ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นความร่วมมือครั้งที่สามสำหรับการรีแบรนด์รีสอร์ทในประเทศไทย ระหว่างพันธมิตรทางธุรกิจทั้งสอง โดยสัญญาความร่วมมือที่ลงนามไปก่อนหน้านี้ได้แก่ ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท ภูเก็ต สุรินทร์ บีช และ ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท ภูเก็ต กะรน บีช
ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท พัทยา ตั้งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองพัทยาเพียง 10 นาที และห่างจากชายหาดพระตำหนักเพียงแค่ 200 เมตรเท่านั้น โดยจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปี พ.ศ. 2567 หลังการปรับโฉมใหม่ และเปลี่ยนชื่อจากโรงแรม เมาน์เทน บีช รีสอร์ท ซึ่งจะมีห้องพักและห้องสวีทถึง 318 ห้อง ที่ผสมผสานการออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์เข้ากับรูปแบบที่ทันสมัยอย่างลงตัว ร้านอาหาร 3 แห่งที่มีแนวคิดการทำอาหารแบบร่วมสมัย รวมถึง KidSuite(R) ที่เป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ พร้อมด้วยโปรแกรมพิเศษต่าง ๆ เช่น Kids Stay & Eat Free ที่ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัว กลุ่มเพื่อน และนักท่องเที่ยวที่มองหาการพักผ่อนแนว Bleisure
การลงนามความร่วมมือครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จอีกขั้นในการเติบโตเชิงกลยุทธ์ของ IHG ในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีโรงแรมที่เปิดให้บริการแล้วกว่า 34 แห่ง และมีโรงแรมที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีก 37 แห่ง โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มจำนวนโรงแรมขึ้นเป็นสองเท่าภายในอีกห้าปีข้างหน้า
คุณเสาวรินทร์ จันทร์ประกายสี ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายพัฒนาธุรกิจ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเกาหลี ไอเอชจี กล่าวว่า "เรามุ่งมั่นที่จะขยายการเติบโตของแบรนด์ภายใต้ฮอลิเดย์ อินน์ ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่พักตากอากาศทั่วประเทศไทย และเมื่อไม่นานมานี้ เราได้มีการประกาศเปิดตัว โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ทที่สวยงามอีก 2 แห่ง ที่เกาะสมุยและกระบี่ ซึ่งทำให้ปัจจุบันเรามีโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ ที่เปิดให้บริการแล้วและอยู่ในระหว่างการพัฒนา ในประเทศไทยมากกว่า 20 แห่งเลยทีเดียว
"พัทยาเป็นสถานที่ตากอากาศยอดนิยมของประเทศไทยที่ IHG เป็นผู้นำตลาดอยู่แล้ว ด้วยโรงแรมที่ได้รับการยอมรับจากนักท่องเที่ยวมากมาย เช่น อินเตอร์คอนติเนนตัล พัทยา, ฮอลิเดย์ อินน์ พัทยา, ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส พัทยา เซ็นทรัล และรวมไปถึงคิมป์ตัน พัทยา ที่กำลังจะเปิดตัวในอีกไม่นานนี้ เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับ Destination Group ซึ่งถือเป็นกลุ่มผู้นำด้านการโรงแรม ในโครงการนี้ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องของเราในประเทศไทย ซึ่งเป็นตลาดที่สำคัญมาก ๆ สำหรับ IHG"
คุณแกรี่ เมอร์เรย์ ผู้ก่อตั้ง และกรรมการบริหารของ Destination Group กล่าวว่า "ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท พัทยา จะเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการพักผ่อนที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักท่องเที่ยวทุกคน โดยทำเลที่ตั้งบนหาดพระตำหนักทำให้โรงแรมเหมาะอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวและกลุ่มเพื่อน ในขณะที่นักท่องเที่ยวที่มาพักผ่อนแบบ Bleisure หรือผู้ที่เดินทางเพื่อมาทำธุรกิจ ก็สามารถใช้ประโยชน์จากทำเลที่อยู่ใกล้กับศูนย์ประชุมนานาชาติพีช พัทยา ซึ่งเป็นสถานที่จัดงานประชุม MICE ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัด"
"รีสอร์ทแห่งนี้ ยังเหมาะอย่างยิ่งในการจัดงานหรือการประชุม ด้วยพื้นที่การประชุมที่กว้างขวางถึง 1,450 ตารางเมตร เปิดรับแสงสว่างจากธรรมชาติ ซึ่งถือเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างบรรยากาศที่ดีในการรวมตัวหรือการประชุมที่มีคุณภาพ"
"ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท พัทยา ออกแบบโดยคำนึงถึงความต้องการของครอบครัวเป็นหลัก โดยการใส่แนวคิดของ Kid's Club อย่าง Siam Adventure Club ที่จะมาสร้างความสุขและความตื่นเต้นไม่รู้จบให้กับนักเดินทางตัวน้อย พร้อมแต่งแต้มการเดินทางของเด็ก ๆ ให้เต็มไปด้วยความสุข การค้นพบสิ่งใหม่ และสร้างบรรยากาศที่น่าจดจำร่วมกับครอบครัวไปนานแสนนาน"
"การลงนามสัญญาสำหรับโรงแรมในแฟรนไชส์ฮอลิเดย์ อินน์ แห่งที่สามนี้ เป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราที่มีต่อแบรนด์ที่มีชื่อเสียงระดับโลก และเป็นการกระชับความสัมพันธ์ของเรากับ IHG ให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น พร้อมกับการมอบประสบการณ์การเข้าพักอันน่าประทับใจให้แก่แขกในประเทศไทย"
ฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท พัทยา ตั้งอยู่บนทำเลดีเยี่ยม ห่างจากสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิเพียง 1 ชั่วโมง และห่างจากสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาเพียงแค่ 30 นาที
แบรนด์ ฮอลิเดย์ อินน์ มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และมีโรงแรมที่เปิดให้บริการแล้วกว่า 1,192 แห่ง โดยมี 231 แห่งอยู่ระหว่างการพัฒนา ซึ่งคิดเป็นประมาณ 20% ของโรงแรมทั้งหมดภายใต้ IHG ในปัจจุบัน โดยฮอลิเดย์ อินน์ เปรียบเสมือนศูนย์กลางการเดินทางยอดนิยมระดับโลก ที่ส่งเสริมการเชื่อมต่อความสัมพันธ์และสร้างความทรงจำที่ดีร่วมกัน
ที่มา: สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์