอชไอวีหรือซิฟิลิส หรือโรคสมองอักเสบจากภาวะแพ้ภูมิต้านทานตัวเอง (Autoimmune encephalitis)" นพ. กฤตวิทย์ รุ่งแจ้ง กล่าว

แพทย์ชวนส่องสัญญาณเตือนและอาการเข้าข่ายที่ควรสังเกตของโรคสมองเสื่อม

"อาการเริ่มต้นของภาวะสมองเสื่อมที่คนที่บ้านควรช่วยกันสังเกต คืออาการหลงลืมเรื่องใหม่ที่เกิดขึ้นได้ไม่นาน รวมถึง ความลำบากในการใช้ภาษาสื่อสาร ใช้คำผิด พูดจาติดขัด หลงทิศทางและสถานที่ เริ่มมีปัญหาในการจัดการงานที่เป็นขั้นเป็นตอน หรือไม่สามารถทำการตัดสินใจ วางแผน และคิดวิเคราะห์ได้เหมือนเดิม ซึ่งอาจส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์และพฤติกรรมในชีวิตประจำวันได้ เมื่อมีอาการเหล่านี้คนที่บ้านสามารถสังเกตและรีบพาไปพบแพทย์เพื่อทำการประเมินได้"

ภาวะสมองเสื่อม จะวินิจฉัยโดยอาศัยประวัติทางการแพทย์จากผู้ป่วยและญาติ การตรวจร่างกายโดยแพทย์ การตรวจเลือดในห้องปฏิบัติการ และการตรวจคัดกรองปริชานปัญญา (MoCA หรือ TMSE) เพื่อประเมิน ความตั้งใจ, สมาธิ, การบริหารจัดการ, ความจำ, ทักษะสัมพันธ์ของสายตากับการสร้างรูปแบบ, ความคิดรวบยอด, การคิดคำนวณ และการรับรู้สภาวะรอบตัว

เป็นสมองเสื่อมแล้วหายได้ไหม ชวนรู้จักแนวทางการป้องกัน

"ในปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานว่ามียาที่สามารถรักษาโรคให้หายขาดได้ แต่อาจมียาบางกลุ่มที่สามารถใช้รักษาบรรเทาอาการและการรักษาประคับประคองโรค โดยวิธีเลือกยารักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุและอาการของผู้ป่วยแต่ละราย การรักษาโดยไม่ใช้ยาเช่น กิจกรรมบำบัด (Occupational therapy) สามารถช่วยฟื้นฟูความจำและให้ผู้ป่วยกลับมาทำกิจกรรมประจำวันได้ นอกจากนี้ยังมีอรรถบำบัด (Speech therapy) ในผู้ป่วยที่มีปัญหาด้านการพูดสื่อสาร รวมถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยตัวผู้ป่วยเอง (Lifestyle modification) ก็มีประโยชน์อย่างมากในการช่วยฟื้นฟูอาการของโรคสมองเสื่อม และตอนนี้ยังไม่มียาที่ใช้ป้องกันภาวะสมองเสื่อมได้ แต่เราก็มีวิธีลดความเสี่ยงในการเกิดโรคได้ เช่น ออกกำลังกายเป็นประจำ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ไม่สูบบุหรี่ ดูแลสุขภาพและรักษาโรคเรื้อรังประจำตัวให้หาย ทำกิจกรรมที่ฝึกสมอง เช่น อ่านหนังสือ และสุดท้าย คือการตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปีเพื่อรู้เท่าทันทุกโรคภัย นั่นเอง" นพ. กฤตวิทย์ รุ่งแจ้ง กล่าวสรุป

ผู้ที่สนใจต้องการปรึกษาแพทย์โรงพยาบาลวิมุต สามารถติดต่อได้ที่ ชั้น 6 ศูนย์สมองและระบบประสาท หรือโทรนัดหมาย 02-079-0068 เวลา 08.00 - 20.00 น. หรือสามารถเรียกรถฉุกเฉินได้ที่ เบอร์โทร 02-079-0191

ที่มา: วิวาลดี้ อินทิเกรเต็ด พับลิค รีเลชั่นส์

หลงลืม พูดติดขัด! รู้จักและเข้าใจอาการ โรคสมองเสื่อม แพทย์ รพ. วิมุตชี้แนวทางรับมือก่อนสาย เมื่อผู้ใหญ่ที่บ้านมีพฤติกรรมเสี่ยง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๗ เม.ย. อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud