การตรวจคัดกรองเบาหวานสำคัญมากเพราะในระยะแรกๆ หรือระยะก่อนเป็นเบาหวานมักไม่มีอาการแสดงให้เรารู้ตัว การตรวจคัดกรองเท่านั้นจะทำให้รู้ว่าระดับน้ำตาลในเลือดของเราสูงจนถึงจุดที่จะเป็นโรคเบาหวานหรือยัง เป็นการช่วยลดความเสี่ยง เพราะเราสามารถปรับพฤติกรรมเพื่อป้องกันโรคได้ ในกรณีที่ตรวจพบว่าเป็นเบาหวานแล้ว หากเป็นในระยะแรกๆ การเข้าสู่กระบวนการรักษาเร็วก็จะทำให้มีผลการรักษาที่ดีกว่าการตรวจพบเมื่อเป็นมากแล้ว
** โรคเบาหวานเกิดจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงกว่าปกติ วิธีการตรวจที่นิยมมากที่สุดคือการเจาะเลือดเพื่อนำไปตรวจในห้องปฏิบัติการ (LAB) เป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว และให้ค่าที่แม่นยำ **
สมาคมโรคเบาหวานแห่งประเทศไทยยังแนะนำให้ผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยงควรรับการตรวจคัดกรองเบาหวานอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ได้แก่
- ผู้ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป
- ผู้ที่มีอายุน้อยกว่า 35 ปี แต่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน เช่น* มีน้ำหนักตัวมาก (BMI ตั้งแต่ 25 BMI kg/m2)* มีพ่อแม่ หรือพี่น้อง เป็นเบาหวาน* เป็นโรคความดันโลหิตสูง* มีไขมันในเลือดสูง* เคยเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์ หรือเคยคลอดลูกที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 4 กิโลกรัม* เป็นโรคหัวใจและหลอดเลือด* เป็นโรคถุงน้ำในรังไข่
โรคเบาหวาน นับเป็นภัยเงียบที่บั่นทอนคุณภาพชีวิตของเรา แต่เราก็สามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขภาพให้ดีปรับเปลี่ยนพฤติกรรม หมั่นออกกำลังกาย และเลือกทานแต่อาหารที่มีประโยชน์ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ "การตรวจคัดกรองเบาหวาน" อย่างสม่ำเสมอหรืออย่างน้อยปีละ 1 ครั้งในผู้ที่มีความเสี่ยง เพื่อป้องกันการเกิดโรค หรือหากพบโรคก็จะได้รักษาแต่เนินๆ ก่อนเกิดภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตรายร้ายแรงนะครับ...
ที่มา: โรงพยาบาลรามคำแหง
