"วรุณา" เปิดตัวโครงการ ปลูกข้าวเปียกสลับแห้ง ขั้นกว่าของการทำนาที่ช่วยลดโลกร้อน เพิ่มรายได้จากคาร์บอนเครดิต ช่วยเกษตรกร

พฤหัส ๒๓ พฤศจิกายน ๒๐๒๓ ๐๙:๕๗
วรุณา หนุนชาวนาไทยทำนาแบบรักษ์โลก ส่งนวัตกรรมสุดล้ำทำการเพาะปลูกแบบ "ลดก๊าซเรือนกระจก ลดใช้น้ำ ลดต้นทุน" พร้อมแอปฯผู้ช่วยสุดล้ำที่ทำให้การปลูกข้าวแม่นยำยิ่งขึ้นบริษัท วรุณา (ประเทศไทย) จำกัด หรือ VARUNA ผู้นำในการขับเคลื่อนคาร์บอนอย่างยั่งยืนในภาคการเกษตรและสิ่งแวดล้อม หนึ่งหน่วยธุรกิจภายใต้ บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ ARV เดินหน้าสนับสนุนเกษตรกรไทยหันมาปลูกข้าวแบบเปียกสลับแห้ง โดยการนำนวัตกรรม "แอปพลิเคชันคันนา" (KANNA) ผู้ช่วยประจำแปลงเพื่อเกษตรกรไทยมาช่วยบริหารจัดการแปลงเกษตรแบบครบวงจร โดยนำร่องจัดงานเปิดตัว "ปลูกข้าวเปียกสลับแห้ง สร้างคาร์บอนเครดิต สร้างรายได้" อย่างเป็นทางการ ที่ศูนย์เรียนรู้วิถีชีวิตและจิตวิญญาณชาวนาไทย (นาเฮียใช้) จังหวัดสุพรรณบุรี โดยได้รับเกียรติจากนาย ณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ร่วมเป็นประธานเปิดงาน ร่วมกับผู้บริหารบริษัท วรุณา (ประเทศไทย) จำกัด และผู้แทนศูนย์วิจัยข้าว จังหวัดลพบุรี เข้าร่วมงานในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมเกษตรกรไทยผู้ปลูกข้าวหันมาทำนาแบบรักษ์โลก โดยลดการใช้น้ำลงได้ 50% ลดต้นทุนการเพาะปลูก 8 - 13 % และลดก๊าซมีเทน 80%

ภายในงาน นางสาวพณัญญา เจริญสวัสดิ์พงศ์ ผู้บริหารด้านธุรกิจและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท วรุณา (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้หลายประเทศทั่วโลกมีความตื่นตัวและหันมาให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อช่วยดูแลและลดผลกระทบจากสภาวะโลกร้อน โดยประเทศไทยเป็นประเทศชั้นนำในกลุ่มอาเซียนที่ได้ประกาศเป้าหมายจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงให้ได้ 40% ภายในปี 2573 จากปัจจุบันประเทศไทยมีการปล่อยคาร์บอนคิดเป็นอันดับที่ 19 ของโลก ทั้งนี้ ภาคเกษตรกรรมมีกิจกรรมบางส่วนที่เป็นสาเหตุของการเกิดภาวะโลกร้อน โดยเฉพาะการปลูกข้าวที่พบว่ามีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงถึง 50.58% ส่วนใหญ่เป็นก๊าซมีเทน ที่เกิดจากกระบวนการทำนาที่ขังน้ำไว้ ซึ่งก๊าซมีเทนเป็นหนึ่งในก๊าซเรือนกระจกที่ส่งผลให้เกิดภาวะโลกร้อนมากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 28 เท่า และก๊าซไนตรัสออกไซด์ ที่เกิดจากการใส่ไนโตรเจนในปริมาณมากเกินความต้องการของพืช ดังนั้น การผลักดันให้พื้นที่เกษตรเป็นแหล่งลดก๊าซเรือนกระจก จึงเป็นแนวทางที่ประชาคมโลกให้ความสำคัญ เพราะนอกจากจะมีศักยภาพเชิงต้นทุนแล้ว ยังมีแนวโน้มช่วยแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระยะยาวได้ด้วย

"ภาครัฐของไทยตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคการเกษตร 1 ล้านตัน แนวทางดังกล่าวถือเป็นอานิสงส์ให้ "บริษัท วรุณา (ประเทศไทย) จำกัด" หนึ่งหน่วยธุรกิจภายใต้ บริษัท เอไอ แอนด์ โรโบติกส์ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ ARV ผู้เชี่ยวชาญในการขับเคลื่อนคาร์บอนอย่างยั่งยืนในภาคการเกษตรและสิ่งแวดล้อม จัดทำ "โครงการปลูกข้าวเปียกสลับแห้ง สร้างคาร์บอนเครดิต สร้างรายได้" ขึ้น ผ่าน "แอปพลิเคชันคันนา" (KANNA) เพื่อช่วยบริหารจัดการแปลงเกษตรแบบครบวงจร มีฟีเจอร์การใช้งานหลากหลาย ตั้งแต่การวางแผนการเพาะปลูกจนถึงขั้นตอนการเก็บเกี่ยว ข้อมูลสภาพอากาศแบบเรียลไทม์รายวันและรายชั่วโมง โรคและแมลง คาดการณ์ผลผลิต จนถึงการเก็บเกี่ยว โดยโครงการนี้ยังสนับสนุนให้เกษตรกรไทยเปลี่ยนวิธีทำนาข้าวแบบดั้งเดิม ที่หนึ่งฤดูกาลเพาะปลูกมีการใช้น้ำ 700 - 1,500 ลูกบาศก์เมตร/ไร่ มาเป็นการปลูกแบบเปียกสลับแห้ง โดยการใช้ท่อ PVC ขนาด 25 เซนติเมตร เจาะรูและฝังลงในนา เพื่อวัดระดับน้ำและดูการใช้น้ำ สามารถลดการใช้น้ำลงได้ 50% ลดต้นทุนการเพาะปลูก 8 - 13% และลดก๊าซมีเทน 80%

