รายงาน ฉบับแรกของวงการคริปโทฯ นี้ ประกอบด้วยสถิติเกี่ยวกับจำนวนเศรษฐี เศรษฐีร้อยล้าน และมหาเศรษฐีคริปโทฯ และบิตคอยน์ ซึ่งเป็นข้อมูลเอ็กซ์คลูซีฟจากบริษัท นิว เวิลด์ เวลท์ (New World Wealth) ผู้ให้บริการข้อมูลความมั่งคั่งระดับโลกแบบเจาะลึก นอกจากนั้นยังมีข้อมูลเชิงลึกจากนักวิชาการชั้นนำ ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม และนักลงทุนคริปโทฯ ตลอดจนดัชนีการยอมรับคริปโทฯ (Crypto Adoption Index) ของเฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส ซึ่งเปรียบเทียบโปรแกรมการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานและขอสัญชาติ (residence and citizenship by investment) ที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนคริปโทฯ
ดร. ยอร์ก สเตฟเฟน (Dr. Juerg Steffen) ซีอีโอของเฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส กล่าวว่า นักเทรด นักขุด นักลงทุน และผู้ประกอบการคริปโทฯ กำลังสำรวจแผนการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐาน (investment migration) เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของตนเอง "ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา เราได้รับคำถามเพิ่มขึ้นอย่างมากจากบรรดาเศรษฐีคริปโทฯ ที่พยายามหาทางปกป้องตนเองจากความเป็นไปได้ที่อาจถูกห้ามซื้อขายหรือใช้สกุลเงินดิจิทัลในประเทศบ้านเกิดในอนาคต รวมทั้งลดความเสี่ยงของนโยบายการคลังเชิงรุกที่เรียกเก็บภาษีจากแหล่งที่มาที่เป็นสินทรัพย์ดิจิทัล"
ราคาพุ่งทะยาน : คริปโทฯ คือ "ของแท้แน่นอน"
ในกลุ่มเศรษฐีของโลก พบว่าขณะนี้มีเศรษฐีคริปโทฯ ระดับร้อยล้าน 182 คน (กล่าวคือ บุคคลที่มีสินทรัพย์สูงและถือครองคริปโทฯ มูลค่าตั้งแต่ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐขึ้นไป) ซึ่ง 78 คนในจำนวนนี้ถือครองบิตคอยน์ ขณะที่ทั่วโลกมีเศรษฐีคริปโทฯ ระดับมหาเศรษฐีอยู่ 22 คน ซึ่ง 6 คนในจำนวนนี้ถือครองบิตคอยน์
คุณเจฟฟ์ ดี. ออปไดก์ (Jeff D. Opdyke) ผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนระดับโลก ระบุในรายงานว่า "คริปโทฯ ถือเป็นการลงทุนและเทคโนโลยีที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา และตอนนี้เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมที่จะเข้าซื้อ เนื่องจากเราไม่น่าจะได้เห็นราคาระดับนี้อีกแล้ว" ขณะที่ ดร.นิคลาส เจ.อาร์.เอ็ม. ชมิดต์ (Dr. Niklas J.R.M. Schmidt) จากสำนักงานกฎหมาย วูล์ฟ ไทซ์ (Wolf Theiss) ของออสเตรีย ได้อธิบายวิธีการเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัล ด้านรองศาสตราจารย์ ดร.เตเวโทกลู (Assoc. Prof. Dr. Teveto?lu) ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายบล็อกเชนในอิสตันบูล เตือนถึง "ผลทางกฎหมายที่ร้ายแรง" อันเนื่องมาจากการหลงคิดว่าไม่มีกฎหมายที่กำกับดูแลเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล ส่วนทางด้านคุณคาร์ลอส กอนซาเลซ กัมโป (Carlos Gonzalez Campo) นักวิเคราะห์วิจัยของทเวนตี้วันแชร์ส (21Shares) ระบุในบทวิเคราะห์ของเขาว่า "แม้การประเมินมูลค่าสินทรัพย์ดิจิทัลยังคงเป็นหัวข้อใหม่ที่ยังไม่มีฉันทามติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อประเภทสินทรัพย์ขยายตัวและเติบโตเต็มที่ แต่ก็มีวิธีการบางอย่างที่นักลงทุนสามารถใช้ได้"
ทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับนักลงทุนคริปโทฯ
ดัชนีการยอมรับคริปโทฯ (Crypto Adoption Index) ของเฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์ส ประกอบด้วยจุดข้อมูลมากกว่า 750 จุด โดยประเมินและให้คะแนนประเทศที่มีโปรแกรมการลงทุนเพื่อย้ายถิ่นฐานที่เป็นมิตรกับคริปโทฯ (crypto-friendly) โดยพิจารณาจากระดับการยอมรับและการรวมคริปโทเคอร์เรนซีและเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ากับระบบการเงินการธนาคารของประเทศ ซึ่งผลปรากฏว่า สิงคโปร์คว้าอันดับ 1 ด้วยคะแนน 50.2 จากคะแนนเต็ม 60 หรือคิดเป็น 83.76% สวิตเซอร์แลนด์ได้อันดับ 2 (78.17%) ตามมาติด ๆ กับสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (อันดับ 3 คะแนน 76.17%) ฮ่องกง (อันดับ 4 คะแนน 76%) สหรัฐอเมริกา (อันดับ 5 คะแนน 73.83%) ออสเตรเลีย (อันดับ 6 คะแนน 71.83%) และสหราชอาณาจักร (อันดับ 7 คะแนน 71.17%) ซึ่งทุกประเทศที่กล่าวมาล้วนติดอันดับต้น ๆ เมื่อพูดถึงการยอมรับคริปโทฯ ขณะที่แคนาดา (อันดับ 8 คะแนน 67.33%) มอลตา (อันดับ 9 คะแนน 64.83%) และมาเลเซีย (อันดับ 10 คะแนน 62.5%) ก็มีชื่อติด 10 อันดับแรกเช่นกัน
ตัวเลือกที่ดีที่สุดเมื่อพิจารณาจากปัจจัยด้านภาษี
ในแง่ของตัวชี้วัดด้านภาษี (tax-friendliness parameter) ซึ่งประเมินแนวทางของประเทศหนึ่ง ๆ ในการเก็บภาษีจากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับคริปโทเคอร์เรนซีนั้น สิงคโปร์และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้คะแนน 10 เต็ม 10 ขณะที่ฮ่องกง มอริเชียส และโมนาโกทำคะแนนได้อย่างน่าประทับใจที่ 9 เต็ม 10 ส่วนแอนติกาและบาร์บูดา มาเลเซีย นามิเบีย และสวิตเซอร์แลนด์ ต่างทำคะแนนสูงที่ 8 เต็ม 10
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และสิงคโปร์เป็นผู้นำอีกครั้งเมื่อพิจารณาจากการยอมรับของประชาชน (public adoption) ซึ่งวัดระดับการรับรู้ ความสนใจ และการมีส่วนร่วมกับคริปโทเคอร์เรนซีในหมู่ประชากรทั่วไป โดยทั้งสองประเทศต่างทำไปได้ 7 คะแนน จากคะแนนเต็ม 10 สำหรับตัวชี้วัดนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงการมีโครงสร้างพื้นฐานรองรับ (infrastructure adoption) ซึ่งเป็นการประเมินพื้นฐานทางเทคโนโลยีสำหรับการทำธุรกรรมและการซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโทฯ เช่น จำนวนตู้เอทีเอ็มที่รองรับคริปโทฯ การรวมคริปโทฯ เข้ากับธนาคารในประเทศ และบริการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล ปรากฏว่าทั้งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และสิงคโปร์มีอันดับร่วงลง โดยปัจจุบันสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำในเรื่องนี้ ขณะที่กรีซ ไทย ฮ่องกง และนิวซีแลนด์ ติดอันดับ 10 ประเทศที่มีโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับการพัฒนาให้สนับสนุนการใช้คริปโทฯ ได้อย่างราบรื่นมากกว่าเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ
อ่านข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับเต็ม และรายงานความมั่งคั่งด้านคริปโทฯ ของเฮนลี่ย์ แอนด์ พาร์ทเนอร์สได้ทางออนไลน์