ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันกระแสการซื้อของออนไลน์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกิดจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เข้าถึงสื่อสังคมออนไลน์มากยิ่งขึ้น รวมถึงกระแสการเปิดช่องทางการขายในแพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ที่กระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดการใช้จ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้บริการเก็บเงินปลายทาง หรือ COD ของไปรษณีย์ไทย ซึ่งจากช่วงต้นปี 2566 ที่ผ่านมา มีอัตราปริมาณชิ้นงานสูงขึ้น 30% และมีรายได้เติบโตขึ้น 58% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปี 2565 โดยตลอดปีที่ผ่านมาไปรษณีย์ไทยตอกย้ำจุดเด่นของบริการ COD ไม่ว่าจะเป็น
การโอนเงินค่าสินค้าเข้าบัญชี Wallet@POST ของผู้ส่งภายในวันถัดไปนับจากวันที่รับชำระเงินจากผู้รับสินค้า โปรโมชันส่วนลดค่าธรรมเนียม 2.5% เมื่อใช้บริการในวันเสาร์อาทิตย์ และพิเศษสุด ส่วนลดค่าธรรมเนียมเพียง 2.3% เมื่อสมัครเป็นสมาชิก POST Family นอกจากนี้ไปรษณีย์ไทย ยังได้จับมือกับพันธมิตรจากหลายธนาคารและสถาบันการเงิน อาทิ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME D Bank) ธนาคารไทยพาณิชย์ บริษัท เอสซีบีอาบาคัส จำกัด เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการที่ใช้บริการ COD สามารถใช้ข้อมูลการใช้บริการยื่นประกอบการขอสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องของร้านได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ และให้วงเงินสูงสุดกว่า 1 ล้านบาท ซึ่งมีผลตอบรับเป็นอย่างดี อีกทั้งไปรษณีย์ไทยมีการพัฒนาและปรับปรุงระบบสนับสนุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการนำจ่ายและโอนเงินให้เร็วขึ้น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นสูงสุดให้กับลูกค้าที่เลือกใช้บริการ COD ของไปรษณีย์ไทย"
ทั้งนี้ คาดว่าในปีนี้อัตราการใช้บริการ COD จะเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมากว่า 50% นอกจากนี้ ไปรษณีย์ไทยยังได้เตรียมจัดโปรโมชันค่าธรรมเนียม COD อัตราพิเศษ สำหรับทั้งลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการไปรษณีย์ไทยตลอดทั้งปีอีกด้วย ติดตามข่าวสารโปรโมชันได้ที่ Facebook บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
ติดตามข่าวสารไปรษณีย์ไทยเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : www.thailandpost.co.th
เฟซบุ๊ก : บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
ทวิตเตอร์ : @Thailand_Post
ไลน์ออฟฟิเชียล : @Thailand Post
ติ๊กต็อก : @thailandpostchannel
ที่มา: เจซีแอนด์โค คอมมิวนิเคชั่นส์
