ดร.ชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการเนคเทค สวทช. กล่าวว่า เนคเทค สวทช. ในฐานะองค์กรวิจัยของประเทศ ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้าต่อกับภารกิจในการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีทางด้านอิเล็กทรอนิกส์และสารสนเทศ เปรียบเสมือนเป็น "เครื่องจักรสำคัญเพื่อสร้างฐานรากทางเทคโนโลยีขั้นสูงให้กับประเทศ" โดยให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับหน่วยงานพันธมิตรทั้งภาครัฐ และเอกชน เพื่อร่วมกันแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ถ่ายทอดรวมทั้งการสร้างแพลตฟอร์มหรือเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญให้กับประเทศ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย พร้อมทั้งเทคโนโลยี สร้าง สรรค์ผลงานวิจัยให้ตอบโจทย์การใช้งานภายในประเทศ เพื่อสร้างระบบนิเวศ (Ecosystem) ผลักดัน และใช้ประโยชน์จากงานวิจัยพัฒนาไปสู่ผู้ใช้งานจริงได้อย่างยั่งยืน
การจัดงานประชุมวิชาการและนิทรรศการของเนคเทค หรือ NECTEC-ACE ถือเป็นกิจกรรมสำคัญในการส่งมอบผลงานให้กับประเทศ เป็นเวทีนำเสนอผลงานวิชาการ ผลงานวิจัย ได้มาแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์จากผู้ทรงคุณวุฒิที่จะนำเสนอเทรนด์ทางเทคโนโลยีใหม่ๆ ตลอดจนสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และสนับสนุนภารกิจของเครือข่ายพันธมิตรที่จะมาร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานวิจัยให้เกิดประโยชน์ในการพัฒนาประเทศ โดยปีนี้นับเป็นครั้งที่ 16 ของการจัดงาน ซึ่งในปีที่ผ่านๆ มาได้รับความสนใจจากผู้ร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยความพิเศษในแต่ละปีจะมีการนำเสนอแนวคิดหลักของการจัดงานที่แตกต่างกันออกไป โดยในปีนี้มุ่งเน้นนำเสนอวิทยาการความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องทางด้านข้อมูล ภายใต้แนวคิด ""Data for Thai Data for All" เพื่อเชิญชวนภาครัฐ เอกชน มาร่วมกันปลดปล่อยพลังแห่งข้อมูล พร้อมทั้งร่วมกันผลักดันให้เกิดระบบนิเวศของการแลกเปลี่ยน และใช้ข้อมูลร่วมกันในการวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชนเพื่อช่วยในการแก้ไขปัญหา ตลอดจนการยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย ทั้งในเชิงเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศในทุกมิติ
สำหรับความน่าสนนใจงานประชุมวิชาการและ NECTEC-ACE 2023 ทุกท่านจะได้พบกับ
- 12 หัวข้อสัมมนาวิชาการ รวบรวมกูรู ผู้ทรงคุณวุฒิ นักวิจัย นักวิชาการ กว่า 50 ท่าน ที่จะมาร่วมนำเสนอความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์การดำเนินงานจริง ในด้านเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องด้านข้อมูล 3 Themes ที่สำคัญ ได้แก่ Data Platform, Big Data & AI, Data Governance + Security
- 30 บูธนิทรรศการ ผลงานวิจัยจากเนคเทค และหน่วยงานพันธมิตร ที่แสดงถึงตัวอย่าง การใช้ประโยชน์จากข้อมูล, Data Solution, Core Technology และการใช้ข้อมูล ต่อยอด เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานขององค์กร และธุรกิจ โดยมีตัวอย่างผลงานวิจัย อาทิ
TPMAP ระบบบริหารจัดการข้อมูลและพัฒนาคนแบบชี้เป้า เครื่องมือช่วยในการกำหนดนโยบาย เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างเหมาะสมและตรงจุดภายใต้บริบทในแต่ละพื้นที่ โดยเฉพาะปัญหาเรื่องความยากจน ซึ่งเป็นปัญหาหลักของประเทศ
"ในเมือง" ผลงานสุดท้าทายที่บูรณาการข้อมูล จาก 7 แกนเทคโนโลยีหลักที่ใช้ขับคลื่อนการพัฒนา Smart City เมืองไทย อาทิ สิ่งแวดล้อมอัจฉริยะ (Smart Environment) การบริการภาครัฐอัจฉริยะ (Smart Governance) การเดินทางและขนส่งอัจฉริยะ (Smart Mobility) พลังงานอัจฉริยะ (Smart Energy) เศรษฐกิจอัจฉริยะ (Smart Economy) การดำรงชีวิตอัจฉริยะ (Smart Living) และพลเมืองอัจฉริยะ (Smart People) เพื่อวิเคราะห์ วางแผนรัมมือให้สามารถการบริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดค่าใช้จ่าย และแก้ปัญหาในระยะยาว
การสร้างแผนที่ 3 มิติด้วยเทคโนโลยี LiDAR เทคโนโลยีสร้างแผนที่ 3 มิติ ด้วยการใช้แสงเลเซอร์ย่านอินฟราเรดวัดระยะทาง ณ ตำแหน่งต่างๆ ของวัตถุที่สนใจ เหมาะสำหรับการสำรวจพื้นที่ การเกษตร การวิเคราะห์โครงสร้างอาคาร หรือการสร้างแผนที่ภายนอกและภายในอาคาร เป็นต้น
สามารถลงทะเบียนร่วมงานตั้งแต่วันนี้(18 สิงหาคม 2566) เป็นต้นไป
ไม่มีค่าใช้จ่าย ได้ที่ www.nectec.or.th/ace2023
ที่มา: ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