นายณรงค์ ศรีวรรณวิทย์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฎิบัติการสายงานขายและธุรกิจค้าปลีก บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 เปิดเผยว่า COM7 เดินหน้าเป้าหมายปีนี้รายได้เติบโต 20% จากปีก่อน จากการสร้างความพร้อมในช่วงครึ่งปีแรก ทั้งในการจัดทัพสินค้ากลุ่มไฮมาร์จิ้น พร้อมด้วยการรีโนเวทสาขาเดิม และการขยายสาขาใหม่ ประกอบกับ การเดินหน้ากิจกรรมการตลาด ชูบริการ และสินเชื่อเสริมทัพ รับไฮซีซั่นธุรกิจในโค้งสุดท้ายปีนี้ ส่วนภาพรวมสินค้าไอทีมองว่าทยอยฟื้นตัว
โดยผลงานครึ่งปีแรก COM7 เติบโตจากสินค้ากลุ่มที่ได้รับความนิยมต่อเนื่อง ได้แก่ กลุ่ม Smartphone สัดส่วน 54% Tablet 17% Accessories 18% IT Product 9% และอื่นๆ สนับสนุนไตรมาส 2/2566 มีรายได้รวม 16,042.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.1% กำไรขั้นต้น 2,325.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.1% กำไรส่วนใหญ่ของบริษัท 704.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.6% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้งวด 6 เดือนแรกปี 2566 มีกำไรส่วนใหญ่ของบริษัท 1,577.81 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.43%
อย่างไรก็ดี โดยปกติรายได้ของ COM7 จะเติบโตราว 20% แต่ไตรมาส 2/2566 ที่ยอดขายเติบโตราว 11% มาจาก 3 ปัจจัยหลัก คือ การกลับมาทำตลาดของแบรนด์ Realme จากช่วงโควิดที่ COM7 เป็นดิสทริบิวเตอร์หลัก อย่างไรก็ตาม ได้มีการเพิ่มแบรนด์ใหม่เข้ามาเสริมพอร์ต ได้แก่ Infinix , Tecno และ Benco ที่ช่วยเพิ่มยอดขายสมาร์ทโฟนในกลุ่มนี้เข้ามาทดแทน และมีแนวโน้มที่ดีต่อเนื่อง
นอกจากนี้ งานอีเวนท์ส่วนใหญ่เกิดขึ้นในไตรมาสที่ 1 และครึ่งปีหลัง ส่วนช่องทางการจำหน่ายที่ศูนย์การค้าปิดปรับปรุง 2 แห่ง คือ เดอะมอลล์บางกะปิ และเดอะมอลล์บางแค รวมทั้ง การปิดปรับปรุงร้านสาขาจำนวน 40 สาขา ซึ่งส่วนใหญ่เป็นร้าน Studio7 ที่มียอดจำหน่ายระดับสูง เตรียมพร้อมสำหรับเปิดตัวสินค้า กับร้านคอนเซ็ปต์ใหม่
อย่างไรก็ดี สาขาที่รีโนเวททั้ง 40 สาขาจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3/2566 เพื่อพร้อมรับไฮซีซั่นในไตรมาส 4/2566 และต้อนรับการมาของไอโฟนรุ่นใหม่ที่จะเปิดตัวในช่วงโค้งสุดท้ายของปี พ่วงด้วยบริการและประสบการณ์ใหม่ที่จะเกิดขึ้นในร้านรูปแบบใหม่นี้ด้วย คาดยอดขายร้านหลังรีโนเวทจะกลับมาดีขึ้นประมาณ 15%
นายทรงธรรม บุญยะทรัพย์ Head of Business Expansion เปิดเผยถึง ในด้านช่องทางการจำหน่ายในครึ่งปีหลังคาดเปิดเพิ่มอีกราว 100 สาขา รวมถึงศูนย์การค้าที่เปิดใหม่ และคาดมีสาขาที่ปิดตัว ทำให้คาดสิ้นปีมี 1,400 สาขาตามที่วางไว้ ณ สิ้นไตรมาส 2/2566 บริษัทฯ มีจำนวน 1,295 สาขา ประกอบด้วย BaNANA, Bb, B-Play, BKK, BeBePhone, E-quip, Franchise, iCare, KingKong Phone, Studio7, True Shop by Com7, U-Store และ Brand shop
รวมทั้ง ความคืบหน้าธุรกิจร้านขายยาภายใต้แบรนด์ Dr.Pharma ณ สิ้นไตรมาส 2/2566 เปิดไปแล้ว 8 สาขา คาดสิ้นปีมี 10 สาขา ขณะที่ร้านอาหารสัตว์เลี้ยงในชื่อแบรนด์ Pet Paw เปิดแล้ว 2 สาขา คาดสิ้นปีมี 12 สาขา
นางศันสนีย์ แสงโรจน์เพิ่มสุข สว่างเนตร Head of Marketing กล่าวเสริมว่า การรุกสินค้ากลุ่ม House Brand เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายที่จะโฟกัสในปีนี้ เพื่อเพิ่มสัดส่วนการเติบโตของสินค้ากลุ่ม Accessory ที่มีอัตรากำไรที่ดีกว่า Inter Brand ราว 1 เท่า ปัจจุบันได้เริ่มกิจกรรมการตลาด ทำให้สินค้า House brand เติบโต 62% ในไตรมาส 2/2566 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ขณะที่ BaNANA Sure นำเสนอไอโฟนมือสองคุณภาพเยี่ยม ราคาดี ผ่อน 0% ง่ายๆ ตรวจสอบโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ เริ่มจำหน่ายสินค้ามือสองในงาน Commart และอีเวนท์ต่าง ๆ ทั้งชูจุดแข็ง iCare ศูนย์บริการซ่อมผลิตภัณฑ์แอปเปิ้ล (Apple Service Provider) ที่มี Market share 50% ของศูนย์บริการซ่อม ซึ่งมีความเชี่ยวชาญ เสริมทัพให้มี Certificate ทำให้มั่นใจกับการจำหน่ายสินค้ามือสอง อีกทั้งยอดขายมีแนวโน้มที่ดี พร้อมลุยต่อในไตรมาส 3/2566 นำ BaNANA Sure ไปอยู่ในร้าน BaNANA
ขณะที่ U Fund ยังคงรักษาจำนวนการอนุมัติวงเงินสินเชื่อราว 60% ในขณะที่ NPL ระดับ 3-4% อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือการเงินสำคัญ ในการต่อยอดแคมเปญ iPhone Forever ที่จะเริ่มในไตรมาส 3/2566 ซึ่งลูกค้าสามารถเปลี่ยนไอโฟนใหม่ทุกปี ผ่อนถูกกว่า จ่ายแค่ครึ่งเดียว ผ่านร้าน iStudio7 และ BaNANA
ที่มา: ไออาร์ พลัส