"การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายธุรกิจตามนโยบายและแผนงานที่วางไว้ในระยะยาว พร้อมสร้างการเติบโตด้วยความพร้อมของฐานเงินทุน เพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโตในอนาคต และเปิดโอกาสให้นักลงทุนได้มีส่วนร่วมในการลงทุนกับ TRP" ผู้ช่วยศาตราจารย์ นายแพทย์ชลธิศ กล่าว
ขณะที่ นายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 24 ตุลาคม 2566 TRP จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง สามารถสร้างโอกาสในการเติบโตในระยะยาวและสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุนอย่างต่อเนื่อง ในฐานะผู้นำด้านศัลยกรรมความงามบนใบหน้า และกำลังก้าวเข้าสู่การเป็นโรงพยาบาลศัลยกรรมความงามบนใบหน้าแบบครบวงจรแห่งแรกในประเทศไทย พร้อมมองว่า การดำเนินธุรกิจในช่วงที่เหลือของปี 2566 TRP มีแนวโน้มเติบโตที่ดี สะท้อนภาพการเป็นหุ้น Growth Stock และ Dividend Stock สอดรับกับการฟื้นตัวในภาพรวมของเศรษฐกิจและการลงทุนภายในประเทศขณะนี้
ทั้งนี้ ภายหลังเข้าตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ไปแล้ว ขอให้นักลงทุนมั่นใจในเสถียรภาพ กลยุทธ์การลงทุนและการบริหารงานของ TRP โดยกลุ่มผู้บริหารของบริษัท และบริษัท สานฝันโฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ พร้อมให้คำมั่นว่าจะไม่มีการขายหุ้นออกมาในตลาดหลัง IPO เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน
ด้าน นายกิตติพันธ์ ภูษณวรรณ กรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก ในฐานะผู้จัดการการจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า หลังจากเปิดขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 90 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 14 บาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาทเมื่อวันที่ 10-12 ตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหุ้นครบทั้งหมด สะท้อนปัจจัยพื้นฐานที่มีความแข็งแกร่งของบริษัท และมองเห็นศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ TRP มีกำหนดเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในหมวดธุรกิจบริการ (Service) วันที่ 24 ตุลาคม 2566 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ ว่า "TRP"
ที่มา: เดอะเวย์ คอมมิวนิเคชั่น