ดีพร้อม เปิดผลสำเร็จสตาร์ทอัพคอนเน็คปี 4 สร้างเครือข่าย เชื่อมทุน สร้างมูลค่าได้กว่า 200 ล้านบาท พร้อมโชว์ 7 โปรเจค "BCG Economy" อวดอินโนเวชั่น ดันการเติบโตแบบยั่งยืน

อังคาร ๒๔ ตุลาคม ๒๐๒๓ ๑๖:๐๔
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม เปิดผลสำเร็จโครงการ DIPROM Startup Connect ปี 4 สร้างโอกาสการเติบโตของสตาร์ทอัพไทยผ่าน "โมเดลเศรษฐกิจ BCG" พร้อมกิจกรรม Pitching Day นำเสนอโมเดลธุรกิจนวัตกรรม หรืออินโนเวชั่นจากกลุ่มสตาร์ทอัพ 7 บริษัท เพื่อเชื่อมโอกาสขยายตลาดและรับการสนับสนุนจากบริษัทลงทุน โดยคาดว่าจะเกิดมูลค่าการลงทุนไม่น้อยกว่า 70 ล้านบาท และตลอดโครงการ DIPROM Startup Connect ปี 4 สามารถกระตุ้นมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 200 ล้านบาท
ดีพร้อม เปิดผลสำเร็จสตาร์ทอัพคอนเน็คปี 4 สร้างเครือข่าย เชื่อมทุน สร้างมูลค่าได้กว่า 200 ล้านบาท พร้อมโชว์ 7 โปรเจค BCG Economy อวดอินโนเวชั่น ดันการเติบโตแบบยั่งยืน

นายใบน้อย สุวรรณชาตรี อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า วิสาหกิจเริ่มต้น หรือ สตาร์ทอัพ (Startup) ถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มธุรกิจที่เป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญของเศรษฐกิจฐานนวัตกรรม และกำลังได้รับความสนใจอย่างมาก อย่างไรก็ตาม การเกิดขึ้นและการเติบโตของสตาร์ทอัพไทยยังอยู่ในช่วงระยะเริ่มต้นและไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเกิดความสำเร็จในทุกราย เนื่องด้วยยังขาดอีกหลายปัจจัยที่จะทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะปัจจัยที่สำคัญเรื่อง "เงินทุนและการลงทุน" จากกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ เนื่องด้วยความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ

รวมถึงความน่าสนใจของผลิตภัณฑ์และบริการที่มีความคุ้มค่าต่อการลงทุน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความท้าทายของธุรกิจสตาร์ทอัพที่ต้องแก้ไขและผลักดันให้เกิดขึ้นอย่างเร่งด่วนที่สุด โดยที่ผ่านมา กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม หรือดีพร้อม ได้เดินหน้าส่งเสริมและสนับสนุนกลุ่มสตาร์ทอัพให้เติบโตด้วยกระบวนการทางธุรกิจที่เข้มข้นภายใต้นโยบาย "ดีพร้อมโต โตได้ โตไว โตไกล โตให้ยั่งยืน" ซึ่งหนึ่งในนั้น คือ โตได้ (Start) ที่เน้นการส่งเสริมและพัฒนาให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ดึงจุดเด่นด้านศักยภาพการใช้เทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์จนเกิดเป็นนวัตกรรมที่มีมูลค่ามาต่อยอดพัฒนาศักยภาพให้สูงขึ้นและเติบโตไปได้ ผ่านโครงการ DIPROM Startup Connect มาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ภายใต้แนวคิด "โมเดลเศรษฐกิจ BCG"

โดยดีพร้อมได้เชื่อมโยงผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ให้เข้าสู่วงการธุรกิจสตาร์ทอัพ นับเป็นโอกาสที่ดีของสตาร์ทอัพไทยที่จะสามารถนำไอเดียมาต่อยอดสู่การประกอบธุรกิจและเชื่อมโยงไปยังแหล่งเงินทุน นอกจากนี้ ยังได้ร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตรเร่งผลักดัน "BCG Tech Startup" หรือสตาร์ทอัพในการนำเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ในการพัฒนาธุรกิจควบคู่กับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม มีกระบวนการผ่านการวิจัยและทดลองอย่างต่อเนื่อง รวมถึงสามารถแก้ปัญหาในเชิงลึกและตรงจุดมากกว่าการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมที่มีอยู่ทั่วไป ซึ่งได้แบ่งกลุ่มเทคโนโลยีที่สามารถพัฒนาและผลักดันสู่กลุ่ม BCG Economy จำนวน 7 สาขา ได้แก่ 1.การเกษตร 2.อาหาร 3.วัสดุชีวภาพ 4.เทคโนโลยีชีวภาพ 5.การแพทย์ 6.นวัตกรรมการลดใช้พลังงานและสร้างพลังงานทดแทน และ 7. เทคโนโลยีเชิงลึกเพื่อความยั่งยืน

นายใบน้อย กล่าวต่อว่า สำหรับโครงการ Startup Connect ปี 4 นี้ ประกอบด้วย 3 กิจกรรม คือ 1. กิจกรรมการสร้างนวัตกรรมร่วม (Co-creation) โดยเปิดช่องทางให้สตาร์ทอัพได้มีโอกาสทำงานร่วมกับพันธมิตรเอกชนรายใหญ่ในการทดลองใช้นวัตกรรม หรือโซลูชั่นในตลาดจริง (Proof of Concept: POC) ถือเป็นมิติใหม่ของการสนับสนุนสตาร์ทอัพที่ให้พันธมิตรเอกชน หรือลูกค้ารายใหญ่เข้ามามีส่วนร่วมสร้างและพัฒนาสินค้าหรือบริการของสตาร์ทอัพให้เกิดเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์มากขึ้น ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสในการขยายตลาดและสร้างหุ้นส่วนทางธุรกิจ (Partnership) ร่วมกันต่อไป 2. กิจกรรมการเชื่อมโยงธุรกิจเพื่อส่งเสริมการตลาด ด้วยการจัดกิจกรรมจับคู่/เจรจาธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้มีเทคโนโลยีและผู้ต้องการใช้เทคโนโลยี และ 3. กิจกรรมการเข้าถึงแหล่งทุน โดยดีพร้อมกำลังดำเนินการจัดกิจกรรมให้สตาร์ทอัพที่เข้าร่วมโครงการฯ นำเสนอโมเดลธุรกิจต่อแหล่งสนับสนุนเงินทุน อาทิ นักลงทุนบุคคล (Angel investor) กิจการเงินร่วมลงทุน (Venture capital: VC) บริษัทจดทะเบียนและผู้ประกอบธุรกิจเงินร่วมลงทุน (Corporate venture capital: CVC) เพื่อให้สตาร์ทอัพในกลุ่มเทคโนโลยีเชิงลึกด้าน BCG Economy ที่อยู่ในระยะเติบโตมีโอกาสขยายตลาดและได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุน (VC) และบริษัทร่วมลงทุน (CVC) เพิ่มขึ้น

โดยมีผู้ผ่านการคัดเลือกให้เข้าร่วมการนำเสนอโมเดลธุรกิจนวัตกรรมหรืออินโนเวชั่นต่อแหล่งทุน จำนวน 7 บริษัท ได้แก่ 1. บริษัท ไทย ทิชชูคัลเจอร์อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้พัฒนาเทคโนโลยีด้านการเพาะเนื้อเยื้อต้นพันธุ์พืชเศรษฐกิจ 2. บริษัท เวคิน (ประเทศไทย) จำกัด ผู้พัฒนาเทคโนโลยีการจัดการพลังงานด้วยแพลตฟอร์มการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ DEMP ที่เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่แบบเรียลไทม์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในภาคอุตสาหกรรม 3. บริษัท เคมีวิเคราะห์ จำกัด ผู้พัฒนาเทคโนโลยีตรวจวัดค่าสารโลหะหนักเจือปนในน้ำโดยใช้ปริมาณตัวอย่างเพียงเล็กน้อยด้วยเซ็นเซอร์ที่มีความแม่นยำ 4. บริษัท สุขุมนุ่มลึก จำกัด ผู้พัฒนาเทคโนโลยีด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ โดยการใช้นวัตกรรมด้าน Probiotics ผสมผสานกับภูมิปัญญาพื้นถิ่นไทยด้านการหมัก ให้เป็น "Probiotics ชนิดน้ำ" และพัฒนาเป็นสินค้า ผลิตภัณฑ์ ที่ช่วยเสริมสร้างสมดุลภูมิคุ้มกันและเสริมสร้างสุขภาพจิตใจที่ดีในกลุ่มอาหาร เครื่องสำอางสำหรับคนและสัตว์ 5. บริษัท แนบโซลูท จำกัด ผู้พัฒนาเทคโนโลยี Hy-N Technology หรือนวัตกรรมระบบนำส่งสารสำคัญ สำหรับเครื่องสำอาง อาหารเสริม ยา และวัคซีนที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และลดผลข้างเคียงของผลิตภัณฑ์สุขภาพ 6. บริษัท เจ็นโฟสิส จำกัด ผู้พัฒนาเทคโนโลยีด้านการตรวจ DNA ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยหลักชีวสารสนเทศที่สามารถรายงานผลที่หลากหลายและสามารถออกแบบดูแลสุขภาพเฉพาะบุคคลได้ และ 7. บริษัท วัน เท็น พลัส จำกัด ผู้พัฒนาเทคโนโลยีด้านแพลตฟอร์มตรวจวิเคราะห์ชีพจรเครื่องจักร เพื่อติดตามและเฝ้าระวังการใช้พลังงาน และนำไปสู่การลดก๊าซที่ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจกได้

ทั้งนี้ จากการนำเสนอโมเดลธุรกิจนวัตกรรมร่วม หรืออินโนเวชั่น จากทั้ง 7 บริษัทในครั้งนี้ ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่สตาร์ทอัพไทยจะได้มีโอกาสพัฒนาธุรกิจควบคู่ไปกับแผนพัฒนาประเทศ และได้เรียนรู้แนวคิดที่มีความเป็นสากลร่วมกับธุรกิจชั้นนำ อีกทั้ง ยังเชื่อมั่นว่าในอนาคตการเกิดขึ้นและการเติบโตของสตาร์ทอัพจากโครงการนี้จะเป็นผลดีในเชิงเศรษฐกิจของประเทศไทยในอนาคต โดยคาดว่าจะสามารถสร้างมูลค่าการลงทุนได้ไม่ต่ำกว่า 70 ล้านบาท และตลอดการดำเนินโครงการ Startup Connect ปี 4 นี้ จะทำให้เกิดการเชื่อมโยงทางการค้าและแหล่งเงินทุน และสามารถที่จะกระตุ้นมูลค่าทางเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นกว่า 200 ล้านบาท นายใบน้อย กล่าวทิ้งท้า

ที่มา: กระทรวงอุตสาหกรรม

ดีพร้อม เปิดผลสำเร็จสตาร์ทอัพคอนเน็คปี 4 สร้างเครือข่าย เชื่อมทุน สร้างมูลค่าได้กว่า 200 ล้านบาท พร้อมโชว์ 7 โปรเจค BCG Economy อวดอินโนเวชั่น ดันการเติบโตแบบยั่งยืน

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๔:๐๓ DEXON จัดงานประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2567 ผถห.อนุมัติจ่ายปันผล 0.052 บาทต่อหุ้น
๑๔:๑๕ SVT จ่ายปันผล 0.035 บ./หุ้น นักลงทุนรับทรัพย์ 20 พ.ค.67 ปักหมุด เพิ่มตู้ Vending Machine หนุนการเติบโตตามเป้า
๑๔:๔๗ กรุงศรี ออโต้ ให้แนวทางเลือกรถมือสองอย่างชาญฉลาด ต้อง ประวัติดี-ซ่อมง่าย-จ่ายไหว
๑๔:๑๘ ปีทอง TEKA คว้าบิ๊กโปรเจกต์ มูลค่า 728 ล้านบาท ดัน Backlog ทะยานสู่ 4,300 ล้านบาท
๑๔:๓๗ กลุ่มเซ็นทรัล ผสานภาครัฐ ขานรับโครงการ พาณิชย์สั่งลุย Back to School 2024 ช่วยค่าครองชีพรับเปิดเทอม
๑๓:๒๗ เริ่มต้นปิดเทอมนี้ด้วยการผจญภัยไปกับ Howling Gibbon ซัมเมอร์แคมป์เอาใจสายแอดเวนเจอร์ Howling Gibbon เปิดรับสมัครน้อง ๆ โรงเรียนนานาชาติ เข้าร่วมการผจญภัยกลางแจ้งกับกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วง 31 มิถุนายน -
๑๒:๒๐ ธอส. สานต่อนโยบายรัฐบาล ช่วยคนไทยมีที่อยู่อาศัยเพิ่มมากขึ้น จัดทำสินเชื่อ Mild Home อัตราดอกเบี้ยปีแรกเพียง 1.90% ต่อปี ผ่อนเริ่มต้นเพียง 2,500
๑๒:๔๘ เคทีซีเผยยอดใช้จ่ายไอเทมคลายร้อนที่ KTC U SHOP พุ่งกว่า 120% เปิดช่องทางช้อปใหม่ผ่านแอป KTC Moblie สะดวก ปลอดภัย
๑๒:๓๗ ORN เคาะจ่ายปันผลเพิ่ม 0.05 บาท/หุ้น เตรียมออกหุ้นกู้ ไม่เกิน 500 ล้านบาท
๑๒:๔๒ LOXLEY ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นปี 2567 ชูวิสัยทัศน์เติบโตอย่างเชี่ยวชาญ มั่นคงและยั่งยืน