ตอบรับไลฟ์สไตล์คนเมืองที่มองหาประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สะดวกสบาย รับพัสดุง่ายและรวดเร็วผ่านบริการรับส่งพัสดุครบวงจรภายในตู้เดียว เพิ่มโอกาสให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์เข้าถึงลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจไปพร้อมกับตลาดอีคอมเมิร์ซที่กำลังกลับมาร้อนแรงที่สุดในไทย ณ ขณะนี้ พร้อมกันนี้ Lock Box ยังมีแผนการขยายสาขาบริการให้ครอบคลุมกว่า 1,000 จุดทั่วกรุงเทพฯ ภายในปี 2023 เพื่อตอบสนองความต้องการใช้งานที่เปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล
คุณอิทธิชัย พูลวรลักษณ์ ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ บริษัท ลอคบอกซ์ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า Lock Box เป็นผู้ให้บริการล็อคเกอร์เจ้าแรกของไทย ที่สามารถรวบรวมบริการที่หลากหลายของลูกค้ากลุ่ม E-Commerce ได้อย่างครบวงจรภายในตู้เดียว ทั้งบริการ รับ-ฝาก-ส่งพัสดุ 24 ชั่วโมง, บริการชำระ COD พัสดุหน้าตู้, บริการ Return Parcel, และบริการอื่น ๆ อีกมากมายที่กำลังจะเปิดตัวเร็ว ๆ นี้ ซึ่งแน่นอนว่าจุดแข็งบริการด้านอีคอมเมิร์ซของ Lock Box คือ ความปลอดภัย ประสิทธิภาพการขนส่งของลาซาด้า โลจิสติกส์ (Lazada Logistics) เทคโนโลยีที่สะดวกใช้งานง่าย และจุดให้บริการที่ครอบคลุม ถือเป็นโอกาสทองของธุรกิจล็อคเกอร์ ที่ Lock Box จะสามารถเข้าไปตอบโจทย์และเติมเต็มช่องว่างของตลาดอีคอมเมิร์ซร่วมกับลาซาด้า ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จึงไม่รอช้าที่จะร่วมมือกับลาซาด้าในการเปิดตัวบริการรับพัสดุด้วยตนเอง ภายใต้คอนเซปต์ "ช้อปออนไลน์ รับพัสดุง่าย 24 ชั่วโมง"
ท้ายปี 2023 นี้ เรามีแผนการขยาย พร้อมเพิ่มจุดบริการล็อคเกอร์ให้ครอบคลุมกรุงเทพฯ และปริมณฑล ให้มากกว่า 1,000 จุด พร้อมทั้งรวบรวมพาร์ทเนอร์ที่มีชื่อเสียง คุณภาพ และประสิทธิภาพสูงร่วมเป็นพันธมิตรเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่ง ความหลากหลายของบริการ และการเป็นที่ 1 ของผู้บริโภคในตลาดอีคอมเมิร์ซ อย่างแท้จริง คือ ทุกบริการต้องเน้นการต่อยอดรายได้ และชื่อเสียงของแบรนด์อย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่านี่คือการลงทุนธุรกิจนวัตกรรมใหม่แห่งอนาคต ที่กำลังตอนสนองตลาดที่มีผู้บริโภคขนาดใหญ่ และมีกำลังซื้อสูงอย่างแท้จริง ติดตามข่าวสาร ความเคลื่อนไหวได้ทาง https://www.facebook.com/LockBoxTH/ และ https://www.lockbox-th.com/
ที่มา: แบรนด์ เวลท์