เครือร้านอาหารบ้านหญิงยกระดับคำมั่นสัญญาด้านสวัสดิภาพไก่ในประเทศไทย

ในประเทศไทย ไก่จำนวนมากจากไก่จำนวน 95.8 ล้านตัวที่ถูกเลี้ยงไว้เพื่อผลิตไข่จะใช้เวลาทั้งชีวิตในกรงลวดที่มีขนาดเล็กกว่ากระดาษ A4 ไก่เหล่านี้ไม่สามารถกางปีกหรือขยับตัวก้าวเดินไปไหนได้  ระบบกรงแบตเตอรี่เหล่านี้ทำให้แม่ไก่ไม่สามารถแสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติที่สำคัญสำหรับการใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการทำรัง การเกาะบนคอน และการคลุกฝุ่น ซึ่งทั้งหมดนี้สามารถทำได้ในระบบเลี้ยงแบบไม่ขังกรง (cage-free) นโยบายความมุ่งมั่นนี้เกิดขึ้นในปี 2562 และจะนำไปใช้ต่อไปในอนาคต

"ในปี 2560 ที่เราเริ่มมองหาไข่ที่เลี้ยงแบบปล่อยอิสระ แต่จำนวนไข่ที่มียังไม่เพียงพอสำหรับธุรกิจของเรา เราจึงร่วมมือกับ Naeville Organic Farm เพื่อสร้างแบรนด์ไข่ไก่ไม่ขังกรง (cage-free) เพื่อจำหน่ายภายในเครือร้านอาหารบ้านหญิง ให้กับผู้บริโภคและห้างร้านต่างๆที่สนใจไข่ไก่ที่คัดสรรเป็นอย่างดีจากธรรมชาติ เราใส่ใจในวัตถุดิบและความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าที่เกิดจากมาตรฐานสวัสดิภาพสัตว์ที่ดีทั้งสำหรับแม่ไก่และสัตว์ทุกชนิด" นายทรงศร จั่นสัญชัย ผู้อำนวยการเครือร้านอาหารบ้านหญิงกล่าว

นายทรงศร กล่าวเพิ่มว่า "รากฐานของธุรกิจเราเริ่มมาจากครอบครัว เราเข้าใจพื้นฐานของการสร้างธุรกิจที่ดีด้วยการให้ทุกคนมีส่วนร่วมในเส้นทางสู่ความสำเร็จของเรา เราต้องใส่ใจกับสัตว์ มนุษย์ และสิ่งแวดล้อม เพื่อขยายฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งไปสู่เป้าหมายระยะยาว เราอยากดึงทีมงาน ลูกค้า และสัตว์ต่างๆ ให้มีส่วนร่วมกับเราด้วยการเลือกสรรผลิตภัณฑ์ที่ดีจากธรรมชาติเพื่อสวัสดิภาพสัตว์"

ลลดา ตั้งเจิดจรัส ผู้จัดการประจำประเทศไทยในโครงการเพื่อการปกป้องและดูแลสวัสดิภาพสัตว์ของ Humane Society International กล่าวว่า "เรายินดีกับนโยบายใหม่ของเครือร้านอาหารบ้านหญิงที่เลือกใช้ไข่ไก่แบบไม่ขังกรง การตัดสินใจครั้งนี้เน้นย้ำถึงความทุ่มเทอย่างแน่วแน่ของบ้านหญิงต่อสวัสดิภาพไก่ ซึ่งเป็นความมุ่งมั่นที่พวกเขายึดถือมาโดยตลอดตั้งแต่ปี 2562 ไม่ว่าจะดำเนินธุรกิจที่ไหนก็ตาม ความมุ่งมั่นในพันธกิจนี้ส่งสารอย่างชัดเจนว่า อนาคตของการผลิตไข่ไก่ในประเทศไทยควรเป็นแบบไม่ขังกรง นี่เป็นตัวอย่างที่สร้างแรงบันดาลใจให้บริษัทอื่นๆ ในประเทศไทยปฏิบัติตาม"

เครือร้านอาหารบ้านหญิงเข้าร่วมกับบริษัทข้ามชาติอื่นๆ ที่ยึดมั่นในพันธกิจระดับโลกในการเลือกใช้ไข่แบบไม่ขังกรง ที่บังคับใช้ในประเทศไทยและส่วนอื่นๆ ของเอเชีย ซึ่งรวมไปถึงกลุ่ม Central Retail, Accor, Hilton Hotels and Resorts, Sodexo, Nestle และ Mondelez International และอื่นๆ อีกมากมาย

ความรับผิดชอบของ Humane Society International ในการปรับปรุงสวัสดิภาพของสัตว์ในภาคเกษตรกรรมเป็นงานที่มาจากพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และความร่วมมือของภาคส่วนต่าง ๆ องค์กรทำงานร่วมกับบริษัทต่าง ๆ เกษตรกร ผู้ผลิตและแปรรูปอาหาร นักวิทยาศาสตร์ และผู้รับรองเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนไปใช้ระบบโรงเรือนแบบไม่ขังกรง และให้การสนับสนุนที่หลากหลายแก่บริษัทต่างๆ เช่น การเยี่ยมชมฟาร์ม การให้ความรู้แก่ผู้บริโภค ตลอดจนการประชุมเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นขององค์กรและการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อปรับปรุงห่วงโซ่อุปทานให้ดีขึ้นต่อไป

เกี่ยวกับ Humane Society International (HSI): องค์กรเพื่อการยกระดับสวัสดิภาพสัตว์ในกว่า 50 ประเทศทั่วโลกเพื่อส่งเสริมความผูกพันระหว่างมนุษย์กับสัตว์ ช่วยเหลือและปกป้องสุนัขและแมว ปรับปรุงสวัสดิภาพสัตว์ในฟาร์ม ปกป้องสัตว์ป่า ส่งเสริมการทดสอบและการวิจัยโดยไม่ใช้สัตว์ทดลอง ตอบสนองต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติ และต่อต้านการทารุณกรรมสัตว์ทุกรูปแบบ

เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับงานของเราที่ hsi.org ติดตาม HSI บน X (ชื่อเดิม Twitter), Facebook และ Instagram

ที่มา: Humane Society International