เพลย์คูริโอตั้งตัวเป็นบริษัทสตูดิโอผลิตคอนเทนต์ความบันเทิงเพื่อการศึกษา ซึ่งทางสตูดิโอไม่เพียงแต่สร้างแอนิเมชั่นสำหรับเด็กเท่านั้น แต่ยังดำเนินธุรกิจคอนเทนต์ลิขสิทธิ์อีกด้วย โดยผลิตคอนเทนต์ต่าง ๆ แบบความเป็นจริงเสริม (AR) และแบบโลกเสมือนจริง (VR)
"โดยปกติแล้วผู้ให้บริการคอนเทนต์ AR/VR จะเน้นโชว์ความสามารถทางเทคโนโลยี แต่สิ่งที่เราคิดว่าสำคัญจริง ๆ คือ 'ความสนุก' ต่อให้เทคโนโลยีล้ำแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์หากทำให้เด็กเบื่อ คุณรู้ไหมว่าสัตว์ตัวไหนใหญ่กว่ากัน สิงโตหรือเสือ?"
หลังจากถามแล้ว ซีอีโอลีก็ยิ้มและยื่นกระดาษการ์ดรูปสิงโตและเสือให้ เมื่อเขาสแกนการ์ดด้วยกล้องสมาร์ตโฟน ภาพสิงโตและเสือก็ปรากฏบนหน้าจอเหมือนภาพโฮโลแกรม
"คนส่วนใหญ่คิดว่าสิงโตตัวใหญ่กว่า แต่ถ้าคุณดูพวกมันผ่าน AR คุณจะพบว่าเสือตัวใหญ่กว่า เราได้จดสิทธิบัตรเทคโนโลยี 'การเปรียบเทียบขนาดสิ่งของ' ซึ่งช่วยให้สามารถเดาขนาดที่แท้จริงของสัตว์ต่าง ๆ ได้ คุณสามารถเปรียบเทียบขนาดของไดโนเสาร์ซึ่งเป็นสัตว์ตัวโปรดของเด็ก ๆ ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้เรายังเพิ่มฟีเจอร์ความบันเทิงในการ 'สะสม' การ์ดทุกครั้งที่คุณตรวจสอบข้อมูลของสัตว์ต่าง ๆ ผ่านสารานุกรม" คุณลีกล่าวเสริม
- ธุรกิจเริ่มต้นจากอาชีพก่อนหน้านี้ของคุณลีในฐานะโปรดิวเซอร์คอนเทนต์สำหรับเด็กและในฐานะคุณพ่อคนหนึ่ง
คุณลีเคยเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์รายการสำหรับเด็ก เริ่มต้นที่เคบีเอส โปรดักชัน (KBS Production) ฝันแรกของเขาคือการเป็นโปรดิวเซอร์รายการบันเทิง แต่หลังจากที่ได้รับมอบหมายให้เข้าร่วมทีมรายการวัฒนธรรม เขาก็เริ่มผลิตรายการสำหรับเด็กและก้าวเข้าสู่วงการคอนเทนต์สำหรับเด็ก ประสบการณ์ของเขาในฐานะโปรดิวเซอร์คอนเทนต์สำหรับเด็กสะท้อนออกมาในผลิตภัณฑ์และบริการของเพลย์คูริโอ พร้อมด้วย "ความรักของคนเป็นพ่อ" ที่เพิ่มเติมเข้ามา
"การ์ดกระดาษหรือหนังสือล้วนไม่ใช่ผลิตภัณฑ์หลักของเรา แต่เป็นผลิตภัณฑ์เสริม ผลิตภัณฑ์หลักของเราคือคอนเทนต์ลิขสิทธิ์ และเราจะขยายกิจการด้วยการร่วมมือกับบริษัทต่าง ๆ ตามคอนเทนต์ลิขสิทธิ์นั้น ๆ" ซีอีโอลีกล่าว
