นายนิติ กิจกำจาย กรรมการบริหาร บริษัท บิ๊กสตาร์ จำกัด เปิดเผยว่า โดยที่ผ่านมา Product ที่มียอดขายถึง 10 ล้านคู่ คือรองเท้าแกมโบลรุ่น GM/GW11267 หรือรุ่น Iconic ซึ่งรองเท้ารุ่นดังกล่าวได้เปิดตัวไปเมื่อ ปี 2558 ภายในเวลา 7 ปี ก็สามารถทำยอดขายได้ทะลุ 10 ล้านคู่ ด้วยความโดดเด่นในการออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์สีสันสดใส รูปแบบรองเท้าเน้นความเรียบง่าย สวมใส่สบาย สไตล์มินิมอลคลาสสิก และสามารถ Mix and match ได้กับทุกลุค ทุกสถานการณ์ โดยทาง แกมโบล มีการขยายการสื่อสารทั้งในเรื่องของภาพลักษณ์แบรนด์ให้มีความทันสมัย และขยายช่องทางการขายให้ครอบคลุมทุกช่องทางทั้งออนไลน์ ออฟไลน์ ออนกราวด์ และออนไซต์ รวมทั้งการขยายฐานกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่มมากยิ่งขึ้น โดยมีการเจาะกลุ่มต่างๆให้มากขึ้น เช่น กลุ่มคนรักสัตว์ กลุ่มคนที่ชื่นชอบกีฬา กลุ่มคนรักษ์โลก กลุ่มดนตรี ศิลปะ และกลุ่มเทคโนโลยี ควบคู่ไปกับใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ 360 องศา รวมถึงยังมีการ Revamp Digital Asset ทั้งหมดเพื่อเป็นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ขณะเดียวกันก็มีการออก Product ใหม่ให้เข้ากับ Seasonal เน้นปรับให้เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบัน พร้อมทั้งใช้ Data ของ Consumer ด้วยความเข้าใจ และสามารถตอบโจทย์พฤติกรรม และอินไซต์ (Insight) ของกลุ่มลูกค้าในยุคปัจจุบันกับอนาคตได้ ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นเฉพาะตัว และมีกระบวนการการผลิตที่ทันสมัยด้วย จีโบลด์ เทคโนโลยี (G-Bold Technology(TM)) เอกสิทธิ์เฉพาะของแกมโบล (GAMBOL) ที่มีคุณสมบัติ นุ่ม ทนทาน น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย เป็นที่ยอมรับทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ นอกจากนี้ยังมีรูปแบบรองเท้าที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของลูกค้าที่เน้นความทันสมัย
สำหรับด้านกลยุทธ์การตลาดนั้นทางแกมโบล (GAMBOL) ตั้งใจจะขยายกลุ่มลูกค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย โดยการทำ Segmentation Targeting ทั้งกลุ่มเด็ก กลุ่มผู้ใหญ่ ที่ชื่นชอบสัตว์ ชื่นชอบกีฬา หรือ กลุ่มคนที่ชื่นชอบเทคโนโลยี ดนตรี ศิลปะ เป็นต้น เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งของตลาดรองเท้าลำลองในประเทศไทย และเพื่อตอบโจทย์สิ่งที่ผู้บริโภคต้องการอย่างแท้จริง
นายนิติ กล่าวอีกว่า โดยเป้าหมายหลังจากนี้ จะพัฒนารองเท้าให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น ด้วย Data analysis และนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ในทุกมิติ ทั้งนวัตกรรมของตัวรองเท้า และ ดีไซน์ ด้วยปัจจุบัน GAMBOL มีการใช้ Data มาในการทำงานในทุกภาคส่วนขององค์กร จึงทำให้ทางเราจะใช้ Data มาเป็นแนวทางในการกำหนดตัว Product ให้เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมาย หลังจากนี้จะมีการนำนวัตกรรมทางการผลิต ทั้งการใช้ Machine ที่ทันสมัยและ มีประสิทธิภาพ และนวัตกรรทางด้านการออกแบบมาใช้โดยมีการเริ่มทำ Prototype ที่หลากหลายเพื่อทำให้ได้ แบบรองเท้าและวัสดุที่เหมาะกับ Segment ที่เราเลือกมากที่สุด ทั้งนี้ภาพรวมตลาดรวมรองเท้าแตะลำลองมีมูลค่าประมาณ 10,000 ล้านบาท ทั้งนี้ 60% ของตลาดรองเท้าแตะลำลองเป็นรองเท้าที่มีแบรนด์ มีอัตราเจริญเติบโตในกลุ่มแบรนด์รองเท้าแตะลำลอง เฉลี่ยค่อนข้างต่ำ ตลาดเป็นลักษณะ Fragment ในกลุ่ม Others มีแบรนด์ย่อย และ Non Brand ของจีนประมาณ 50 ยี่ห้อทั่วประเทศ โดยกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังการซื้อรองเท้าแกมโบลมากที่สุด คือ กลุ่มคนอายุ 24-35 ปี หรือกลุ่มวัยทำงาน นายนิติ ฯ กล่าวทิ้งท้าย
ที่มา: ซัคเซส เอเจนซี่
