ไฮเซ่นส์มุ่งเน้นการขยายตัวอย่างอย่างยืน เพื่ออนาคตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีที่สุดสำหรับทีวี, เลเซอร์ทีวี และผลิตภัณฑ์ที่ใช้ภายในบ้าน ได้ดำเนินการหลายขั้นตอนเพื่อลดผลกระทบที่เกิดขึ้นโลกใบนี้ รวมทั้งสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องการผลิต ซัพพลายเชน และผลิตภัณฑ์ที่บริษัทได้ผลิตขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

ด้วยเทคโนโลยีที่ทางบริษัทได้พัฒนาขึ้นมาเองอย่างอัลกอริทึมในการควบคุมแบ็คไลท์แบบที่สามารถประยุกต์ได้เอง อัลกอริทึมในการควบคุมพลังงานแบบดิจิทัล เทคโนโลยีแสงแอลอีดีแบบไฟฟ้าแรงสูงและไดรฟ์เทคโนโลยี ไฮเซ่นส์ได้บริหารจัดการเพื่อที่จะลดปริมาณการใช้พลังงานของทีวีแต่ละเครื่องลง 25% นอกจากนี้ บริษัทยังได้ลดจำนวนพลาสติกที่ใช้สำหรับกระจายความร้อนจากการปรับดีไซน์ทีวีของบริษัท ส่งผลให้สามารถลดปริมาณการใช้พลาสติกได้ถึง 4,626 ตันต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับถุงพลาสติก 514 ล้านถุง

ในขณะที่หมวดหมู่ของการทำความเย็นของไฮเซ่นส์ได้รับการชื่นชมจากโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติสำหรับการใช้เทคโนโลยีเกี่ยวกับโฟมเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพของตู้เย็น ซึ่งถือเป็นการพัฒนาที่เชื่อว่าจะสามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้อ็อกไซด์ได้ถึงเกือบ 6,000 ตัน

บริษัทยังได้ปรับปรุงการดำเนินการด้านการปล่อยคาร์บอนของโรงงานต่าง ๆ และเพิ่มการผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์ในโรงงาน โดยคาดว่า ความสามารถในการดำเนินการดังกล่าวที่ได้มีการติดตั้งทั้งหมดจะอยู่ที่ระดับ 60 เมกะวัตต์ภายในสิ้นปีนี้ และความสามารถในการผลิตพลังงานต่อปีจะอยู่ที่ 53 ล้านกิโลวัตต์อาวร์ ขณะที่สัดส่วนของการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ในส่วนของการใช้ไฟฟ้าทั้งหมดของไฮเซ่นส์ในปัจจุบันสูงกว่า 10%

ไฮเซ่นส์ยังต้องการที่จะทำให้โลกมีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้นจากการดำเนินการของบริษัทและนอกเหนือไปจากนั้นด้วยเช่นกัน และเพื่อเป็นการตระหนักถึงวันคุ้มครองโลก บริษัทได้เปิดตัวโครงการปลูกต้นไม้ เพื่อส่งเสริมในเรื่องความสำคัญของการคุ้มครองสิ่งแวดล้อม

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของไฮเซ่นส์ที่จะพาเราไปสู่อนาคตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น สามารถดูได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=ZcqzEepU98g  

เกี่ยวกับไฮเซ่นส์

ไฮเซ่นส์เป็นแบรนด์เครื่องใช้ในบ้านและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำระดับโลกสำหรับผู้บริโภค ธุรกิจของไฮเซ่นส์ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ด้านมัลติเมีเดียโดยพุ่งเป้าไปที่สมาร์ททีวี อุปกรณ์ภายในบ้าน และข้อมูลอัจฉริยะด้านไอที เมื่อเร็ว ๆ นี้ ไฮเซ่นส์ได้ขยายกิจการอย่างรวดเร็ว และปัจจุบันได้ดำเนินธุรกิจในประเทศต่าง ๆ กว่า 160 ประเทศ