นายพิศาล ธรรมวิเศษ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปทุมดีไซน์ ดีเวลลอป จำกัด หรือ ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ เปิดเผยว่า "ภาพรวมธุรกิจรับสร้างบ้านในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ความต้องการสร้างบ้านและกำลังซื้อผู้บริโภคปรับตัวลดลง หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสสุดท้ายปีที่แล้ว ประเมินว่าเกิดจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะภาพรวมเศรษฐกิจประเทศที่ยังชะลอตัวต่อเนื่อง และความกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองของภาคประชาชน ที่สำคัญราคาวัสดุก่อสร้างปรับตัวสูงขึ้น และส่งผลให้ผู้ประกอบการรับสร้างบ้านขยับปรับราคาบ้านตามต้นทุนใหม่เฉลี่ย 7-10% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ทำให้ผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีแรกพลาดเป้ายอดขายที่วางไว้"
อย่างไรก็ดี จากตัวเลขยอดขายบ้านรวมของพีดีเฮ้าส์ทุกสาขาในช่วง 6 เดือนแรก พบว่าลูกค้าที่ใช้บริการสร้างบ้านส่วนใหญ่เลือกปลูกสร้างบ้านในพื้นที่ต่างจังหวัด โดยมีสัดส่วน 75% และพื้นที่ในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลอีก 25% ทั้งนี้หากจำแนกจำนวนหน่วยปลูกสร้าง แบ่งเป็นรายภูมิภาคพบว่า พื้นที่ภาคกลางมีสัดส่วน 36% รองลงมาเป็นภาคอีสาน 23% ภาคใต้ 11% และภาคเหนืออีก 5% ในส่วนของกลุ่มราคาบ้านที่ลูกค้านิยมปลูกสร้างบ้านนั้น พบว่ากลุ่มบ้านราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาทได้รับความนิยมสูงสุด หรือคิดเป็น 68% รองลงมาเป็นกลุ่มบ้านราคา 5-10 ล้านบาท คิดเป็น 27% และกลุ่มบ้านราคา 10-20 ล้านบาทขึ้นไปอีก 5%
"จากตัวเลขยอดขายบ้านของพีดีเฮ้าส์ทุกสาขา พบว่ากลุ่มราคาบ้าน 10 ล้านบาทขึ้นไป หดตัวเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ประเมินว่าผู้บริโภคในกลุ่มนี้อาจจะได้รับผลกระทบจากธุรกิจการค้าและทิศทางเศรษฐกิจชะลอตัว ทั้งนี้หากการจัดตั้งรัฐบาลยืดเยื้อการขับเคลื่อนนโยบายต่าง ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องเศรษฐกิจคงต้องล่าช้าออกไป อาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นและกำลังซื้อ กอปรกับหากมีความเคลื่อนไหวของการชุมนุมแสดงออกทางการเมือง อาจยิ่งกระทบต่อเศรษฐกิจและความเชื่อมั่น โดยเฉพาะผู้บริโภคที่รอความชัดเจนในการจัดตั้งรัฐบาล อาจจะต้องชะลอการตัดสินใจออกไป ทำให้ธุรกิจรับสร้างบ้านในปี 2566 ได้รับผลกระทบอย่างเลี่ยงไม่ได้" นายพิศาลกล่าว
ด้านนางสาวถิรพร สุวรรณสุต ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เจ้าของสิทธิและผู้บริหารมาตรฐานศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ กล่าวว่า "แม้ว่าตัวเลขยอดขายบ้านทุกสาขาในช่วงครึ่งปีแรกต่ำกว่าเป้าที่วางไว้ แต่ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ได้รับผลกระทบไม่มากนัก ด้วยเพราะมีปริมาณยอดขายบ้านสะสมไว้กว่า 200 ล้านบาทในช่วง 2 เดือนสุดท้ายปีที่แล้ว โดยยกมาเริ่มก่อสร้างและรับรู้รายได้ในช่วงครึ่งแรกปีนี้ แต่จะได้รับผลกระทบเฉพาะต้นทุนวัสดุที่ผู้ผลิตและจำหน่ายบางรายไม่สามารถยืนราคาเดิมไว้ได้เท่านั้น"
ปัจจุบันศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ มีสาขาเปิดให้บริการทั่วทุกภูมิภาค ทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑลรวมถึงต่างจังหวัดรวม 31 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการกว่า 60 จังหวัด ภายใต้สโลแกน "Built for the future" โดยมีแนวคิดการสร้างบ้านและจุดยืนคือ "สร้างบ้านประหยัดพลังงานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม" ซึ่งจากแนวคิดและจุดยืนดังกล่าว ทำให้เรามีกลุ่มเป้าหมายชัดเจนที่สนใจและให้ความสำคัญเรื่องลดการใช้พลังงานและดูแลสิ่งแวดล้อม แม้ว่าราคาค่าก่อสร้างบ้านของพีดีเฮ้าส์จะสูงกว่าผู้ประกอบการทั่วไปที่แข่งขันอยู่ในตลาด แต่ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายมองว่าสมเหตุสมผล เพราะนอกจากจะได้บ้านที่มีคุณภาพ แข็งแรง และมีอายุการใช้งานยาวนานแล้ว ยังได้บ้านที่มีความเป็นฉนวนและช่วยลดการใช้พลังงานภายในบ้าน โดยจากการสำรวจความคิดเห็นกลุ่มเป้าหมายเมื่อเร็ว ๆ นี้พบว่า 98.4% สนใจเลือกใช้วัสดุก่อสร้างที่ช่วยลดอุณหภูมิหรือประหยัดการใช้พลังงานภายในบ้าน โดยจำแนกเหตุผลออกเป็น ช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย 50% ลดอุณภูมิความร้อนภายในบ้าน 24% ช่วยลดโลกร้อนอีก 17% และอื่น ๆ อีก 9%
พีดีเฮ้าส์" ยังใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพ โดยออกแบบบ้านและพื้นที่ใช้สอยให้สอดรับกับการอยู่อาศัยของทุกช่วงวัยทั้งเด็กและผู้สูงอายุ พร้อมคัดเลือกวัสดุก่อสร้างที่อำนวยความสะดวกในการอยู่อาศัย ลดการเสียหายหรือบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมทั้งยังมีนวัตกรรมบ้านสุขภาพดี ด้วยการติดตั้ง PD Fresh Airflow หรือระบบระบายอากาศเสียและเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ ป้องกันฝุ่น PM 2.5 ช่วยถ่ายเทความชื้นและไม่ทำให้เกิดเชื้อราภายในบ้าน เหมาะกับการพักผ่อนและอยู่อาศัยประจำวันของทุกครอบครัวในยุคปัจจุบัน ซึ่งบริษัทฯ ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นกับกลุ่มเป้าหมายพบว่า ผู้บริโภคจำนวน 83.6% สนใจหรือจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ที่ช่วยทำให้อากาศภายในบ้านบริสุทธิ์หรือปลอดฝุ่น PM 2.5 อันดับถัดมา ยังไม่สนใจ 9.0% และยังไม่แน่ใจอีก 7.4% ซึ่งจะเห็นได้ว่ากลุ่มผู้บริโภคที่เลือกปลูกสร้างบ้านกับพีดีเฮ้าส์นั้น ให้ความสำคัญและใส่ใจสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงานและค่าใช้จ่าย รวมทั้งยังให้ความสนใจระบบหรืออุปกรณ์ที่ช่วยดูแลสุขภาพของสมาชิกในครอบครัวให้ปลอดภัยจากมลภาวะทางอากาศอีกด้วย
สำหรับในช่วงไตรมาส 3 นี้บริษัทฯ เตรียมเปิดตัวแบบบ้านซีรีส์ใหม่ในสไตล์ Coastal House บ้านพักตากอากาศที่มีกลิ่นอายความเป็น Vintage หรือ Classic ผสมผสานอยู่ โดยมีทั้งหมด 2 แบบบ้านประกอบด้วย W-234 และ W-235 ขนาด 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ในราคาเริ่มต้นที่ 3 ล้านบาทเศษ เหมาะสำหรับเป็นบ้านเพื่อการพักผ่อน ในโอกาสพิเศษนี้ สำหรับลูกค้าที่จองปลูกสร้างบ้านภายในวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 บริษัทฯ ยินดีมอบส่วนลดทันที สูงสุด 10% (เฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์รับสร้างบ้านพีดีเฮ้าส์ใกล้บ้านคุณ คลิก www.pd.co.th หรือไลน์แอด @pdhouse
ที่มา: พีดี เฮ้าส์ อินเตอร์เนชั่นแนล
