นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอใน EEC สะท้อนความร่วมมือภาครัฐและเอกชน ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ครบวงจรชั้นนำของโลก

จันทร์ ๐๖ พฤศจิกายน ๒๐๒๓ ๑๑:๐๔
บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ในเครือดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ให้การต้อนรับนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เกี่ยวข้อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการสำคัญและอุตสาหกรรมเป้าหมายในการขับเคลื่อนพัฒนาเศรษฐกิจประเทศตามนโยบายรัฐบาล รวมทั้งติดตามการบริหารจัดการน้ำในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้นักลงทุนต่างชาติ และได้เยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเออีสเทิร์นซีบอร์ด 2 (WHA ESIE 2) บนพื้นที่กว่า 3,650 ไร่ ประกอบไปด้วยโรงงานอุตสาหกรรมกลุ่มยานยนต์ อิเล็คโทรนิกส์และอุตสาหกรรมเคมีเบา โดยท่านนายกรัฐมนตรีได้ให้เกียรติรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับมาตรฐานการจัดการนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศน์อัจฉริยะ (Smart ECO Industrial Estate) ความพร้อมด้านระบบสาธารณูปโภค การจัดการสิ่งแวดล้อม และระบบโลจิสติกส์
นายกรัฐมนตรีเยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอใน EEC สะท้อนความร่วมมือภาครัฐและเอกชน ผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ครบวงจรชั้นนำของโลก

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวให้การต้อนรับและบรรยายสรุปแก่นายกรัฐมนตรีและคณะในโอกาสนี้ว่า "ท่านนายกรัฐมนตรีให้เกียรติแก่ดับบลิวเอชเอเป็นอย่างสูงในการเยี่ยมชมนิคมอุตสาหกรรมของเรา ซึ่งสะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนถึงการที่ภาครัฐและเอกชนของไทยมีความตั้งใจจริงในการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมให้มีมาตรฐานระดับโลก เพื่อขยายโอกาสความร่วมมือการลงทุนกับเขตเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ทั้งนี้ ประเทศไทยมีศักยภาพและความพร้อมที่จะก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยุคใหม่ที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นอกเหนือจากการเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ครบวงจรชั้นนำของโลกในปัจจุบัน"

ท่านนายกรัฐมนตรีและคณะได้เยี่ยมชมโรงงานของบริษัท เอสเอไอซี มอเตอร์-ซีพี จำกัด (SAIC Motor - CP Co., Ltd.) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของประเทศและมีโรงงานตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 437.5 ไร่ ภายในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเออีสเทิร์นซีบอร์ด 2 (WHA ESIE 2) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ประจวบเหมาะกับการที่รัฐบาลได้ลงนามแต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติชุดใหม่ โดยมีมติเห็นชอบมาตรการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าระยะที่ 2 หรือ EV 3.5 ในช่วงระยะเวลา 4 ปี ตั้งแต่ปี 2567-2570 นับเป็นการกระตุ้นให้อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และเปิดโอกาสให้เกิดการลงทุนจากผู้ประกอบการรายใหม่จากทั่วโลก สอดคล้องนโยบายของรัฐบาลที่ได้ให้ความสำคัญในการผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน

นอกจากนี้ ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น สนับสนุนการพัฒนาใน EEC ควบคู่ไปกับการสร้างความเป็นไปได้ในการขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมและโลจิสติกส์อย่างมีประสิทธิภาพทั่วประเทศ โดยเฉพาะการเชื่อมโยงเส้นทางขนส่งทางทะเลฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน ที่จะสร้างประโยชน์ด้านการลงทุนทั้งต่อ EEC และต่อการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้ให้ยั่งยืน

ทั้งนี้ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป มีนิคมอุตสาหกรรมที่อยู่ในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทั้งสิ้น 11 นิคม มีพื้นที่รวมกว่า 50,000 ไร่ และในปัจจุบันเกือบทุกนิคมอุตสาหกรรมรองรับผู้ประกอบการในธุรกิจยานยนต์ ส่งผลให้นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ เป็นผู้นำด้านการพัฒนาพื้นที่สำหรับอุตสาหกรรมรถยนต์ที่ได้รับความไว้วางใจจากบริษัทผู้ผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ชั้นนำจากทั่วโลกรวมมากกว่า 300 ราย อาทิเช่น AAT, Ford, Mazda, Suzuki, MG, Great Wall Motors, BYD และ Changan ตอกย้ำการเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมยานยนต์แบบครบวงจร โดยมีโครงสร้างพื้นฐาน และระบบสาธารณูปโภคที่ได้มาตรฐานระดับโลก เพียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมล่าสุดต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านการสื่อสาร การคมนาคมขนส่ง การรักษาความปลอดภัย การผลิตและการบำบัดน้ำเสีย ไปจนถึงการควบคุมด้านสิ่งแวดล้อม โดยเชื่อมต่อกับศูนย์ควบคุมส่วนกลางของดับบลิวเอชเอ (Unified Operation Center หรือ UOC) ที่สำนักงานใหญ่ ดับบลิวเอชเอ ทาวเวอร์ ย่านบางนา ทำให้บริษัทฯ สามารถตรวจสอบสภาวะด้านสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ได้แบบเรียลไทม์ ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ในการพัฒนาธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน The Ultimate Solution for Sustainable Growth

ที่มา: มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๗ เม.ย. อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud