มติ ผถห.TWPC ฉลุย! โหวตจ่ายปันผลปี65 อัตรา 0.2158 บ./หุ้น ปูพรมปี 66 ลุยขยายตลาด-เพิ่มกำลังผลิต มั่นใจรักษาฐานยอดขายโต Double-digit

จันทร์ ๒๔ เมษายน ๒๐๒๓ ๑๐:๐๑
ผู้ถือหุ้น บมจ. ไทยวา (TWPC) ขานรับปันผลงวดปี 2565 เป็นเงินสดในอัตรา 0.2158 บาทต่อหุ้น กำหนดรับเงินปันผลวันที่ 19 พฤษภาคมนี้ ฟากซีอีโอ "โฮ เรน ฮวา" ประเมินธุรกิจปีนี้ยังเติบโตต่อเนื่องตามความต้องการใช้ผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลังและเปิดตัวผลิตภัณฑ์ เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ เดินหน้าเจาะตลาดที่มีผู้บริโภคขนาดใหญ่ เช่น อินเดีย อินโดนีเซีย และสหรัฐ พร้อมชูกลยุทธ์สร้างสมดุลกลุ่มลูกค้า B2C- B2B ในไทยและครอบคลุมทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มั่นใจรักษาอัตราการเติบโตปี 2566 ที่ Double-digit
มติ ผถห.TWPC ฉลุย! โหวตจ่ายปันผลปี65 อัตรา 0.2158 บ./หุ้น ปูพรมปี 66 ลุยขยายตลาด-เพิ่มกำลังผลิต มั่นใจรักษาฐานยอดขายโต Double-digit

นาย โฮ เรน ฮวา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) TWPC ผู้ผลิตและส่งออกผลิตภัณฑ์แป้งมันสำปะหลัง และผู้นำตลาด โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์วุ้นเส้นและเส้นก๋วยเตี๋ยว เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2566 มีมติอนุมัติให้จ่ายปันผลงวดประจำปี 2565 เป็นเงินสดในอัตรา 0.2158บาทต่อหุ้น คิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 189,994,836.69 ล้านบาท โดยกำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 19 พฤษภาคม 2566

"ผลประกอบการของบริษัทฯ ในปี 2565 ถือว่าแข็งแกร่งมากโดยมีรายได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์จากการเติบโตที่แข็งแกร่งในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ซึ่งผลประกอบการที่ดีที่สุดมาจากธุรกิจอาหารที่เป็นธุรกิจหลักในประเทศไทยและเวียดนาม จึงช่วยสนับสนุนให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นได้ และคาดว่าบริษัทฯ จะสามารถจ่ายเงินปันผลเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง" นาย โฮ เรน ฮวา กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดว่าปี 2566 จะสามารถรักษาอัตราการเติบโตของยอดขายที่ระดับ Double-digit และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาไว้ได้ ตามความต้องการของผลิตภัณฑ์หลักที่เพิ่มขึ้น และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ รวมถึงรุกขยายเข้าสู่ตลาดผู้บริโภคขนาดใหญ่อย่างอินเดีย อินโดนีเซีย และสหรัฐมากขึ้น ขณะที่ความต้องการบริโภคสินค้าในประเทศจีนกลับมาฟื้นตัวจากการเปิดประเทศ ซึ่งจะเห็นได้ว่ากลยุทธ์ของไทยวายังมุ่งเน้นไปที่การสร้างสมดุลระหว่างกลุ่มลูกค้า B2C และ B2B ทั้งในประเทศไทย จีน อินโดนีเซีย เวียดนาม อินเดีย และทั่วโลก

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะสร้างการเติบโตทางด้านยอดขายอย่างมากในทั่วทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยขยายทั้งฐานการผลิต ช่องทางการจัดจำหน่าย และการทำการตลาด จาก 15 แห่งเป็น 20 แห่ง พร้อมทั้งเดินหน้าเสริมความแข็งแกร่งทางของการดำเนินงานในประเทศจีน เวียดนาม กัมพูชา และอินโดนีเซีย โดยได้เริ่มก่อสร้างโรงงานผลิตแป้งมันสำปะหลังที่ประเทศกัมพูชา คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในการผลิตช่วงปลายปี 2566 รวมถึงได้เตรียมลงทุนเกี่ยวกับพลังงานทดแทน โดยมีเป้าหมายในการจัดหาพลังงานหมุนเวียนมากกว่า 11 เมกะวัตต์ภายในปี 2568 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นระยะยาวในการลดปริมาณคาร์บอนให้เป็นศูนย์ และเป็นการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพในฐานะองค์กรหลัก โดยตั้งเป้าว่าจะได้พลังงานสีเขียว 50% ภายในปี 2568

ที่มา: ไออาร์ เน็ตเวิร์ค

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๒๙ ม.กรุงเทพ เห็นถึงคุณค่าพลังงานที่ยั่งยืนเชิญผู้เชี่ยวชาญมาสร้างสกิลตรง
๑๖:๐๗ แอลจีเผยผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2024 ผลักดันธุรกิจด้วยนวัตกรรมพร้อมรักษาสมดุลระหว่างธุรกิจหลักและการเติบโตในอนาคตเพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ
๑๖:๓๕ ฮั้วฟง รับเบอร์ฯ (HFT) จัดประชุมผู้ถือหุ้นปี 2567 ผถห.โหวตผ่านฉลุยทุกวาระ
๑๖:๕๒ ซีเอ็ด เปิดสาขาใหม่ที่ตราด! บริจาคหนังสือ 2 แสนบาท หนุนการอ่านในท้องถิ่น
๑๖:๕๙ ลลิล พร็อพเพอร์ตี้ ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้น ทั้งปีที่อัตราหุ้นละ 0.52
๑๖:๕๙ ปรับการนอนหลับของคุณให้มีคุณภาพดีขึ้นด้วยฟีเจอร์ใน HUAWEI Band 9
๑๖:๓๔ ไฮเออร์ ประเทศไทย โชว์ศักยภาพแกร่ง พาเหรดทัพนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ร่วมจัดแสดงในงาน China Enterprise Product Resources
๑๖:๑๐ สถานทูตอิตาลี เปิดศูนย์รับคำร้องขอวีซ่าแห่งใหม่ในกรุงเทพ
๑๖:๕๒ CHAYO จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2567 ไฟเขียวทุกวาระ
๑๖:๑๓ ผู้บริหารบางจากฯ แชร์แนวทางขับเคลื่อนการรับมือวิกฤตสภาพภูมิอากาศ 2 เวที