ทิสโก้เตือน ! ระวังหุ้นโลกปรับฐาน สภาพคล่องและกำไร บจ. อาจลดลง - ราคาหุ้นสะท้อน Fed ลดดอกเบี้ยไปแล้ว

ศุกร์ ๒๘ เมษายน ๒๐๒๓ ๑๖:๓๙
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ชี้ สภาพคล่องและคาดการณ์ผลกำไรที่มีแนวโน้มลดลงอาจเป็นปัจจัยกดดันให้ตลาดหุ้นโลกปรับฐาน ในขณะที่ปัจจัยบวกจากการลดดอกเบี้ยของ Fed ได้ถูกสะท้อนเข้าไปในราคามากแล้ว

นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ (Mr. Komsorn Prakobphol, Head of Economic Strategy Unit, TISCO Economic Strategy Unit : TISCO ESU) เปิดเผยว่า ปัจจุบันระดับดัชนี S&P500 ที่เกิน 4,000 จุด และ อัตราส่วนราคาตลาดต่อกำไรสุทธิ (P/E) สูงกว่า 18 เท่านั้น ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้มองว่า เป็นระดับที่มีโอกาสปรับขึ้นต่อได้จำกัด และเป็นระดับที่ควรลดน้ำหนักการลงทุน โดยมีความเสี่ยงขาลงประมาณ 10-15% จากระดับปัจจุบัน

โดยความเสี่ยงขาลงดังกล่าวเป็นไปตามการปรับลดของคาดการณ์ผลกำไรบริษัทจดทะเบียนที่กำลังเผชิญแรงกดดันจากหลายด้าน ได้แก่ 1) ต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้นทั้งจากผลของการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และการขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคารพาณิชย์เพื่อแก้ปัญหาเงินฝากไหลออกจากภาคธนาคารในช่วงที่ผ่านมา 2) ปัญหาการขาดแคลนสภาพคล่องในภาคธนาคาร ซึ่งทำให้การปล่อยกู้มีความระมัดระวังมากขึ้นจนอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง และ 3) การชะลอตัวลงของเศรษฐกิจที่สะท้อนผ่านดัชนีภาคการผลิต (ISM Manufacturing PMI) ที่ล่าสุดอยู่ที่ 46 จุด ในขณะที่ผลสำรวจนักวิเคราะห์ยังคาดว่าผลกำไรจะยังทรงตัวได้เท่ากับปีที่แล้ว ซึ่งนั่นหมายความว่าคาดการณ์ผลกำไรอาจต้องมีการปรับลดลงอีกในอนาคต

นอกจากนี้ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้คาดว่าสภาพคล่องจะกลับมาลดลงอย่างต่อเนื่อง และเป็นอีกหนึ่งปัจจัยกดดันตลาดหุ้นโลก เนื่องจาก 1) Fed จะยังคงเดินหน้าดึงสภาพคล่องออก (QT) ในอัตรา 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อเดือนตามแผนเดิม 2) ปัญหาสภาพคล่องในภาคธนาคารสหรัฐฯ ที่ผ่อนคลายลงจะทำให้ธนาคารพาณิชย์ที่ใช้วงเงินกู้ฉุกเฉินจากเฟดเพื่อเสริมสภาพคล่อง เริ่มทยอยคืนเงินกู้ดังกล่าว และ 3) การตกลงเพิ่มเพดานหนี้ของรัฐสภาสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกรกฎาคมจะทำให้รัฐบาลสหรัฐฯ กลับมาออกขายพันธบัตรเพื่อกู้เงินจากตลาดเป็นจำนวนมหาศาล ซึ่งอุปทานของพันธบัตรที่เพิ่มขึ้น จะเป็นการดูดซับสภาพคล่องออกจากตลาดและทำให้บอนด์ยิลด์กลับมาเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ในขณะที่ตลาดหุ้นอาจมีปัจจัยหนุนจากประเด็นที่ Fed มีโอกาสกลับมาลดดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี แต่ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ทิสโก้ประเมินว่าปัจจัยบวกดังกล่าวได้ถูกสะท้อนเข้าไปในราคาหุ้นมากแล้ว โดยจากสถิติในช่วง 12 เดือนหลังจากที่ Fed ลดดอกเบี้ย ค่า P/E ของตลาดหุ้นสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยราว 10% ซึ่งหากดูความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนมีนาคมซึ่งตลาดเริ่มคาดการณ์ว่า Fed จะกลับมาลดดอกเบี้ย ก็จะพบกว่าค่า P/E ของตลาดเพิ่มขึ้นมาแล้วราว 8% ซึ่งสะท้อนว่าตลาดได้ซึมซับปัจจัยบวกดังกล่าวไปมากแล้ว

ที่มา: ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน