โซน "ศาลาปักกิ่ง" ถูกตกแต่งภายใต้แนวคิด "มนต์เสน่ห์ปักกิ่ง ฉางผิงที่ทุกคนเข้าถึงได้" โดยเน้นสีแดงของกำแพงเมือง และประดับด้วยลวดลายทางสถาปัตยกรรมที่เป็นตัวแทนแห่งหอสักการะแห่งสวรรค์ สื่อถืง "กลิ่นอายแห่งปักกิ่ง" ที่แท้จริง และเนื่องจากเป็นหนึ่งในสถานที่ควรค่าแก่การเยี่ยมชมมากที่สุดในมหกรรมครั้งนี้ พื้นที่จัดแสดงของฉางผิงจึงแต่งแต้มด้วยสีเหลืองแปะก๊วย เสริมด้วยองค์ประกอบของกำแพงเมืองจีนจูหยงกวน บรรยายภาพกรุงปักกิ่งในฤดูใบไม้ร่วงสีทองอันน่ารื่นรมย์
ในระหว่างงาน ปักกิ่งได้เน้นย้ำถึงผลจากการเปิดกว้างและการพัฒนา รวมถึงลักษณะทางอุตสาหกรรมของเขตฉางผิง ซึ่งประกอบด้วยเมืองวิทยาศาสตร์แห่งอนาคต ศูนย์กลางยุทธศาสตร์ "สามเมืองและหนึ่งเขต" ของปักกิ่ง ตลอดจนพื้นที่อุตสาหกรรมที่สำคัญ เช่น อุทยานชีววิทยาศาสตร์จงกวนชุน เขตสาธิตนวัตกรรมอิสระแห่งชาติจงกวนชุน สวนสาธารณะฉางผิง และเขตการค้าเสรีวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีน (ปักกิ่ง) ประจำฉางผิง เป็นต้น
ในด้านสุขภาพและการแพทย์นั้น เขตฉางผิงมีอุทยานชีววิทยาศาสตร์เป็นแกนหลัก ทำให้มีสถาบันวิจัยและพัฒนาระดับสูงจำนวนมาก เช่น สถาบันชีววิทยาศาสตร์แห่งชาติประจำปักกิ่ง สถาบันวิจัยด้านสมองแห่งชาติประจำปักกิ่ง ศูนย์วิทยาศาสตร์โปรตีนแห่งชาติ (ปักกิ่ง) ฯลฯ ส่วนในด้านเศรษฐกิจดิจิทัล เขตฉางผิงเป็นผู้นำในการดำเนินงานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศใหม่และสาขาที่เกี่ยวข้อง นำไปสู่การพัฒนาแบบกลุ่มด้านดิจิทัลในอุตสาหกรรมระดับไฮเอนด์ที่เริ่มเห็นเป็นรูปธรรม เขตฉางผิงจึงกลายเป็นสถานที่ดึงดูดเงินทุนจากต่างประเทศมากขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่อุตสาหกรรมต่าง ๆ เริ่มก่อตัวมากขึ้น
"นักลงทุนต่างชาติส่วนใหญ่พิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น ระดับเศรษฐกิจ ระบบนิเวศอุตสาหกรรม และเงื่อนไขการสนับสนุนระหว่างประเทศเพื่อตัดสินใจเลือกสถานที่ลงทุน และเขตฉางผิงเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางการลงทุนที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากมีอัตราการเติบโตสูงสุด อันเป็นผลมาจากการเติบโตด้านเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง อุตสาหกรรมที่มั่นคง และชุมชนระหว่างประเทศที่มีความหลากหลายและครอบคลุม" คุณหลิว เฉียง (Liu Qiang) รองหัวหน้ารัฐบาลเขตฉางผิง กล่าวในการให้สัมภาษณ์ "ในแง่ของเศรษฐกิจนั้น ระหว่างปี 2561 ถึง 2565 เขตฉางผิงมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีอัตราการเติบโตต่อปีที่ 8.9% ส่วนในด้านอุตสาหกรรม เมืองวิทยาศาสตร์แห่งอนาคตซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มหลักของยุทธศาสตร์ "สามเมืองและหนึ่งเขต" ของปักกิ่งในการสร้างเมืองให้เป็นศูนย์กลางนานาชาติด้านนวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประกอบด้วยพื้นที่นวัตกรรมขนาด 170 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมหุบเขาแห่งชีวิต หุบเขาแห่งพลังงาน และสวนการศึกษาระดับสูงซ่าเหอ ซึ่งเป็นที่ตั้งของสถาบันวิจัยและพัฒนาระดับสูง รวมถึงห้องปฏิบัติการชีววิทยาศาสตร์ระดับชาติแห่งแรกของจีน ตลอดจนผู้นำในอุตสาหกรรม เช่น เป่ยยีน (BeiGene) และเสี่ยวมี่ (Xiaomi) ฯลฯ บ่มเพาะความสำเร็จระดับโลกจำนวนมากและทำหน้าที่เป็นกลไกสำคัญของอุตสาหกรรมปักกิ่งและทั้งประเทศ ในแง่ของสิ่งแวดล้อม เขตฉางผิงยังคงปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกในการดำรงชีวิตที่เกี่ยวข้องกับการดูแลสุขภาพ การศึกษา การบริโภค นิเวศวิทยา และวัฒนธรรม และได้สร้างสภาพแวดล้อมที่เปิดกว้างในเชิงบวกสำหรับการพัฒนาธุรกิจ"
ภายในงาน บริษัท 10 แห่งจากเขตฉางผิงได้ร่วมจัดแสดงผลิตภัณฑ์เด่นของตนรวมกว่า 40 รายการที่เกี่ยวข้องกับ IoT เทคโนโลยีวีอาร์ เทคโนโลยีไซโตเจเนติกส์ อุปกรณ์ทางการแพทย์ใหม่ ๆ ทักษะทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ และการแพทย์แผนจีน ฯลฯ พร้อมทั้งสื่อสารไปยังบริษัททั้งในและต่างประเทศเพื่อสร้างความร่วมมือทางธุรกิจในระบบนิเวศที่มีสีสัน
นับตั้งแต่ที่มาเก๊าหวนกลับสู่มาตุภูมิ ความร่วมมือระหว่างปักกิ่งกับมาเก๊าได้ดำเนินมาอย่างต่อเนื่อง โดยมหกรรมนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นการสื่อสารและความร่วมมือระหว่างทั้งสอง ปักกิ่งเข้าร่วมในมหกรรมนี้ทุกปีตั้งแต่ปี 2553 และเขตฉางผิงในฐานะไฮไลต์แห่งศาลาปักกิ่ง จะเดินหน้าพัฒนากลไกความร่วมมือ สร้างความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกันรอบด้านระหว่างเขตฉางผิงและมาเก๊า สนับสนุนการเปิดกรุงปักกิ่งในระดับสูง และส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพสูงในยุคใหม่ต่อไป
ที่มา: ศูนย์สื่อบูรณาการเขตฉางผิง
ลิงก์ภาพประกอบข่าว:
ลิงก์: https://iop.asianetnews.net/view-attachment?attach-id=442801
คำบรรยายภาพ: พื้นที่จัดแสดง "มนต์เสน่ห์ปักกิ่ง ฉางผิงที่ทุกคนเข้าถึงได้" ณ มหกรรมการค้าและการลงทุนนานาชาติมาเก๊า
ลิงก์: https://iop.asianetnews.net/view-attachment?attach-id=442806
คำบรรยายภาพ: ผู้เข้าชมร่วมกิจกรรมสัมผัสประสบการณ์ด้านวัฒนธรรมภายในงาน
