สำหรับภาพรวมในสัปดาห์นี้ กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี มองว่า นักลงทุนจะให้ความสนใจกับข้อมูลจีดีพีไตรมาส 3 และราคาค่าใช้จ่ายบริโภคส่วนบุคคล (เงินเฟ้อ PCE) เดือนก.ย.ของสหรัฐฯ หลังประธานเฟดส่งสัญญาณระมัดระวังมากขึ้นขณะที่บอนด์ยิลด์ระยะ 10 ปีทะยานขึ้นกว่า 50bps นับตั้งแต่การประชุม FOMC เมื่อเดือนก.ย.ทางด้านตลาดสัญญาล่วงหน้าคาดว่ามีโอกาสราว 98% ที่เฟดจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย. และมีความน่าจะเป็น 25% ที่เฟดจะปรับขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค. นอกจากนี้ ตลาดยังคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.00% ในการประชุมวันที่ 26 ต.ค. โดยจุดสนใจหลักจะอยู่ที่การประเมินว่าอีซีบีให้ความสำคัญกับภาวะทางการเงินในการตัดสินใจกำหนดนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการลดขนาดงบดุลของอีซีบีมากน้อยเพียงใดหลังบอนด์ยิลด์ระยะยาวของยูโรโซนพุ่งขึ้นในช่วงนี้เช่นกัน
สำหรับประเด็นในประเทศ กระทรวงพาณิชย์แถลงตัวเลขการค้าเดือนก.ย.ส่งออกขยายตัวผิดคาด ส่วนทิศทางกระแสเงินทุนเคลื่อนย้ายยังคงขึ้นอยู่กับภาวะตลาดพันธบัตรสหรัฐฯรวมถึงความชัดเจนเกี่ยวกับโครงการ Digital Wallet เป็นสำคัญ โดยเราคาดว่าเงินบาทอาจแกว่งตัวผันผวนในกรอบที่กว้างขึ้นเมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า
ที่มา: ธนาคารกรุงศรีอยุธยา