นายสืบพงศ์ เกตุนุติ ประธานบริษัท พีรพัฒน์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ PRAPAT หนึ่งในผู้นำตลาดเทคโนโลยีทำความสะอาดในกลุ่มอุตสาหกรรมการบริการและอาหารในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยการวิจัยและพัฒนาโซลูชั่นการทำความสะอาดที่ถูกสุขลักษณะ เปิดเผยแผนการขยายธุรกิจในต่างประเทศปี 2566 ว่า บริษัท ฯ ได้จดทะเบียนจัดตั้งบริษัทย่อยเพื่อดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ ภายใต้ชื่อ "Phu Quoc Hotel Supplies" ซึ่งเป็นบริษัทย่อยแห่งแรกในต่างประเทศ ที่ PRAPAT ถือหุ้น 100% ด้วยทุนจดทะเบียน 10 ล้านบาท หรือประมาณ 3 แสนดอลลาร์สหรัฐ ที่เกาะฟู้โกว๊ก (Phu Quoc) ประเทศเวียดนาม เพื่อให้บริการและจำหน่ายอุปกรณ์ เครื่องจักร ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและฆ่าเชื้อที่ได้มาตรฐานสากลสำหรับอุตสาหกรรมที่เกี่ยวกับงานบริการ (Hospitality) บนเกาะฟู้โกว๊ก ซึ่งเป็นเกาะที่มีขนาดใหญ่ เป็นศูนย์กลางสำคัญทางเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทางตอนใต้ของประเทศเวียดนาม ที่มีศักยภาพการเติบโตสูง
ทั้งนี้ บริษัท "Phu Quoc Hotel Supplies" มีกำหนดการจะเปิดโชว์รูมและคลังสินค้าในไตรมาสสุดท้ายปี 2566 ในช่วงแรกของการเปิดดำเนินการ จะเป็นการบูรณาการและการทำงานร่วมกัน ระหว่างทีมงานบริษัท "Phu Quoc Hotel Supplies" ทีมงานแผนกธุรกิจต่างประเทศของ PRAPAT และทีมงานตัวแทนจำหน่าย PRAPAT ณ นครโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม เพื่อความคล่องตัวในการเปลี่ยนผ่านและสร้างความเชื่อมั่นในการรักษาฐานลูกค้าเดิมที่พาร์ทเนอร์เดิมเป็นผู้ดูแล พร้อมเร่งขยายฐานลูกค้าใหม่เน้นกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ระดับ 4 ดาวขึ้นไป ตลอดจนการเจาะตลาดกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์และร้านอาหารในพื้นที่เพิ่มเติม รองรับศักยภาพการเติบโตของตลาด Cleaning Hygiene Solutions บนเกาะฟู้โกว๊กในอนาคต
ทั้งนี้ บริษัท "Phu Quoc Hotel Supplies" ตั้งเป้าหลังเปิดดำเนินการในไตรมาส 4 ปี 2566 จะมีลูกค้าจำนวน 30 ราย ซึ่งเป็นลูกค้าเก่าจากตัวแทนจำหน่ายเดิมที่ดูแล และสร้างยอดขายได้ 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนปี 2567- 2569 คาดหวังว่าจะมีลูกค้า 100 ราย 200 ราย และ 500 ราย ตามลำดับ และสร้างยอดขายได้ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ และ 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ
"บริษัท เชื่อมั่นว่า บริษัท "Phu Quoc Hotel Supplies" จะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในประเทศเวียดนาม และเป็นทิศทางที่ดีในการสร้างแบรนด์ PRAPAT ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นกว่าเดิมและเพิ่มการจดจำได้เป็นอย่างดี นับเป็นการสร้างการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอย่างยั่งยืนในอนาคต" นายสืบพงศ์ กล่าว
ที่มา: เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น
