ความบิดเบี้ยวในการสอบคัดเลือก และขาดการกระจายอำนาจ คือปัญหา "กล่องดำทางการศึกษา" ของไทย

อังคาร ๒๘ พฤศจิกายน ๒๐๒๓ ๑๔:๓๐
เมื่อเร็วๆ นี้ มูลนิธิเอเชีย ได้ร่วมกับเหล่าพันธมิตร จัดงานเปิดตัว www.Thailandleadership.org ซึ่งเป็นเว็บไซต์พัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นำของ ผอ.โรงเรียน นำเสนอทักษะที่ทำให้ประสบความสำเร็จ ในรูปแบบของข่าวสาร งานวิจัย บทความ คลิปวิดิโอ พอดแคสต์ สารคดี ฯลฯ โดยนักวิชาการที่มีชื่อเสียง ภายในงานได้มีการจัดเสวนาในหัวข้อ "แชร์กลยุทธ์ จุดไอเดียผู้บริหาร" โดย รศ.ดร.เอกชัย กี่สุขพันธ์ ในฐานะนักวิชาการและผู้ร่วมจัดทำเว็บไซต์ ซึ่งได้มีการกล่าวถึงเรื่องความบิดเบี้ยวในระบบการสอบคัดเลือก และขาดการกระจายอำนาจ คือปัญหาที่ถือเป็นกล่องดำทางการศึกษาของไทย ได้อย่างตรงประเด็นและน่าสนใจ
ความบิดเบี้ยวในการสอบคัดเลือก และขาดการกระจายอำนาจ คือปัญหา กล่องดำทางการศึกษา ของไทย

รศ.ดร.เอกชัย กี่สุขพันธ์ อดีตประธานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) และอดีตประธานคณะกรรมการมาตรฐานวิชาชีพ คุรุสภา ในฐานะผู้ร่วมจัดทำเว็บไซต์ ได้กล่าวว่า "ปัญหาที่ถือเป็นกล่องดำทางการศึกษาของไทยคือ ประเทศไทยไม่เคยเตรียมผู้นำทางวิชาการ แต่คัดเลือกเฉพาะผู้บริหารสถานศึกษา ให้ความสำคัญกับการสอบคัดเลือกตามระเบียบราชการ หรือการสอบในเชิงวิชาการ ซึ่งไม่ใช่วิชาการที่เป็นการทดสอบวัดสมรรถนะการบริหาร ในฐานะผู้นำวิชาการ (Academic Leadership) จึงส่งผลให้ได้ผู้บริหารการศึกษาที่เน้นทำข้อสอบเชิงวิชาการบริหารทั่วๆ ไป ไม่ได้เน้นประสบการณ์ด้านการบริหารงานวิชาการ ถือเป็นการเข้าสู่ตำแหน่งผู้บริหารการศึกษาที่บิดเบี้ยว ซึ่งบิดเบี้ยวตั้งแต่การเปิดโอกาสให้ครูที่มีคุณวุฒิ วิทยฐานะระดับชำนาญการทุกระดับมีสิทธิ์สอบ บางท่านสอบผ่านเป็นผู้บริหารโรงเรียน ทั้งๆ ที่ไม่เคยผ่านงานหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ หรือหัวหน้ากลุ่มวิชา บางคนไม่เคยเป็นรองผอ. แต่ไปสอบผอ. ซ้ำร้ายกว่านั้นเคยเป็นครูโรงเรียนมัธยมมาตลอด แล้วไปสอบเป็น ผอ.โรงเรียนประถม แล้วคิดว่าวันหนึ่งจะมีโอกาสย้ายกลับไปเป็น ผอ.โรงเรียนมัธยม เพราะฉะนั้นอย่าหวังกับผู้นำทางวิชาการ ที่ไม่ได้ถูกสร้าง หรือถูกเตรียมให้เป็น"

รศ.ดร.เอกชัย กล่าวต่ออีกว่า เมื่อผู้บริหารสถานศึกษาขาดประสบการณ์ทางวิชาการ การไปเป็นผู้นำวิชาการไม่ใช่เรื่องง่าย ในอนาคตจึงเห็นว่าควรต้องกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะสอบเป็นผู้บริหารสถานศึกษา เช่น ต้องมีประสบการณ์ในการเป็นรองผอ. หรือเคยเป็นหัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้ จึงจะมีสิทธิ์สอบ ซึ่งที่ผ่านมาเคยเสนอแนวคิดกำหนดคุณสมบัติผู้ที่จะสอบตำแหน่งผอ.ได้ จะต้องอยู่ในตำแหน่งรอง ผอ.วิชาการ ไม่น้อยกว่า 2 ปี แต่แนวคิดไม่ได้ถูกนำไปปฏิบัติเนื่องจากเหตุผลที่ไม่ทราบได้  นอกจากนี้ยังมีปัญหาที่ถือเป็นกล่องดำทางการศึกษาของไทยอีกประการ คือขาดการกระจายอำนาจจากส่วนกลางไปที่โรงเรียน ส่งผลให้ผู้บริหารไม่กล้าแสดงศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่ เพราะมีกฎระเบียบและ ข้อบังคับหลายอย่าง จึงเห็นว่าส่วนกลางควรกระจายอำนาจการบริหารงานบุคคล รวมถึงงบประมาณ เพื่อให้ผู้บริหารมีอิสระในการบริหารจัดการ และแสดงศักยภาพของตนเองให้ได้มากที่สุด 

"การเติบโต และความก้าวหน้าในตำแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา ไม่ควรขึ้นอยู่กับจำนวนของนักเรียน หรือขนาดของสถานศึกษาเป็นสำคัญ แต่ควรพิจารณาคุณสมบัติของผู้บริหารให้เหมาะสมกับขนาดของโรงเรียนเป็นหลัก หากผู้บริหารคนไหนเหมาะสมที่จะอยู่โรงเรียนขนาดเล็ก ก็ต้องบริหารโรงเรียนขนาดเล็ก ไม่จำเป็นต้องขยับไปที่โรงเรียนขนาดกลาง เพื่อให้ผู้บริหารคนใหม่ได้เข้ามาทำหน้าที่แทน ขณะเดียวกันหากผู้บริหารคนใหม่ที่สอบผ่านเข้ามา เหมาะสมที่จะบริหารโรงเรียนขนาดกลาง ก็ควรให้บริหารไม่ควรไปเริ่มต้นในโรงเรียนขนาดเล็ก โดยบทบาทของผู้บริหารสถานศึกษาในอนาคตควรจะต้องมี 4 คุณสมบัติที่เป็นลักษณะสำคัญ คือ 1.Designer มีคุณสมบัติเป็นนักออกแบบ เพื่อที่จะออกแบบงานที่เกี่ยวข้องกับวิชาการได้ ซึ่งควรมีประสบการณ์ทำงานด้านวิชาการมาก่อน 2.Facilitator เป็นผู้อำนวยความสะดวกให้ครู ได้มีโอกาสมีส่วนร่วมที่จะพัฒนาวิชาการของสถาน ศึกษา 3.Supporter เป็นคนสนับสนุนครู และ 4.Evaluator เป็นผู้ประเมินผลการทำงาน"

สำหรับเว็บไซต์ Thailand Leadership จัดทำขึ้นภายใต้ความร่วมมือของกระทรวงศึกษาธิการ, กรุงเทพมหานคร, สถานทูตออสเตรเลีย และเหล่าพันธมิตร โดยมีที่มาจากโครงการวิจัยเรื่องจากความท้าทายสู่คุณภาพการศึกษาของประเทศไทย : กฎระเบียบ การบริหารทรัพยากร และความเป็นผู้นำ ในปี พ.ศ.2561-2564 ของมูลนิธิเอเชีย ที่ได้มุ่งเน้นศึกษาโครงสร้างและบทบาทของ "ตัวกลาง" ระหว่าง "ผู้กำหนดนโยบายการศึกษาของชาติ" และ "ผลผลิตทางการศึกษา" นั่นคือ "ผู้อำนวยการสถานศึกษา" ในฐานะ "กล่องดำทางการศึกษา" หรือ "แกนหลักผู้สื่อสารถ่ายทอดนโยบาย" บทสรุปที่ได้คือผู้อำนวยการโรงเรียนที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา จะต้องมีบทบาทเป็นผู้นำทางวิชาการ ซึ่งภายในเว็บไซต์จะประกอบด้วย 3 เมนูหลักคือ 1)ลงมือปฎิบัติ, 2)พัฒนาวิชาการ และ 3)สร้างสรรค์งานวิจัย โดย ผอ.โรงเรียน และผู้ที่สนใจ สามารถเข้าไปใช้บริการได้ฟรีโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ที่ www.Thailandleadership.org ได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ที่มา: ไวสแบรนด์

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๐:๕๙ อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud