การนอนดึก ไม่เพียงแต่ทำให้คุณผู้หญิงสูญเสียความงดงามทางร่างกาย แต่ยังทำให้ภาวะการเจริญพันธุ์เสื่อมลงอีกด้วย
สาว ๆ หลายคนต้องทนทุกข์ทรมานจากภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัยอันควรจากการนอนดึก ซึ่งเป็นสิ่งที่อาจจะไม่เคยตระหนักมาก่อน ปัจจุบัน การนอนดึกเป็นสิ่งที่หลาย ๆ คนมักทำกัน เราพอรู้ว่าการนอนดึกไม่ดีต่อสุขภาพและอาจทำให้แก่เร็วขึ้น แต่คงไม่มีใครเคยคิดว่ามันอาจทำให้เกิด "ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัยอันควร" แน่นอนว่าการนอนดึกไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ทำให้เกิด "ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัยอันควร" ยังมีเรื่องของอารมณ์ อาหาร ยา เป็นต้น ล้วนกระตุ้นให้เกิด "ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัยอันควร" ได้ด้วยเช่นกัน
สาเหตุ "ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัยอันควร" ในมุมมองทางแพทย์แผนจีน
เกิดจากอวัยวะ ตับ ไต และม้าม เสียสมดุล ความเครียด การทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ เป็นสาเหตุให้การทำงานของตับและไตแปรปรวน ไตเป็นอวัยวะก่อนกำเนิดและเป็นอวัยวะที่เกี่ยวกับการดูแลระบบสืบพันธุ์ ตับเป็นอวัยวะเกี่ยวกับการกักเก็บเลือด ส่วนม้ามเป็นอวัยวะหลังกำเนิด ช่วยให้ร่างกายมีการขับเคลื่อนหมุนเวียน ดูแลควบคุมการไหลเวียนเลือดในร่างกาย ดังนั้น ถ้าอวัยวะใดอวัยวะหนึ่งในร่างกายทำงานไม่สมดุลหรือเสื่อมลง ร่างกายขาดการดูแล จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัยอันควรได้นั่นเอง
เรามาทำความรู้จักกับ "ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัยอันควร" กันก่อน
1. ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัยอันควรคืออะไร ?
ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัยอันควร คือ ภาวะที่สตรีที่มีอายุน้อยกว่า 40 ปี เป็นต้นไป ประจำเดือนเริ่มมาไม่ปกติ เช่น ประจำเดือนขาด ประจำเดือนมาน้อย รอบประจำเดือนคลาดเคลื่อนไม่แน่นอน จนกระทั่งการมีภาวะเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด ร่วมกับการมีภาวะวัยใกล้หมดประจำเดือนหรือวัยทองร่วมด้วย ทำให้เกิดภาวะมีบุตรยาก อย่าเพิ่งคิดว่ารังไข่เสื่อมก่อนวัยอันควรเป็นเรื่องไกลตัว ในความเป็นจริง แม้แต่การนอนดึกซึ่งผู้หญิงหลายคนคุ้นเคยก็สามารถกระตุ้นให้เกิดภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัยอันควรได้
2. ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัยอันควรมีอาการอย่างไร ?
2.1) การขาดประจำเดือนแบบปฐมภูมิ (Primary amenorrhea) คือ ภาวะที่สตรีไม่เคยมีประจำเดือนเลย ตั้งแต่สาว และยังไม่มีลักษณะพัฒนาการทางเพศขั้นที่สองของสตรี เช่น การมีเต้านม ขนหัวหน่าว ขนที่อวัยวะเพศ ขนรักแร้ เป็นต้น
2.2) การขาดประจำเดือนแบบทุติยภูมิ (Secondary amenorrhea) คือ ภาวะที่สตรีเคยมีประจำเดือนมาก่อน แต่ต่อมามีการขาดหายของประจำเดือนติดต่อกันอย่างน้อย 6 เดือน หรือ 3 รอบของรอบประจำเดือนที่เคยมีมาก่อน
2.3) ภาวะมีบุตรยาก
2.4) อาการแสดงของภาวะฮอร์โมนเอสโตรเจนต่ำ เช่น ความต้องการทางเพศลดลง มีอาการเจ็บปวดขณะมีเพศสัมพันธ์ ภาวะมดลูกหย่อน หรือมีอาการวัยหมดประจำเดือน เช่น ร้อนวูบวาบ เหงื่อออกตอนกลางคืน วิตกกังวล และผมร่วง เป็นต้น
2.5) อาการอื่น ๆ เช่น นอนไม่หลับ ความจำเสื่อม ช่องคลอดแห้ง ช่องคลอดอักเสบบ่อย และการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะ ซึ่งในกรณีที่รุนแรงอาจทำให้ผู้หญิงแก่ก่อนวัยได้
หากคุณมีอาการแสดงข้างต้น แสดงว่าการทำงานของรังไข่ของคุณอาจลดลงแล้ว !!!
แม้ว่าการทำงานของรังไข่ลดลงจะเป็นสิ่งที่ผู้หญิงเราหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่หากคุณอายุต่ำกว่า 40 ปี และมีภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัยอันควร ควรจะรีบเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องจากแพทย์โดยทันที เพื่อบรรเทาความรุนแรงของอาการต่าง ๆ ที่จะตามมา
การรักษาในทางการแพทย์แผนจีน
จะเห็นว่า "ภาวะรังไข่เสื่อมก่อนวัยอันควร" มีความเกี่ยวข้องอย่างมากกับ อวัยวะตับ ไต และม้าม ดังนั้น สิ่งแรกที่ควรทำคือ การเสริมบำรุงตับ ไต และม้าม เป็นหลัก นอกจากนี้ยังต้องดูสาเหตุของภาวะรังไข่เสื่อมอย่างอื่นรักษาควบคู่ไปด้วย เช่น การกระตุ้นการไหลเวียนเลือด การขับความชื้น ในกรณีที่มีปัญหาเลือดคั่ง เสมหะความชื้นอุดกั้น เป็นต้น โดยการรักษาในทางการแพทย์แผนจีนสามารถทำได้ทั้ง "การทานยาสมุนไพรจีน" และ "การฝังเข็ม"
ขอให้คุณผู้หญิงพักผ่อนให้เพียงพอ อย่านอนดึกจนเกินไป เพราะ "รังไข่" ไม่เพียงเกี่ยวข้องกับความสามารถในการสืบพันธุ์ของสตรีเท่านั้น แต่ยังช่วยรักษารูปลักษณ์ที่สวยงามและอ่อนเยาว์ของผู้หญิงอีกด้วย ดังนั้น หยุดนอนดึก ! กันนะคะ
ที่มา: คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว