ม.มหิดลชี้อันตรายจากการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ และวิธีฟอกสีฟันที่ไม่ได้มาตรฐาน

พุธ ๐๒ สิงหาคม ๒๐๒๓ ๑๓:๔๖
ฟันที่ขาวสะอาด นอกจากบ่งบอกถึงการดูแลสุขอนามัยส่วนตัวที่ดีแล้ว ยังหมายถึงการเปิดรับโอกาสดีๆ ที่อาจเข้ามาสู่ชีวิต จากการมีรอยยิ้มที่มั่นใจคอยส่งเสริมบุคลิกภาพ

ทันตแพทย์ศุภกิจ นิยมรัตนกิจ ทันตแพทย์ปฏิบัติงาน โรงพยาบาลทันตกรรมมหาจักรีสิรินธร คณะทันตแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า "การฟอกสีฟัน" ในทางทันตสาธารณสุขถือเป็น "ปัจจัยรองลงมา" จากการรักษาสุขอนามัยช่องปากให้ปราศจากโรคฟัน และโรคเหงือก

สาเหตุที่การฟอกสีฟันมีความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในทุกวันนี้ส่วนหนึ่งมาจากสื่อโฆษณา โดย ทันตแพทย์ศุภกิจ นิยมรัตนกิจ ได้ตั้งข้อสังเกตุให้ชวนคิดว่าเป็นภาพจากการฟอกสีฟันธรรมชาติที่มีอยู่เดิมให้ขาว หรือเป็นทันตกรรมประดิษฐ์ จากการเคลือบผิวฟันด้วยวัสดุทดแทน (Veneer)

อย่างไรก็ดี การฟอกสีฟันให้ขาวสะอาดมีความจำเป็นที่แตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยในปัจจุบันสามารถทำได้ทั้งโดยทันตแพทย์ และด้วยตัวเอง ซึ่งน้ำยาที่ทันตแพทย์ใช้ส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มเปอร์ออกไซด์ (Peroxide) ซึ่งมีคุณสมบัติทำให้เม็ดสีฟันที่เข้มจางลง

โดยระดับความขาวขึ้นอยู่กับความเข้มข้นของน้ำยาและเวลาที่ใช้ในการฟอก ซึ่งน้ำยายิ่งเข้มข้น แม้จะยิ่งทำให้ใช้เวลาฟอกสีฟันได้สั้นลง แต่อาจส่งผลทำให้สารฟอกสีฟันแทรกซึมเข้าไปในชั้นเนื้อฟัน ทำให้ง่ายต่อการเสียวฟัน และเหงือกระคายเคืองได้ ระยะห่างของการฟอกสีฟันแต่ละครั้งจึงควรอยู่ระหว่าง 6 เดือน - 1 ปี

ทันตแพทย์ศุภกิจ นิยมรัตนกิจ ได้กล่าวแนะนำต่อไปอีกด้วยว่า ในช่วง 2 สัปดาห์แรกหลังการฟอกสีฟันขาวเป็นช่วงที่ง่ายต่อการติดสี จึงควรใช้ความระมัดระวังในการเลือกรับประทานอาหารที่มีสารสีเข้ม เช่น แกงที่มีส่วนผสมของเครื่องเทศที่ให้สีต่างๆ อาทิ พริก และขมิ้น รวมทั้งซอสปรุงรส และเครื่องดื่มที่มีสารสีเข้ม เช่น น้ำผลไม้ ชา กาแฟ และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ จำพวกไวน์แดง หรือวิสกี้ ตลอดจนควรงดสูบบุหรี่ เพราะอาจเกิดคราบจากสารนิโคติน และควันบุหรี่ได้

นอกจากนี้ ข้อควรระวังในการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันที่ไม่ได้มาตรฐานมาใช้เอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถาดฟอกสีฟันที่ทำมาจากเทอร์โมพลาสติกซึ่งโฆษณาว่าจะสามารถเปลี่ยนรูปได้ตามลักษณะฟัน หลังจุ่มด้วยน้ำร้อนก่อนนำไปใช้ แต่แท้ที่จริงแล้วอาจเกิดเป็นช่องว่างทำให้น้ำยาฟอกสีฟัน ซึ่งเป็นสารเคมีอันตรายไหลลงคอได้

ในขณะที่อีกทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า ได้แก่ การพบทันตแพทย์เพื่อพิมพ์ปากทำถาดพร้อมรับน้ำยากลับไปฟอกสีฟันด้วยตัวเองที่บ้าน ซึ่งเป็นน้ำยาฤทธิ์อ่อน ประเภทคาร์บาไมด์เปอรอกไซด์ (Carbamide Peroxide) ที่มีความเข้มข้นร้อยละ 10 - 15 สามารถใส่ลงถาดใช้ครอบฟันขณะนอนหลับ จะทำให้ฟันค่อยๆ ขาวขึ้นได้ตามความต้องการภายในประมาณ 2 สัปดาห์ สามารถติดต่อขอเข้ารับบริการได้ที่ โรงพยาบาลทันตกรรมมหาจักรีสิรินธร คณะทันตแพทยศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล ทั้งที่พญาไท และศาลายา

ติดตามข่าวสารที่น่าสนใจจากมหาวิทยาลัยมหิดลได้ที่www.mahidol.ac.th

ที่มา: มหาวิทยาลัยมหิดล

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน