ในทางการแพทย์แผนจีนนั้นแบ่งประเภทของบุคคลที่มีภาวะความดันโลหิตสูงออกเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ คือ
- ผู้ที่มีภาวะตับและถุงน้ำดีมีไฟลุกโชน (????) : มักพบในคนที่โมโหง่าย อารมณ์ฉุนเฉียว เมื่อเราโมโหจะทำให้เกิดความร้อนในร่างกายจากนั้นความร้อนนี้วิ่งขึ้นสู่ด้านบนศีรษะของเราจึงเกิดเป็นอาการปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ปวดตึงท้ายทอย นั่นเอง
- ผู้ที่มีภาวะเลือดน้อย (??) : เลือดน้อยในที่นี้ไม่ใช่ภาวะโลหิตจางในแพทย์แผนปัจจุบัน หากแต่มีอาการชาปลายมือปลายเท้า เพราะปริมาณเลือดในร่างกายไม่เพียงพอที่จะไหลเวียนไปหล่อเลี้ยงบริเวณส่วนปลายของร่างกาย ส่งผลให้หัวใจสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายมากขึ้นจึงส่งผลให้มีความดันโลหิตสูงขึ้น
- ผู้ที่มีภาวะชี่พร่อง (??) : การแพทย์แผนจีนกล่าวว่า ชี่ส่งเสริมการไหลเวียนโลหิต และผู้ที่มีชี่ไม่เพียงพอทำให้ระบบเลือดไหลเวียนได้ไม่คล่อง หัวใจจึงต้องบีบตัวเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นความดันโลหิตจึงสูงขึ้นตามด้วย
ดังนั้น ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูงไม่ควรโมโหง่าย ฝึกอารมณ์ให้ผ่อนคลาย ไม่เครียดเกินไป ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และควรพักผ่อนให้เพียงพอ สุดท้ายนี้อยากฝากถึงผู้อ่านทุกท่านที่สงสัยว่าทำไมต้องรักษาโรคความดันโลหิตสูงด้วยศาสตร์การแพทย์แผนจีน จะดีกว่าหรือไม่หากแพทย์แผนจีนรักษาองค์รวมของร่างกาย ซึ่งเน้นให้เห็นถึงความสมดุลของอวัยวะทั้งหมดภายในร่างกายหรือกล่าวง่าย ๆ คือ แพทย์แผนจีนรักษาอาการที่ต้นเหตุนั่นเอง
- สอบถามข้อมูล หรือปรึกษาเรื่องสุขภาพได้ที่ "ทีมหมอจีน" คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว โทร 02 223 1111
- เปิดทำการทุกวัน (ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์) ตั้งแต่เวลา 08:00 - 16:00 น.
- LINE OA: @huachiewtcm
- Facebook: หัวเฉียวแพทย์แผนจีนกรุงเทพ Huachiew TCM Clinic
ที่มา: คลินิกการแพทย์แผนจีนหัวเฉียว