L&E เดินหน้าขยายตลาด หนุนครึ่งปีหลังดีกว่า H1/66 เผยมีงานที่ติดตามมูลค่า 4,000 - 5,000 ลบ. เข้าเติม Backlog ปัจจุบันอยู่ที่ 1,300 ลบ.

พฤหัส ๑๐ สิงหาคม ๒๐๒๓ ๑๐:๐๒
L&E คาดครึ่งปีหลังสัญญาณดีกว่าครึ่งแรก จากปริมาณงานที่ทยอยออกมายังมีอีกมาก และมีงานที่ติดตามอยู่ค่อนข้างสูง มูลค่า 4,000-5,000 ล้านบาท เข้ามาเติมแบ็กล็อกเพิ่มจากปัจจุบันอยู่ที่ 1,300 ล้านบาท ทยอยรับรู้ต่อเนื่องปีนี้ ขณะที่ผลงานไตรมาส 2/66 ยอดขายได้รับผลกระทบจากโควิดยังไม่หมด งานโครงการใหญ่ๆ ชะลอการรับสินค้า มีผลทำให้ต้องเลื่อนการรับรู้รายได้ออกไปในไตรมาสถัดไป อีกทั้ง สาเหตุใหญ่จากรายได้จากการขายสินค้าในตลาดประเทศสหรัฐอเมริกาลดลง ส่งผลให้ไตรมาส 2/66 มีรายได้จากการขายและให้บริการ 636 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 23%
LE เดินหน้าขยายตลาด หนุนครึ่งปีหลังดีกว่า H1/66 เผยมีงานที่ติดตามมูลค่า 4,000 - 5,000 ลบ. เข้าเติม Backlog ปัจจุบันอยู่ที่ 1,300 ลบ.

นายอนันต์ กิตติวิทยากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไลท์ติ้ง แอนด์ อีควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ L&E เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลังคาดว่าจะดีกว่าช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจุบันยังมีปริมาณงานขนาดใหญ่ออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีงานที่บริษัทฯ อยู่ระหว่างติดตามอีกกว่า 4,000-5,000 ล้านบาท อาทิ โครงการ Mixed-Use งานสนามบิน งานโรงพยาบาล และงานโรงงาน เป็นต้น ขณะที่ ปัจจุบันมีงานในมือ (Backlog) ราว 1,300 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ต่อเนื่องในปีนี้

สำหรับการเติบโตของธุรกิจ Entertainment lighting บริษัทฯ ได้มีการอัปเกรดอุปกรณ์รองรับงาน Virtual Production มาตรฐานระดับ World Class โดยมีการลงทุนมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการลงทุนเพื่อรองรับการขยายตัวของ Entertainment Tech มองว่าปี 2566 ความต้องการสินค้า L&E virtual studio ที่ตอบโจทย์ยุค metaverse รวมถึงกลุ่ม IoT SMART POLES, Horticulture Lighting คาดการณ์จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในปีนี้ ปัจจุบันได้ขยายการเติบโตรองรับโอกาสทางธุรกิจ โดยช่วงที่ผ่านมาได้เปิดตัวธุรกิจใหม่ภายใต้ชื่อ L&E Beyond เพื่อดำเนินธุรกิจจำหน่ายและให้บริการงานโปรดักชั่น (Production Solution Provider) แบบครบวงจร ให้บริการทั้งระบบแสง เสียง ภาพ และเทคโนโลยีล้ำสมัยกลุ่ม Entertainment Tech แก่ธุรกิจด้านบันเทิง อาทิ งานละคร งานถ่ายรายการโทรทัศน์ งานถ่ายทำ Music Video งานคอนเสิร์ต งานนิทรรศการแบบครบวงจร เสริมภาพลักษณ์ให้ L&E เป็นมากกว่าผู้นำธุรกิจ Lighting Solution

นอกจากนี้ ได้มีการศึกษาธุรกิจใหม่ๆ คือ Biological Lighting ตอนนี้มีการสร้างเรือนเพาะชำใหม่ขึ้นมาที่โรงงาน นพวงศ์ เรียกว่า Green House โดยใช้ระบบอัตโนมัติควบคุมด้วย IoT ทั้งหมด ตอกย้ำ เราเป็นมากกว่าแสงสว่าง L&E ไม่ได้ทำแค่แสงสว่างเพียงอย่างเดียว รวมทั้งยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เรียกว่า "เซอร์คาเดี้ยน Circadiun Lighting" หรือ "Human Centric Light" ซึ่งตอนนี้มีความต้องการมากขึ้น บริษัทฯ มีผลิตภัณฑ์พร้อมเสิร์ฟ คือ การทำไฟที่เปลี่ยนสี ระบบไฟควบคุมด้วยระบบสมาร์ท สามารถเปลี่ยนอุณหภูมิสีในบ้าน อาคารพาณิชย์ ในพิพิธภัณฑ์ และในทางการแพทย์ ใช้ในการรักษาคนไข้ เพื่อสร้างบรรยากาศเสมือนว่าเป็นกลางวัน หรือกลางคืนได้ ตอบโจทย์ผู้บริโภคในเรื่องแสงสว่างได้มากกว่าเดิม

อย่างไรก็ดี การเติบโตของรายได้ปีนี้ เดิมบริษัทฯ คาดว่าจะเติบโต 10-15% อาจจะไม่เป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจากความล่าช้าการรับรู้รายได้ของงานโครงการ นอกจากนี้ยังมีการแข่งขันด้านราคาที่สูงเนื่องจากมีวัตถุดิบที่นำเข้ามาจากประเทศจีนเป็นจำนวนมาก รวมทั้งผลกระทบจากสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน ส่งผลให้ค่าขนส่งสินค้าปรับสูงขึ้น เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น และเงินบาทอ่อนค่าลง ทำให้ต้นทุนสินค้าเพิ่มสูงขึ้นขณะที่ราคาขายของงานโครงการส่วนใหญ่ไม่สามารถปรับขึ้นได้ เป็นผลให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวลดลง โดยบริษัทฯได้ปรับลดเป้ารายได้ปีนี้เติบโตแบบทรงตัว

สำหรับผลประกอบการในงวดไตรมาส 2/66 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและให้บริการ 636 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 190 ล้านบาท หรือลดลง 23% สาเหตุใหญ่เป็นผลจากรายได้จากการขายสินค้าในตลาดประเทศสหรัฐอเมริกาลดลง เนื่องจากการแข่งขันที่เข้มข้นและตลาดที่ชะลอตัวจากปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาการเงินที่ประเทศนี้กำลังประสบอยู่ ในขณะที่การหาตลาดทดแทนในต่างประเทศยังไม่เกิดผลเป็นรูปธรรม รวมทั้งในไตรมาส 2/66 ที่ผ่านมา บริษัทฯมีงานโครงการในประเทศหลายงานต้องเลื่อนออกไปรับรู้รายได้ในไตรมาสถัดไป ส่งผลให้บริษัทฯขาดทุนสุทธิสำหรับงวด 17.9 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไร 10.3 ล้านบาท ปรับตัวลดลง 28.2 ล้านบาท โดยกำไรขั้นต้นจากการขายรวมรายได้อื่นลดลง 11% จากยอดขายที่ปรับตัวลดลง แม้อัตรากำไรขั้นต้นได้ปรับตัวดีขึ้นจาก 24.3% ในปี 2565 เป็น 28% ในปี 2566 ทั้งนี้เพราะสินค้าที่ขายให้ลูกค้าปลายทางในสหรัฐอเมริกาที่ลดลงมีอัตรากำไรเบื้องต้นต่ำกว่าสินค้าที่ขายทั่วไป

ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารรวมดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้น 10.7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5% สาเหตุใหญ่มาจากค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นจากการขยายตลาดและส่งเสริมการขาย ตลอดจนค่าใช้จ่ายในการพัฒนา Supply Chain เพื่อลดต้นทุนการผลิตให้สามารถแข่งขันได้ดีในตลาดต่างประเทศและตลาดในประเทศ รวมถึงผลจากการปรับเงินเดือนประจำปี และดอกเบี้ยจ่ายที่เพิ่มสูงขึ้นเพราะอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ปรับตัวสูงขึ้นจาก 2.79% ในปี 2565 เป็น 2.83% ในปี 2566 โดยมีเครดิตภาษีเงินได้นิติบุคคลเพิ่มขึ้น 4.5 ล้านบาท

"ผลงานไตรมาส 2/66 ยอดขายได้รับผลกระทบจากโควิดที่ยังไม่หมด งานโครงการใหญ่ๆ ชะลอการรับสินค้าออกไปนานกว่าที่คาดการณ์ไว้ตอนต้นปี มีผลทำให้ต้องเลื่อนการรับรู้รายได้ออกไปในไตรมาถัดๆไป นอกจากนี้ยังมีต้นทุน ซึ่งมีแรงกดดันจากสินค้าประเทศจีน ที่ยังคงมีข้อพิพาทกับสหรัฐอเมริกา ทะลักเข้ามาในประเทศไทย ซึ่งเรามองว่า สถานการณ์ได้ผ่านช่วงวิกฤติมาแล้ว และดีขึ้นเป็นลำดับ จึงมั่นใจครึ่งปีหลังเดินหน้าขยายตลาด และจะดีกว่าครึ่งปีแรก" นายอนันต์ กล่าว

ที่มา: ไออาร์ พลัส

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๔ พ.ค. Siriraj Education Expo 2024 ก้าวสู่ยุคใหม่ไปกับศิริราช พร้อมยกระดับทางการแพทย์ให้ดีขึ้น เพื่อสุขภาวะที่ดีของคนไทยทุกคน
๐๓ พ.ค. ครั้งแรก! งานเทศกาลคอนเทนต์ LGBTQ ฉลองความเท่าเทียมทางเพศ THAILAND INTERNATIONAL LGBTQ FILM TV FESTIVAL 2024 ปักหมุดเตรียมพบกัน กันยายนนี้
๐๓ พ.ค. โน วัน เอลส์ ส่ง 3 เพลงรัก 3 สไตล์! ผ่านมิวสิกซี่รีย์ ที่จะทำให้คุณเข้าใจความรักมากขึ้น
๐๓ พ.ค. ทีซีเอ็มซีมอบรางวัลประกวดการออกแบบผลงานด้านผลิตภัณฑ์อคูสติกส์
๐๓ พ.ค. GT Auto ฉลองแชมป์ยอดขาย Volvo จัดงาน มหกรรม GT Auto Show ลดสูงสุด 1,000,000 บาท พร้อมชูบริการ GT Auto Exclusive Service
๐๓ พ.ค. กทม. เตรียมพร้อมให้บริการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ในกลุ่มเสี่ยงและนักเรียนในสังกัด
๐๓ พ.ค. กรมส่งเสริมการเกษตร ประชุมคณะทำงานความร่วมมือด้านการรับรองแหล่งผลิตพืชฯ (GAP พืช) ครั้งที่ 1/2567
๐๓ พ.ค. First Sale! realme 12 5G และ realme 12X 5G สัมผัสประสบการณ์ Portrait Master กับกล้องซูม 3X in sensor
๐๓ พ.ค. CRYSTALLIZING ใหม่! โดย SHISEIDO PROFESSIONAL อัปเกรดกลุ่มผลิตภัณฑ์ยืด-ดัดผม ชูเทคโนโลยีสุดล้ำ DUAL PERFORMANCE SYSTEM
๐๓ พ.ค. บัลเลต์ รีทรีต บนเกาะมัลดีฟส์ กลับมาอีกครั้ง ที่ อวานี พลัส แฟเรส โดย คาร์ริส สการ์เลต นักเต้นบัลเลต์ชื่อดัง