นางสาวพณัญญา กล่าวเพิ่มเติมว่า คันนายังเป็นแอปพลิเคชันที่ช่วยให้เกษตรกรไทย มีความมั่นใจกับการทำการเกษตรมากขึ้น เพราะในอดีตการทำนาเป็นการพึ่งพาศาสตร์แบบดั้งเดิม พร้อมทั้งต้องคาดเดาจากสภาพดินฟ้าอากาศที่มีความไม่แน่นอน แอปฯ ดังกล่าวจึงเป็นเสมือนผู้ช่วยประจำแปลงที่คอยช่วยตั้งแต่เริ่มการเพาะปลูกจนถึงขั้นตอนการเก็บเกี่ยว และช่วยจัดการแปลงเกษตรแบบครบวงจร อีกทั้งยังทำให้เกษตรกรรู้จักปรับตัวใช้เทคโนโลยี รวมถึงรับรู้ถึงปัญหาจากการตีความข้อมูลเชิงลึกเพื่อให้เกษตรกรนำไปปฏิบัติได้

นอกจากนี้ ยังช่วยทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้จักกับการปลูกข้าวเปียกสลับแห้ง ที่นอกจากจะช่วยลดการปล่อยก๊าซมีเทน ช่วยลดต้นทุนการผลิต ยังทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการขายคาร์บอนเครดิตอีกด้วย โดยในประเทศไทยเริ่มมีการขายคาร์บอนเครดิตในตลาดคาร์บอนตั้งแต่ปี 2557 ในรูปแบบตลาดคาร์บอนแบบภาคสมัครใจ หรือที่เรียกว่า เครดิต T-VERs (Thailand Voluntary Emission) แม้ปัจจุบันการซื้อขายเครดิต TVERs ยังมีไม่มากนัก แต่ในอนาคตจะมีแนวโน้มเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีการคาดการณ์ความต้องการซื้อคาร์บอนเครดิตของไทย ตั้งแต่ปี 2563 - 2573 คาดว่าจะสูงถึงราว 1,600 ล้านตัน tCO2e โดยวรุณามีเป้าหมายในการส่งเสริมการทำนาเปียกสลับแห้งครอบคลุม 15 จังหวัด พื้นที่ 1 ล้านไร่ภายในปี 2573

จึงอยากขอเชิญชวนเกษตรกรเข้าร่วมโครงการปลูกข้าวเปียกสลับแห้ง ลดการใช้น้ำและปุ๋ย ลดต้นทุน ลดการปล่อยก๊าซมีเทน สาเหตุที่ทำให้เกิดโลกร้อน ทั้งนี้ เกษตรกรที่สนใจสามารถเข้าร่วมโครงการได้ฟรี เพียงแค่ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันคันนา (KANNA) จากกูเกิลเพลย์ และ แอปสโตร์

สำหรับผู้ที่สนใจเทคโนโลยีจาก บริษัท วรุณา (ประเทศไทย) จำกัด สามารถติดต่อขอรับรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่อีเมล [email protected] หรือ โทร 02-078-6555 และดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://varuna.co.th

ที่มา: เจซีแอนด์โค คอมมิวนิเคชั่นส์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘:๓๓ COM7 เดินหน้าเต็มสปีด EV7 ส่งมอบแท็กซี่ไฟฟ้าล็อตแรก ดันเมกะเทรนด์ EV สู่หัวใจเมือง
๑๘:๓๖ GCAP ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ไฟเขียวผ่านฉลุยทุกวาระ พร้อมเดินหน้าแผนธุรกิจขยายสู่กลยุทธ์ Non Lending
๑๘:๔๔ PYLON จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ผู้ถือหุ้นไฟเขียวจ่ายปันผล 0.04 บาท/หุ้น
๑๘:๓๙ LDC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 มุ่งเป็นคลินิกทันตกรรมพรีเมียม ในราคาที่เข้าถึงง่าย
๑๘:๑๒ ผู้ถือหุ้น TATG ไฟเขียวจ่ายปันผล 0.07 บาท/หุ้น ลงทุนเครื่องจักรใหม่เสริมแกร่งสายการผลิต พิชิตเป้ารายได้ 3,000
๑๘:๕๗ ADVICE จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นรูปแบบ Hybrid ประจำปี 2568 ผถห.ไฟเขียวทุกวาระ เคาะแจกปันผล 0.175 บ./หุ้น
๑๘:๓๖ LE ร่วมงานสถาปนิก'68 โชว์นวัตกรรมแสงสว่างอัจฉริยะ เสริมภาพผู้นำ Lighting Solutions Provider
๑๘:๔๖ SELIC จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ปี 2568 ผู้ถือหุ้นเห็นชอบทุกวาระ อนุมัติจ่ายปันผล 0.038 บาท/หุ้น เดินหน้า 3 ธุรกิจ
๑๘:๔๙ STA เปิดบ้านต้อนรับภาครัฐ โชว์มาตรฐานรับซื้อยางโปร่งใส เป็นธรรม หนุนรัฐต้านยางเถื่อน
๑๘:๓๕ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จับมือเอกชน ปั้นช่างเชื่อมโกอินเตอร์ รายได้ทะลุ 70,000 บาทต่อเดือน