"LWS" ชี้ 6X6 แนวทางการพัฒนาโครงการและบริการในคอนโดฯ เพื่อสัตว์เลี้ยง

พุธ ๑๘ ตุลาคม ๒๐๒๓ ๑๓:๐๙
"แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น" ระบุ 6 แนวทางที่ต้องมีในการพัฒนาและ 6 บริการที่ควรมีสำหรับการพัฒนาคอนโดมิเนียมเพื่อสัตว์เลี้ยง ที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องสอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้ซื้อที่เปลี่ยนไป
LWS ชี้ 6X6 แนวทางการพัฒนาโครงการและบริการในคอนโดฯ เพื่อสัตว์เลี้ยง

นายประพันธ์ศักดิ์ รักษ์ไชยวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล ดับเบิลยู เอส วิสดอม แอนด์ โซลูชั่น จำกัด (LWS) บริษัทวิจัยและพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในเครือบริษัท แอล. พี. เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) ระบุถึงแนวโน้มการพัฒนาโครงการอาคารชุดพักอาศัยหรือคอนโดมิเนียมในปัจจุบันว่า ความต้องการซื้อคอนโดมิเนียมที่สามารถเลี้ยงสัตว์เลี้ยงได้ (Pet Friendly Condominium) มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากผลการสำรวจของ "LWS" พบว่าในปี 2565 มีโครงการอาคารชุดที่พักอาศัยที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ทั้งสิ้น 5,663 ยูนิต เพิ่มขึ้น 4,394% จากจำนวน 157 ยูนิต ในปี 2561 สะท้อนให้เห็นพฤติกรรมของผู้ซื้อที่อยู่อาศัยที่เปลี่ยนแปลงไป สอดคล้องกับพฤติกรรมของคนไทยในปัจจุบันที่ให้ความสำคัญกับการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงในแบบ "pet humanization" หรือที่เรียกว่า พฤติกรรมที่เจ้าของเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงเสมือนลูก หรือเป็นสมาชิกของครอบครัว จากการคาดการณ์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า มูลค่าตลาดสัตว์เลี้ยงของไทยจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 8.4% มาอยู่ที่ 66,748 ล้านบาทในปี 2569

จากแนวโน้มดังกล่าวทำให้การพัฒนาโครงการอาคารชุดพักอาศัยที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้จึงเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ เพื่อตอบโจทย์กับความต้องการของผู้ซื้อที่เปลี่ยนแปลงไป จากผลการสำรวจของ "LWS" ระหว่างวันที่ 1-20 สิงหาคม 2566 โดยมีจำนวนผู้ตอบแบบสอบถามทั้งสิ้น 180 คน เกี่ยวกับอาคารชุดพักอาศัยที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ พบว่า ผู้ซื้อให้ความสำคัญกับรูปแบบของโครงการและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการใน 6 ประเด็นได้แก่

  1. โครงการควรมีพื้นที่เดินเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยง: ภายในโครงการควรมีพื้นที่เดินเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยง ที่เพียงพอให้สัตว์เลี้ยงที่อาศัยในโครงการสามารถเดินเล่น หรือเดินออกกำลังกายได้อย่างสะดวก พื้นที่นี้ควรเป็นพื้นที่ปลอดภัยและมีระบบรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันอันตรายจากภัยคุกคามจากภายนอก เช่น รั้วกั้นสัตว์ภายนอกเข้ามาทำร้ายสัตว์เลี้ยงภายในโครงการ
  2. ระบบระบายอากาศ : การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงอาจส่งผลให้มีกลิ่นได้ ตัวอาคารเองควรมีระบบระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพเพื่อรักษาภาพอากาศในห้องชุดพักอาศัย และห้องส่วนกลาง
  3. การจัดการของเสียที่เกิดจากสัตว์เลี้ยง : การเลี้ยงสัตว์อาจส่งผลให้มีขยะเพิ่มขึ้น โครงการควรมีระบบจัดการสิ่งของเสียที่เหมาะสม เช่น ถังขยะที่มีล็อคให้สัตว์เลี้ยงไม่สามารถเข้าถึงได้ มีรอบการจัดเก็บขยะในห้องพักขยะที่ถี่ขึ้น
  4. การใช้สารพิษในการกำจัดปลวก/แมลง : การใช้สารเคมีในโครงการควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้สร้างความเสี่ยงต่อสัตว์เลี้ยง แนะนำให้ใช้วิธีการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเมื่อต้องการความสะอาดและการดูแลสุขาภิบาลในคอนโด
  5. การควบคุมเสียง: การควบคุมเสียงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อไม่ให้สัตว์เลี้ยงทำเสียงรบกวนผู้อยู่อาศัยอื่น ๆ เช่น การติดตั้งแผ่นซับเสียงในห้องชุด / พื้นที่ส่วนกลาง เป็นต้น
  6. การศึกษาผู้อยู่อาศัย: ควรมีการสร้างความเข้าใจและการศึกษาผู้อยู่อาศัยเกี่ยวกับความสำคัญของการเลี้ยงสัตว์และกฎระเบียบเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงในอาคารชุด เพื่อให้ทุกคนสามารถร่วมมือกันในการรักษาความสงบสุขและการอยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงได้ รวมถึงการบริหารจัดการค่าส่วนกลางสำหรับโครงการที่ให้เลี้ยงสัตว์ได้ จากผลการสำรวจพบว่า 97% ของผู้ตอบแบบสอบถามยอมรับเงื่อนไข/กฎระเบียบ/ข้อบังคับ เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายสำหรับการเลี้ยงสัตว์ที่สูงกว่าโครงการที่ไม่ให้เลี้ยงสัตว์ได้

นอกจากรูปแบบ สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการและกฏกติกาในการอยู่อาศัยที่แตกต่างจากโครงการอาคารชุดทั่วไปแล้ว จากผลการสำรวจของ "LWS" พบว่า ถ้าภายในโครงการสามารถเพิ่มงานบริการที่ตอบโจทย์กับความต้องการของผู้อยู่อาศัยที่มีสัตว์เลี้ยงได้ จะทำให้โครงการดังกล่าวได้รับความสนใจมากขึ้น โดยการจัดการพื้นที่ส่วนกลางหรือพื้นที่เชิงพาณิชย์ของโครงการให้มีงานบริการที่ตอบโจทย์กับผู้ซื้อที่มีสัตว์เลี้ยง จากผลการสำรวจพบว่ามี 6 งานบริการที่น่าสนใจและเป็นที่ต้องการของผู้ซื้ออาคารชุดพักอาศัยที่เข้ามาพักอาศัยพร้อมกับสัตว์เลี้ยงได้แก่

  1. บริการฝากดูแล / พาสัตว์เลี้ยงเดินเล่น : จากการสำรวจของ LWS พบว่า 16% ของผู้ตอบแบบสอบถามให้ความสนใจที่จะได้รับบริการฝากดูแล/พาสัตว์เลี้ยงเดินเล่น เนื่องจากเจ้าของสัตว์เลี้ยงต้องไปทำงานข้างนอก หรือไปธุระที่ไม่สามารถพาสัตว์เลี้ยงไปด้วยได้ และกว่า 30% ของผู้ตอบแบบสอบถามมีความต้องการพื้นที่สวนสำหรับสัตว์เลี้ยงในโครงการ เพื่อให้สัตว์เลี้ยงได้เดินเล่น และออกกำลังกาย ลดความเครียดจากการอยู่แต่ในห้อง
  2. บริการทำความสะอาดห้องชุดที่มีสัตว์เลี้ยง : เป็นบริการที่จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องมีให้บริการในคอนโดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ โดยอาจมีการให้บริการทำความสะอาดห้อง / ทำความสะอาดอุปกรณ์ เช่น กระบะทรายแมว ซักเบาะรองนอน ฆ่าเชื้อภายในห้องชุด เป็นต้น
  3. บริการออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์สำหรับสัตว์เลี้ยงในห้องชุด : จากผลการสำรวจของ LWS พบว่า 52% จากผู้ตอบแบบสอบถามเลี้ยงแมว ซึ่งเป็นสัดส่วนมากที่สุด รองลงมาคือสุนัขที่ 29% ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบเฟอร์นิเจอร์ หรืออุปกรณ์ต่างๆ จะออกแบบเฉพาะสัตว์เลี้ยงโดยตรง เช่น ชั้นสำหรับปีน เสาสำหรับฝนเล็บ ตาข่าย/กระจกกันสัตว์เลี้ยงจากตกระเบียง จะเป็นธุรกิจซึ่งมีโอกาสเติบโตไปพร้อมกันกับคอนโดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้เช่นเดียวกัน
  4. ร้านขายอาหารสัตว์และอุปกรณ์สัตว์เลี้ยง : เนื่องจากอาหารสัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งที่ต้องใช้ทุกวัน และผู้ตอบแบบสอบถามต้องการความสะดวกสบาย ไม่ต้องออกไปซื้อทุกครั้งเมื่ออาหารหมดลง ถ้าภายในโครงการมีร้านขายอาหารสัตว์และอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงจะสามารถตอบโจทย์กับความต้องการของผู้ซื้อได้มากยิ่งขึ้น
  5. บริการสปา / อาบน้ำ / แต่งขนสัตว์เลี้ยง : สัตว์เลี้ยงก็ควรได้รับการผ่อนคลายและการดูแล บ่อยครั้งการอาบน้ำสัตว์เลี้ยงเองเป็นเรื่องที่ยากของเจ้าของ บริการสปา / อาบน้ำ / แต่งขนสัตว์เลี้ยง จะเป็นหนึ่งในบริการที่ทำให้ผู้พักอาศัยเองได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งผู้พัฒนาโครงการเองก็ได้ประโยชน์จากบริการนี้เช่นเดียวกัน เช่น ลดกลิ่น ลดการเกิดโรคติดต่อในสัตว์เลี้ยง
  6. บริการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพสัตว์เลี้ยง : คอนโดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ควรมีบริการที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพของสัตว์เลี้ยง เช่น คลีนิคสัตว์ หรือโรงพยาบาลสัตว์ขนาดเล็กในพื้นที่ เนื่องจากบ่อยครั้งที่สถานที่รักษาสัตว์ภายนอกโครงการเปิดให้บริการไม่เป็นเวลา หากเกิดเหตุฉุกเฉินก็อาจจะทำให้สัตว์เลี้ยงอาจไม่ได้รับบริการที่ทันท่วงที หรือหากภายในโครงการไม่มีคลีนิคสัตว์เลี้ยงอยู่ภายในโครงการ ก็สามารถติดต่อเพื่อสร้างเครือข่ายกับโรงพยาบาลสัตว์ / คลีนิคใกล้เคียงในพื้นที่ได้เช่นเดียวกัน หรือผู้พัฒนาโครงการอาจจัดบริการเสริมเช่น บริการรถรับ-ส่งพาสัตว์เลี้ยงไปหาหมอ/คลีนิค เป็นต้น

"พฤติกรรมของผู้ซื้อที่เปลี่ยนไป ทำให้ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์จำเป็นต้องปรับตัวพัฒนาโครงการที่ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าเฉพาะกลุ่มมากขึ้น อาคารชุดที่สามารถเลี้ยงสัตว์ได้ เป็นหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ที่จะพัฒนาโครงการเพื่อตอบโจทย์กับความต้องการของผู้ซื้อ" นายประพันธ์ศักดิ์ กล่าว

ที่มา: แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์

LWS ชี้ 6X6 แนวทางการพัฒนาโครงการและบริการในคอนโดฯ เพื่อสัตว์เลี้ยง

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๗ เม.ย. อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud