เอ็กโก กรุ๊ป โดย "มูลนิธิไทยรักษ์ป่า" ประสานพลัง "กรมป่าไม้" ขับเคลื่อนการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ป่าต้นน้ำและป่าชุมชน

จันทร์ ๒๔ กรกฎาคม ๒๐๒๓ ๑๓:๕๗
มูลนิธิไทยรักษ์ป่า องค์กรสาธารณกุศลซึ่งก่อตั้งและสนับสนุนการดำเนินงานโดย บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและป่าต้นน้ำที่สำคัญของประเทศมากว่า 20 ปี จับมือ กรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ 5 ปี เพื่อ "การอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ป่าต้นน้ำและป่าชุมชน" มุ่งประสานความร่วมมือและบูรณาการการทำงานด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ในพื้นที่ป่าต้นน้ำของประเทศอย่างยั่งยืน
เอ็กโก กรุ๊ป โดย มูลนิธิไทยรักษ์ป่า ประสานพลัง กรมป่าไม้ ขับเคลื่อนการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ป่าต้นน้ำและป่าชุมชน

สำหรับขอบเขตการดำเนินงานภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือนี้ ครอบคลุม 6 ภารกิจหลัก ได้แก่ 1) การอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ ระบบนิเวศ และความหลากหลายทางชีวภาพ ร่วมกับกรมป่าไม้และชุมชนในพื้นที่ เพื่อการมีส่วนร่วมในการรักษาป่าต้นน้ำในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติและในพื้นที่โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) และในพื้นที่ป่าชุมชน 2) การสนับสนุนให้เกิดพื้นที่ป่าอย่างมีส่วนร่วม โดยการปลูกป่า ในพื้นที่ของรัฐผ่านกลไกคาร์บอนเครดิต 3) การสนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาเส้นทางศึกษาธรรมชาติและระบบสื่อความหมายในพื้นที่ป่านันทนาการ 4) การสนับสนุนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ตามภารกิจของกรมป่าไม้ในการดูแล ส่งเสริม อนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้และการมีส่วนร่วมในการดูแลผืนป่า 5) การสร้างเครือข่ายชุมชนและเยาวชน เพื่อการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และ 6) การสนับสนุนงานสำรวจ ศึกษาวิจัย และส่งเสริมบุคคลากร เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพในพื้นที่ป่า

นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ประธานกรรมการ มูลนิธิไทยรักษ์ป่า และ กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยว่า มูลนิธิไทยรักษ์ป่าขับเคลื่อนภารกิจด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและป่าต้นน้ำให้คงอยู่อย่างยั่งยืน ซึ่งเป็นปัจจัยตั้งต้นของพลังงานและสิ่งมีชีวิตทั้งหมด มาอย่างต่อเนื่องกว่า 2 ทศวรรษ บนหลักการที่ว่า "คนอยู่ได้ ป่าอยู่ได้" ด้วยการมีส่วนร่วมจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและชุมชนในพื้นที่ มูลนิธิฯ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับกรมป่าไม้ โดยมีแผนการดำเนินงานร่วมกันเป็นเวลา 5 ปี (ปี 2566-2570) โดยมุ่งต่อยอดและขยายผลการดำเนินงานที่ผ่านมาให้เกิดประโยชน์สูงสุดและครอบคลุมงานอนุรักษ์ในหลากหลายมิติมากยิ่งขึ้น ด้วยเป้าหมายสำคัญคือ การร่วมมือกับภาครัฐ เครือข่ายชุมชน และเครือข่ายเยาวชน ในการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากพื้นที่ป่าอย่างยั่งยืน การฟื้นฟูพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมและปรับวนเกษตร 5,000 ไร่ การบำรุงรักษาและฟื้นฟูพื้นที่ป่าผ่านกลไกคาร์บอนเครดิตกว่า 20,000 ไร่ ในพื้นที่ป่าชุมชนเป้าหมาย 10 แห่ง ในพื้นที่การดำเนินงาน 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ นครศรีธรรมราช และชัยภูมิ

นอกจากนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ซึ่งก่อตั้งและสนับสนุนการดำเนินงานของมูลนิธิไทยรักษ์ป่า ยังมีส่วนร่วมในการหนุนเสริมโอกาสและศักยภาพของชุมชนในการบริหารจัดการป่าและคุณภาพชีวิตของชุมชนให้ยั่งยืน โดยการสนับสนุนโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program: T-VER) ประเภทป่าไม้และพื้นที่สีเขียวด้วย

"ความร่วมมือระหว่างกรมป่าไม้และมูลนิธิฯ จะช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งและเพิ่มประสิทธิภาพให้กับเครือข่าย การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและป่าต้นน้ำของประเทศ รวมถึงสนับสนุนและต่อยอดผลการดำเนินงานของมูลนิธิฯ ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ นครศรีธรรมราช และชัยภูมิ ให้ครอบคลุมพื้นที่ป่าที่อยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ เพื่อให้การดูแลรักษาป่าต้นน้ำแห่งสำคัญของประเทศมีความต่อเนื่องและยั่งยืน ในขณะเดียวกัน การดำเนินงานของมูลนิธิฯ โดยเฉพาะการบำรุงรักษาและฟื้นฟูพื้นที่ป่าผ่านกลไกคาร์บอนเครดิต จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งเสริมให้ภาคประชาชนและชุมชนหันมาดูแลรักษาป่าและระบบนิเวศของป่าที่ตนเองอาศัยและพึ่งพาเพื่อการดำรงชีวิตอย่างจริงจัง โดยได้รับโอกาสและผลกำไรจากการดูแลรักษาป่าเป็นการตอบแทน นอกจากนี้ ยังจะมีส่วนสำคัญในการสนับสนุนเอ็กโก กรุ๊ป ให้สามารถบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ได้ภายในปี 2050 (2593)" นายเทพรัตน์ กล่าว

นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ เปิดเผยว่า กรมป่าไม้ให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการสนับสนุนการขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตลอดจนการพัฒนาป่าชุมชนของประเทศให้ประสบผลสำเร็จอย่างยั่งยืน โดยความร่วมมือระหว่าง 2 หน่วยงานในครั้งนี้อยู่บนพื้นฐานการทำงานที่สอดคล้องกันคือ การบริหารจัดการทรัพยากรป่าไม้โดยการมีส่วนร่วม และมุ่งเป้าให้คนกับป่าสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุลและยั่งยืน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนเป้าหมายของกรมป่าไม้ตามยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ในการเพิ่มพื้นที่ป่าและพื้นที่สีเขียวให้ได้ 55% ของพื้นที่ประเทศ และเป้าหมายการส่งเสริมจัดตั้งป่าชุมชนให้ครบ 15,000 ป่าชุมชน โดยชุมชนมีส่วนร่วมจำนวน 18,000 หมู่บ้าน พื้นที่ไม่น้อยกว่า 10 ล้านไร่ ภายในปี พ.ศ.2570 เพื่อสนับสนุนให้ชุมชนร่วมดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และความหลากหลายทางชีวภาพของประเทศให้มีความอุดมสมบูรณ์และยั่งยืน ทั้งนี้ กรมป่าไม้ยินดีสนับสนุนและผลักดันการดำเนินงานของมูลนิธิฯ ภายใต้บันทึกข้อตกลงความร่วมมือนี้ให้มีผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป

ที่มา: บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน)

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๗ เม.ย. อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud