ไทยได้ประโยชน์จากสงครามการค้าจริงหรือ?: มิติทางด้านการลงทุน

พุธ ๒๖ กรกฎาคม ๒๐๒๓ ๑๓:๑๘
สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โดยสถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดทำโครงการศึกษาการแยกห่วงโซ่อุปทาน (Decoupling) ของอุตสาหกรรมสำคัญระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน และนัยต่อเศรษฐกิจการค้าไทย
ไทยได้ประโยชน์จากสงครามการค้าจริงหรือ?: มิติทางด้านการลงทุน

ผลการศึกษาด้านการลงทุน พบว่า ไทยได้อานิสงค์ในส่วนของการขยายการลงทุนและการย้ายฐานการผลิตจากสงครามการค้า โดยเฉพาะในส่วนของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า โดยนักลงทุนส่วนใหญ่ยังเป็นกลุ่มนักลงทุนญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ สหรัฐฯ สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบกับประเทศอื่น ๆ เงินลงทุนที่ไทยได้รับยังน้อยกว่าเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียน เช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย สำหรับนักลงทุนจีนที่อาจต้องการลงทุนในต่างประเทศมากขึ้นเพื่อลดผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนที่ยืดเยื้อ แม้นักลงทุนจากจีนแสดงความจำนงค์ที่จะเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะ Printed Circuit Board (PCB) ดังสะท้อนจากจำนวนโครงการและเงินลงทุนที่ขอรับการส่งเสริมจากบีโอไอที่เพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวในช่วงปี ค.ศ. 2021 ถึง 2022 แต่การเร่งขบวนการอนุมัติและออกบัตรส่งเสริมการลงทุนยังเป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่ไทยต้องให้ความสำคัญเพื่อก่อให้เกิดการลงทุนขึ้นจริงภายในประเทศ

สำหรับนโยบายและมาตรการการส่งเสริมการลงทุนในปัจจุบันนั้น คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ได้ออกมาตรการจำนวนมากเพื่อส่งเสริมการลงุทนภายในประเทศ เช่น มาตรการรักษาและขยายฐานการผลิตเดิม มาตรการกระตุ้นการลงทุนเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และมาตรการยกระดับอุตสาหกรรม เป็นต้น ซึ่งอาจพิจารณาอย่างรอบคอบถึงความทับซ้อนกันของนโยบายเพื่อไม่ให้บั่นทอนประสิทธิภาพของนโยบายในการดึงดูดการลงทุน

โครงการศึกษาฯ ได้ติดตามสถานการณ์การแยกห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมสำคัญระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีนอย่างใกล้ชิดจากแหล่งข้อมูลทั้งในและต่างประเทศ ทำการวิเคราะห์ผลที่จะเกิดขึ้นต่อห่วงโซ่อุปทานโลกและไทย เนื่องจากภาคการผลิตของไทยต่างเข้าไปเกี่ยวข้องทั้งห่วงโซ่อุปทานของสหรัฐฯ และจีน โดยศึกษาผ่านองค์ความรู้เชิงลึกเกี่ยวกับห่วงโซ่อุปทานของโลก ร่วมกับการวิเคราะห์แนวโน้มการค้าและแผนผังการลงทุนของบริษัทข้ามชาติในอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์และอุตสาหกรรมยานยนต์ และรวบรวมความคิดเห็นจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้องผ่านการสัมภาษณ์และระดมสมอง เพื่อให้ได้ผลการวิเคราะห์ที่รอบด้าน และนำไปสู่การพัฒนาข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่ให้ไทยได้ประโยชน์ท่ามกลางกระแสการแบ่งแยกห่วงโซ่อุปทาน ขณะนี้ โครงการศึกษาเสร็จสิ้นแล้ว และได้เผยแพร่ผลการศึกษาในงานสัมมนาเมื่อ 19 สิงหาคม ที่ผ่านมา

ที่มา: สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๗ เม.ย. อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud