"จริง ๆ แล้วความสุขที่ดีที่สุดเริ่มต้นที่การรู้จักตัวเอง มีวินัยกับตัวเอง และค้นพบความสุขสงบในจิตใจ ในโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เป็นเรื่องดีที่เราจะค้นหาสมดุลระหว่างความรู้และความสุขให้เจอ ผมมักจะเน้นย้ำเรื่องการให้ความรู้กับผู้คน เพราะเมื่อเราเข้าใจว่า การดำเนินชีวิตสร้างผลกระทบต่อโลกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหาร การเดินทาง และการหายใจ ล้วนปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาทั้งสิ้น อาหารเหลือทิ้งก็เป็นขยะ การซื้อเสื้อผ้าใหม่ ใช้ของเก่าอย่างไม่คุ้มค่าก็ก่อให้เกิดปัญหาได้เช่นกัน PASAYA จึงส่งเสริมการออกแบบเพื่อความยั่งยืนมาโดยตลอด ควบคู่กับ Green Factory เพื่อส่งเสริมสิ่งแวดล้อมที่ดีและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก"
ในฐานะผู้บริหารของ PASAYA ผู้นำด้านนวัตกรรมสิ่งทอเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย คุณชเลพูดถึงปรัชญาในการดำเนินธุรกิจของ PASAYA (พาซาญ่า) ที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการหมุนเวียนพลังงาน และก้าวสู่การเป็น Net Zero (การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์) ด้วยการขับเคลื่อนโครงการ 'Mission to the World 2023' ที่จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ผ่านกิจกรรมการปลูกป่าภายในโรงงาน (Green Factory) ที่จังหวัดราชบุรี
"เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2566 เราปลูกต้นไม้ในโรงงานไปแล้ว 488 ต้น และปลูกต้นไม้ภายในพิพิธภัณฑ์แม่อีก 1,500 ต้น เมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยเราตั้งเป้าหมายที่จะปลูกต้นไม้ภายในโรงงานบนพื้นที่ 100 ไร่ ภายในปี 2025 เพื่อให้ต้นไม้ช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 300 ตันต่อปี เมื่อมีต้นไม้ก็จะช่วยรักษาความหลากหลายทางระบบนิเวศน์ท้องถิ่น เรายังรณรงค์เรื่องการอนุรักษ์สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์ต่าง ๆ ด้วยการร่วมงานกับศิลปินชื่อดังของไทย อย่างล่าสุดเราได้ร่วมงานกับคุณเอ๋-วิชชุลดา และคุณนุ้ย-วรรณิสา (ถามะนาศาสตร์) ร่วมกันสร้างสรรค์ผลงานศิลปะบนผ้าทอของ PASAYA เพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของสัตว์ใกล้สูญพันธ์จากฝีมือของมนุษย์"
คืนลมหายใจสะอาดให้กลุ่มเปราะบาง และคนชายขอบที่ถูกลืม
ไม่เพียง PASAYA เท่านั้นที่ตระหนักถึงความสำคัญของสัตว์ใกล้สูญพันธุ์และสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง คุณโน้ต-วัชรบูล นักแสดงชื่อดังที่ทำงานให้กับมูลนิธิสืบนาคะเสถียรมานานกว่าสิบปีก็ตระหนักถึงปัญหานี้เช่นกัน แม้จะมีเทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาช่วยในการส่งเสริมความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีของประชากร หากแต่กลุ่มคนชายขอบและกลุ่มเปราะบางยังห่างไกลจากเทคโนโลยีอยู่มาก เพราะส่วนใหญ่ความช่วยเหลือและการสื่อสารต่าง ๆ ยังกระจุกตัวอยู่ในเมืองใหญ่
"เมื่ออัตราการเติบโตของเมืองเพิ่มขึ้น พื้นที่ป่าก็ลดลงทุกปี การเผาป่าก็ยังไม่หมดสิ้นและปัญหา PM2.5 ก็วนเวียนมาอีกครั้ง แม้จะมีเทคโนโลยีที่ช่วยรับมือกับฝุ่นควันได้ดีขึ้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมอยู่ดี ขณะที่กลุ่มเปราะบางและคนชายขอบจะเอาเงินที่ไหนซื้อเครื่องฟอกอากาศ ซึ่งปัญหาการรุกล้ำป่าที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แล้วยังส่งผลกระทบต่อความหลากหลายของระบบนิเวศทางชีวภาพอีกด้วย
"แม้ทุกวันนี้บางชุมชนจะมองเห็นความสำคัญของเรื่องนี้มากขึ้น แต่ก็ยังมีปัญหาปากท้องที่ทำให้หลายคนเลือกเส้นทางเพื่อความอยู่รอดของครอบครัวมาก่อนสิ่งแวดล้อมและสัตว์ท้องถิ่น ซึ่งจุดนี้เราต้องได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐอย่างจริงจัง เพราะบางนโยบายก็ส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม อย่างการเก็บภาษีที่ดินรกร้างทำให้สิ่งมีชีวิตและพืชท้องถิ่นเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ ตลอดหลายปีที่ผ่านมาเราจึงพยายามรณรงค์ให้คนในท้องถิ่นใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน เพื่อให้พวกเขาเข้าใจถึงความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ และให้ชาวชุมชนมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ เพราะผมอยากส่งต่อความสมบูรณ์ของผืนป่าให้กับเจเนอเรชั่นต่อไป"
นอกจากนี้ เขายังกล่าวทิ้งท้ายด้วยว่า ปัญหาการทำลายสิ่งแวดล้อมและสัตว์ป่าจะลดลงอย่างเป็นรูปธรรม หากเราเข้าใจถึงความสำคัญของระบบนิเวศ ความหลากหลายทางชีวภาพ และการพึ่งพาอาศัยกันของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลกใบนี้ ที่สำคัญต้องไม่ลืมกลุ่มเปราะบางและคนชายขอบที่รอคอยความช่วยเหลือจากเรา
เปลี่ยนตัวเองตั้งแต่วันนี้ ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป
สอดคล้องกับแนวคิดของ คุณต๊ะ-พิภู ผู้ประกาศข่าวชื่อดังของไทย ที่อยากให้การส่งเสริมเรื่องความยั่งยืนของภาครัฐและเอกชนเป็นมากกว่าการจุดพลุสวย ๆ ขึ้นฟ้าและจางหายไป หากเราไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจังตั้งแต่วันนี้ พรุ่งนี้ก็อาจจะสายเกินไปเสียแล้ว
"คำว่า 'สายเกินไป' ในที่นี้ ผมหมายถึงเราต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเองตั้งแต่วันนี้ เพื่อยืดอายุให้โลกอยู่กับเรานานที่สุด ไม่ใช่พอคิดว่าสายเกินไปก็ใช้ชีวิตแบบปล่อยปละละเลย ทุกอย่างต้องเริ่มต้นที่ mindset และบางครั้งเราอาจต้องคิดให้ลึกถึงการใช้ชีวิตอย่างมีความรับผิดชอบมากขึ้น ผู้ผลิตเองก็ต้องลุกขึ้นมาขับเคลื่อนเรื่องนี้อย่างจริงจัง จะเห็นว่าผู้ผลิตในยุโรปดำเนินธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อมมาหลายสิบปีแล้ว ขณะที่บ้านเราเพิ่งมาตื่นตัวเรื่องสิ่งแวดล้อมเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา
"อย่าลืมว่าประชาชนอย่างเราก็สามารถสร้างแรงกระเพื่อมไปยังผู้ผลิตได้เช่นกัน เพื่อให้พวกเขาตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาสิ่งแวดล้อมและลุกขึ้นมาสร้างการเปลี่ยนแปลง ด้วยการสนับสนุนธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพราะการเปลี่ยนแปลงจะเกิดขึ้นได้ ไม่ใช่แค่จากคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเท่านั้น ถ้าเราจะ change ต้องเริ่มตั้งแต่วันนี้ แล้วเดินหน้าไปด้วยกัน"
เช่นเดียวกับ คุณเอ๋-วิชชุลดา ในฐานะดีไซเนอร์และ Social Activist Artist เจ้าของผลงานศิลปะจากขยะเพื่อสร้างความตระหนักรู้ให้แก่สังคม ที่สนับสนุนให้คนตระหนักถึงการใช้สิ่งของอย่างคุ้มค่า ลดการสร้างขยะ และคืนชีวิตใหม่ให้สิ่งของในแบบ Up-cycling
"เราสามารถชะลอไม่ให้ปัญหาโลกเดือด (Global Boiling) รุนแรงกว่านี้ได้ ด้วยการบริโภคอย่างมีสติและพอเพียง อย่ามองว่าปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องไกลตัว เราอยากให้คุณใช้ของที่มีอย่างคุ้มค่า ของเก่า ๆ ที่เราไม่ได้ใช้ก็นำมาปรับเปลี่ยนเป็นของใหม่ได้ อย่างเสื้อผ้านำมาตัดเย็บเป็นกระเป๋าผ้าได้ แต่อย่าทำให้ Down-cycle เพราะมันจะสร้างขยะเพิ่มขึ้น ถ้าไม่มีไอเดียจริง ๆ ก็นำของไปบริจาค เพราะขยะของเราอาจเป็นของที่มีประโยชน์สำหรับอีกคนก็ได้ ในส่วนของแบรนด์เองก็ต้องลงมือทำอย่างจริงจัง ไม่ใช่ทำตามกระแส เพราะผู้บริโภคยุคใหม่เน้นเรื่องนี้กันมากและไม่ได้มองแค่ฉาบฉวยอีกต่อไป
"อย่างการที่เอ๋ได้ร่วมงานกับ PASAYA ทำให้เราได้สัมผัสกับนวัตกรรมที่ใช้ในการทอผ้า เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ลดการสร้างขยะ รวมถึงการหมุนเวียนพลังงานภายในโรงงาน สอดคล้องกับแนวทางในการทำงานของเราด้วยเช่นกัน คอลเล็กชั่นพิเศษที่เอ๋ร่วมกับ PASAYA จึงเป็นอีกหนึ่งประสบการณ์ดี ๆ ที่เราอยากให้คนเห็นถึงความสำคัญของสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ แล้วหันมาปรับชีวิตให้เป็นมิตรกับโลกมากขึ้น การปรับเปลี่ยนขีวิตไม่ยากอย่างที่คิด ลองเริ่มต้นจากสิ่งง่าย ๆ อย่างการคัดแยกขยะ ช้อปอย่างมีสติ เปลี่ยนวันละนิดก็จะปรับวิถีชีวิตของเราได้เอง"
การเสวนาบนเวทีจบลงด้วยเสียงปรบมือของผู้เข้าร่วมงาน หลายคนยังไปเยี่ยมชมผลงานการออกแบบของ คุณเอ๋-วิชชุลดา ปัณฑรานุวงศ์ ที่จัดแสดงภายในนิทรรศการ "Mission for the World 2023" ของ PASAYA ซึ่งจัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ผ่านกิจกรรมการปลูกป่าภายในโรงงาน (Green Factory) ที่จังหวัดราชบุรี
นอกจากนี้ PASAYA ยังประกาศข่าวดีที่หลายคนเฝ้ารอสำหรับงาน PASAYA Grand Sale 2023 ที่มาในคอนเซ็ปต์ "Give Good Fest" ร่วมกันดูแล Good Health I เอ็นจอย Good Life I ส่งต่อ Good Gifts และร่วมสร้าง Good World ไปด้วยกันได้ที่ PASAYA Flagship Store ภายในโรงงานที่จังหวัดราชบุรี ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ย. 2566 - 7 ม.ค. 2567ติดตามรายละเอียดได้ที่ >> https://www.facebook.com/PASAYA.shop
ที่มา: fyi bangkok