PwC ประเทศไทย แนะผู้ประกอบการเตรียมรับมือเกณฑ์การจัดเก็บภาษีใหม่ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

พุธ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๐๒๓ ๑๐:๑๒
PwC ประเทศไทย แนะผู้ประกอบการทำความเข้าใจและปรับตัวเพื่อรับมือกับการปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์ แนวทางการตีความ และข้อปฏิบัติของกรมสรรพากร รวมถึงนโยบายทางภาษีที่ได้รับการพัฒนาและอาจถูกนำมาปรับใช้ในอนาคตอันใกล้ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนั้น เป็นผลโดยตรงจากการพัฒนาทางเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่องในยุคการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล อันนำมาซึ่งความพยายามในการสร้างระบบการจัดเก็บภาษีที่เป็นธรรม และสอดรับกับการดำเนินธุรกิจข้ามพรมแดนแบบไร้รอยต่อของผู้ประกอบธุรกิจข้ามชาติที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
PwC ประเทศไทย แนะผู้ประกอบการเตรียมรับมือเกณฑ์การจัดเก็บภาษีใหม่ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

การเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้ ย่อมทำให้ผู้ประกอบการต้องมีความพร้อมและสามารถปฏิบัติตามกฎหมายภาษีที่ปรับเปลี่ยนใหม่ได้อย่างทันท่วงที ซึ่งจะสร้างความมั่นใจในการปฏิบัติงานทางภาษีที่ถูกต้อง ในขณะเดียวกัน ยังช่วยลดความเสี่ยงจากการถูกตั้งคำถาม หรือการต้องแบกรับภาระการพิสูจน์ในกรณีของการถูกประเมินภาษี

นาย สมบูรณ์ วีระวุฒิวงศ์ หุ้นส่วนและหัวหน้าสายงานภาษีและกฎหมาย PwC ประเทศไทย กล่าวในงานสัมมนาประจำปี Maximise Shareholder Value 2024 ในหัวข้อ 'รับมือความท้าทายในปัจจุบัน เปิดรับโอกาสอันยั่งยืนแห่งอนาคต' (Embracing today's complexities, welcoming tomorrow's opportunities) ว่า ในโลกปัจจุบันที่เป็นยุคเศรษฐกิจดิจิทัล มีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและการดำเนินธุรกิจแบบไร้พรมแดน หน่วยจัดเก็บภาษีในประเทศต่าง ๆ มีการหารือทั้งในเชิงวิชาการและทางปฏิบัติเพื่อกำหนดกฎเกณฑ์สากลอันเป็นที่ยอมรับร่วมกันและสอดรับกับแนวคิดที่ว่า ทุกประเทศควรได้รับสิทธิในการจัดเก็บภาษีตามสัดส่วนที่เหมาะสมและเป็นธรรมจากการทำธุรกรรมข้ามชาติของผู้ประกอบการ 

ในปัจจุบัน ภาครัฐของไทยมิได้นิ่งเฉยต่อกรอบการพัฒนาการจัดเก็บภาษีดังกล่าว โดยประเทศไทยมีได้มีส่วนร่วมและนำนโยบายการจัดเก็บภาษีในระดับสากลมาปรับใช้เป็นกฎหมายภายในอย่างต่อเนื่อง รวมถึงแนวทางการจัดเก็บภาษีกรณีการโอนถ่ายกำไรโดยใช้ช่องว่างทางกฎหมายภาษี เพื่อการหลบเลี่ยง กัดกร่อนฐานภาษีในประเทศ (Base Erosion and Profit Shifting: BEPS) การแก้ไขอนุสัญญาพหุภาคีที่เกี่ยวข้องกับมาตรการตามบทบัญญัติของอนุสัญญาภาษีซ้อนที่เกี่ยวข้องกับการใช้อนุสัญญาภาษีซ้อน (MLI) หลักการของ Pillar 1 และ Pillar 2 ที่เกี่ยวข้องกับจัดสรรสิทธิในการจัดเก็บภาษีให้แต่ละประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ และการจัดการความเสี่ยงด้านการกำหนดราคาโอน ผ่านข้อตกลงการกำหนดราคาเป็นการล่วงหน้า (APA) และวิธีการดำเนินการเพื่อความตกลงร่วมกัน (MAP) เป็นต้น

ในอนาคต [1]กรมสรรพากรมีแนวทางในการพัฒนาระบบภาษีไทยให้สอดคล้องกับหลักการสากลอย่างต่อเนื่อง อันจะเห็นได้จากการปรับใช้แผนปฏิบัติราชการกรมสรรพากร ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 - 2570) เพื่อเป็นทิศทางในการขับเคลื่อนองค์กรให้บรรลุเป้าหมายในมิติต่าง ๆ ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กรมสรรพากรได้พิจารณาทิศทางและแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงการกำหนดนโยบายภาษีและการพัฒนาการบริหารจัดเก็บภาษีของประเทศต่าง ๆ ตลอดจนข้อตกลงความร่วมมือด้านภาษีอากรในระดับนานาชาติ เช่น OECD Inclusive Framework on Base Erosion and Profit Shifting (BEPS) หรือ กรอบความร่วมมือเกี่ยวกับการป้องกันการกัดกร่อนฐานภาษี และการโอนกำไรไปต่างประเทศ และ Global Forum on Transparency and Exchange of Information for Tax Purposes หรือ กรอบความร่วมมือเกี่ยวกับความโปร่งใสและการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ด้านภาษี 

"นอกจากการเตรียมความพร้อมในการรับมือกับกฎเกณฑ์การจัดเก็บภาษีใหม่ ๆ ที่พัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องแล้ว ผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญกับการปฏิบัติทางภาษีที่ถูกต้องตามกฎหมายปัจจุบันด้วย การขยายธุรกิจของผู้ประกอบการยังคงต้องคำนึงถึงการวางแผนโครงสร้างเงินทุนที่เหมาะสม ทั้งในแง่ของการกำหนดความมุ่งหมายทางการค้า การเลือกรูปแบบการลงทุน การบริหารความเสี่ยงและการสร้างโอกาสทางภาษีผ่านการควบรวมกิจการ การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการปฏิบัติงานเรื่องภาษี เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ ความถูกต้อง และมีความพร้อมในเชิงข้อมูลเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบในอนาคต" นาย สมบูรณ์ กล่าว

นอกเหนือจากความเปลี่ยนแปลงทางภาษีสรรพากร การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของการค้าข้ามพรม แดนและการปฏิวัติดิจิทัล ยังนำมาซึ่งความท้าทายทางศุลกากรในมิติของแนวโน้มการตรวจสอบหรือสอบสวนในด้านพิกัด การประเมินราคา และการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิประโยชน์ด้านภาษีอากร (BOI) อีกทั้งยังมีประเด็นเรื่อง มาตรการปรับคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน (CBAM) เป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญภายใต้แนวคิดสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) ของสหภาพยุโรป ซึ่งส่งผลกระทบต่อธุรกิจไทย และกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ซึ่งกำลังเป็นที่สนใจและเกี่ยวข้องโดยตรงกับธุรกิจของผู้ประกอบการ

"การพัฒนาทางเทคโนโลยีและเศรษฐกิจยุคดิจิทัล อันนำมาซึ่งการเพิ่มประสิทธิภาพและช่องทางในการทำธุรกิจเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งได้ การสร้างระบบการจัดเก็บภาษีที่เป็นธรรมและสอดคล้องกับโลกแห่งการเปลี่ยนแปลงนั้น จึงป็นความรับผิดชอบของหน่วยจัดเก็บภาษี ผู้ประกอบการในฐานะผู้เสียภาษีจึงต้องเตรียมความพร้อม กลยุทธ์ และทรัพยากร ในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ทั้งที่เกิดขึ้นแล้ว และกำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต ทั้งนี้ เพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินไปได้อย่างราบรื่นโดยมีการเสียภาษีและปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ได้อย่างถูกต้อง ลดความเสี่ยงและภาระจากการถูกตรวจสอบ และยังส่งผลเชิงบวกต่อภาพลักษณ์ของบริษัท ทั้งต่อคู่ค้า นักลงทุน และหน่วยงานของรัฐอีกด้วย" นาย สมบูรณ์ กล่าว 

[1] กรมสรรพากร

ที่มา: PwC Thailand

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๐:๕๙ อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud