ข้อตกลงดังกล่าวครอบคลุมศูนย์รวบรวมไบโอเมตริกของออสเตรเลีย (ABCC) 165 แห่งทั่วโลก รวมถึงแห่งใหม่ ๆ นอกเหนือจากแห่งเดิมที่มีอยู่ซึ่งดำเนินการโดยวีเอฟเอส โกลบอล โดยภูมิภาคในข้อตกลงประกอบด้วยทวีปอเมริกา, ลุ่มน้ำโขง, ตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ, เอเชียเหนือ, แปซิฟิก, เอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามข้อตกลงนี้ บริการหลักของวีเอฟเอส โกลบอล จะประกอบด้วยการรวบรวมไบโอเมตริกและการยืนยันตัวตน ความช่วยเหลือทางดิจิทัลในการส่งใบสมัครวีซ่าออนไลน์ และความช่วยเหลือในการชำระเงินออนไลน์บนพอร์ทัลอิมมิแอคเคาต์ (ImmiAccount) ของกระทรวงฯ
นอกจากนี้บริษัทยังจะให้บริการเพิ่มเติม (ตามความจำเป็น) เช่น การจัดการสัมภาษณ์ทางไกล, การตรวจสอบเอกสารและการเคลม, การแปลงเอกสารกระดาษเป็นเอกสารดิจิทัล และการระบุที่อยู่ในท้องถิ่นและการจัดส่งเอกสาร โดยการดำเนินการจะแบ่งเป็น 2 ระยะกว้าง ๆ โดยจะมีศูนย์ 59 แห่งที่จะเปิดดำเนินการภายในวันที่ 1 มกราคม 2567 ส่วนที่เหลือจะตามมาในระยะที่ 2 ตามคำสั่งของกระทรวงฯ
"ตลอดหลายปีที่ผ่านมา กระทรวงฯ และวีเอฟเอส โกลบอล ต่างทำงานร่วมกันสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยวีเอฟเอส โกลบอล ยังคงแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในการปรับตัวตามความต้องการของกระทรวงฯ ที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา เราหวังว่าความร่วมมือนี้จะเติบโตอย่างต่อเนื่องและได้ดำเนินโครงการรวบรวมไบโอเมตริกภายใต้ข้อตกลงใหม่" แอนโทนี ฟิลลิปส์ (Anthony Phillips) ผู้อำนวยการฝ่ายบริการและสนับสนุนบุคคล กระทรวงมหาดไทยออสเตรเลีย กล่าว
"การได้เซ็นสัญญาครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งข้อพิสูจน์ถึงความเป็นเลิศทางธุรกิจของเราและความเป็นพันธมิตรที่ได้รับความไว้วางใจจากกระทรวงมหาดไทยออสเตรเลีย เราทำงานร่วมกับกระทรวงฯ มาตั้งแต่ปี 2547 และจะยกระดับประสบการณ์ของนักเดินทางทั่วโลกที่เดินทางไปออสเตรเลีย" คุณจิเตน วียาส (Jiten Vyas) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของวีเอฟเอส โกลบอล กล่าว
ข้อตกลงดังกล่าวยังถือเป็นการเปิดศูนย์รวบรวมไบโอเมตริกของออสเตรเลีย (ABCC) โดยวีเอฟเอส โกลบอล เป็นครั้งแรกในภูมิภาคอเมริกาอีกด้วย
ไม่นานมานี้ วีเอฟเอส โกลบอล เพิ่งต่อสัญญาวีซ่าทั่วโลกกับประเทศสวีเดน ซึ่งภายใต้ส่วนหนึ่งของสัญญานี้ ก็ทำให้คนในอินเดียสามารถยื่นขอวีซ่าสวีเดนได้ที่ศูนย์รับคำร้องขอวีซ่า (VAC) ของวีเอฟเอส โกลบอล 8 แห่งในอินเดีย ได้แก่ อะห์มดาบาด, เบงคลูรู, เจนไน, ไฮเดอราบาด, โกลกาตา, มุมไบ, นิวเดลี และปุเณ ความสำเร็จทั้งสองประการนี้ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการให้บริการโซลูชันวีซ่าที่ดีที่สุดและยกระดับประสบการณ์ของผู้บริโภค ท่ามกลางการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง
เกี่ยวกับวีเอฟเอส โกลบอล
วีเอฟเอส โกลบอล เป็นผู้นำระดับโลกด้านบริการเอาต์ซอร์สและบริการเทคโนโลยีสำหรับรัฐบาลและคณะผู้แทนทางการทูตทั่วโลก วีเอฟเอส โกลบอล เป็นพันธมิตรที่ได้รับความไว้วางใจจากรัฐบาลที่เป็นลูกค้า 70 แห่ง โดยมีเครือข่ายศูนย์รับคำร้องทั่วโลกรวมแล้วมากกว่า 3,300 แห่ง ใน 147 ประเทศ บริษัทดำเนินการตามคำร้องมากกว่า 268 ล้านรายการนับตั้งแต่เริ่มกิจการเมื่อปี 2544 โดยช่วยจัดการงานต่าง ๆ ในเชิงธุรการและส่วนที่ไม่มีการใช้ดุลยพินิจแก่รัฐบาลที่เป็นลูกค้า อาทิ คำร้องวีซ่า หนังสือเดินทาง และบริการกงสุล เพื่อให้รัฐบาลแต่ละแห่งสามารถใช้เวลาทั้งหมดไปกับหน้าที่การประเมินอันมีความสำคัญ ทั้งนี้วีเอฟเอส โกลบอลมีสำนักงานใหญ่ที่ซูริก สวิตเซอร์แลนด์ และดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
วีเอฟเอส โกลบอลเป็นบริษัทที่ถือหุ้นส่วนใหญ่โดยกองทุนซึ่งบริหารจัดการโดยแบล็คสโตน (Blackstone) ซึ่งเป็นผู้จัดการสินทรัพย์ทางเลือกรายใหญ่ที่สุดในโลก แบล็คสโตนมุ่งมั่นในการสร้างประโยชน์ทางเศรษฐกิจเชิงบวกและมอบคุณค่าระยะยาวแก่นักลงทุน บริษัทที่ได้รับเงินลงทุน และชุมชนที่บริษัทต่างๆ ดำเนินกิจการ สินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการของแบล็คสโตนมูลค่า 9.91 แสนล้านดอลลาร์ประกอบด้วยการลงทุนระดับโลกในด้านต่าง ๆ อาทิ หุ้นนอกตลาด อสังหาริมทรัพย์ หนี้สาธารณะและหุ้นในตลาด โครงสร้างพื้นฐาน ชีววิทยาศาสตร์ หุ้นเติบโต การลงทุนแบบแสวงหาโอกาส หุ้นกู้อันดับความน่าเชื่อถือต่ำ สินทรัพย์ที่จับต้องได้ และกองทุนย่อยในตลาดรอง
อีกทั้งยังมีมูลนิธิคูโอนิ แอนด์ ฮูเกินโทเบลอร์ (Kuoni and Hugentobler Foundation) ในสวิตเซอร์แลนด์ และอีคิวที (EQT) องค์กรด้านการลงทุนระดับโลกซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สตอกโฮล์ม สวีเดน เป็นผู้ถือหุ้นส่วนน้อยในวีเอฟเอส โกลบอล ด้วย
โลโก้: https://mma.prnewswire.com/media/2258259/VFS_Global_Logo.jpg