ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล จัดทำ 3 มาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน ปี 2567

พฤหัส ๒๘ ธันวาคม ๒๐๒๓ ๑๔:๑๓
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) พร้อมดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลัง จัดทำมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน ปี 2567 จำนวน 3 มาตรการ ช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ (SM) และลูกค้าสถานะ NPL ที่ยังคงได้รับผลกระทบด้านรายได้ ให้ได้รับความช่วยเหลือนาน 1 ปี โดยปรับลดอัตราดอกเบี้ยและเงินงวดลง ประกอบด้วย 1. มาตรการภาคครัวเรือน "HD1" สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ SM ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี คิดอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 3 เดือน และผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้น 3 เดือนแรก จำนวน 1,000 บาท (ตัดชำระเงินต้นทั้งหมด) 2. มาตรการภาคครัวเรือน "HD2" สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ SM ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี คิดอัตราดอกเบี้ย 1.90% ต่อปี นาน 3 เดือน และคำนวณเงินงวดผ่อนชำระเงินเริ่มต้นเดือนที่ 1 - 3 จากอัตราดอกเบี้ย 1.90% +100 บาท และ 3. มาตรการภาคครัวเรือน "HD3" สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ NPL ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี คิดอัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี นาน 4 เดือน และผ่อนชำระเงินงวดเริ่มต้นเดือนที่ 1 - 4 จำนวน 1,000 บาท (ตัดชำระเงินต้นทั้งหมด) ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการผ่าน Application : GHB ALL BFRIEND และสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม - 31 มีนาคม 2567
ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล จัดทำ 3 มาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน ปี 2567

นายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส. ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ ที่มีพันธกิจ "ทำให้คนไทยมีบ้าน" นอกจากจะสนับสนุนให้คนไทยได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองมามากกว่า 4.4 ล้านครอบครัวแล้ว ธนาคารยังพร้อมช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของลูกค้าประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ ให้สามารถผ่อนชำระเงินงวดได้ตามความเหมาะสมต่อเนื่องจากปี 2566 ที่ได้ดำเนินการจัดทำมาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืนตามนโยบายรัฐบาลและกระทรวงการคลังโดยนายกฤษฎา จีนะวิจารณะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง โดยที่ผ่านมาสามารถช่วยเหลือลูกค้าให้กลับมาผ่อนชำระได้ตามปกติเป็นจำนวนมาก ณ วันที่ 26 ธันวาคม 2566 มีจำนวนลูกค้าที่เข้าร่วมมาตรการสูงถึง 196,232 บัญชี คิดเป็นวงเงินต้นคงเหลือ 200,055 ล้านบาท ส่งผลให้ธนาคารสามารถบริหารจัดการหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 4.06% ดีกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้และมีแนวโน้มลดลง

อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการช่วยเหลือลูกค้าให้กลับมามีความสามารถในการผ่อนชำระเงินงวดมากขึ้น ธอส. จึงได้เดินหน้าจัดทำ "มาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน ปี 2567" โดยให้ความช่วยเหลือนาน 1 ปี จำนวน 3 มาตรการ ประกอบด้วย

  1. มาตรการภาคครัวเรือน "HD1" สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ SM ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี ผ่อนชำระเงินงวดเดือนที่ 1-3 จำนวน 1,000 บาท (ตัดชำระเงินต้นทั้งหมด) อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี, เดือนที่ 4-6 ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 1.90 % +100 บาท และเดือนที่ 7-12 ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 3.90 % +100 บาท กรณีลูกค้าชำระเกินที่ธนาคารกำหนดให้นำไปตัดดอกเบี้ยค้างชำระ (หากมี)
  2. มาตรการภาคครัวเรือน "HD2" สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ SM ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ผ่อนชำระเงินงวดเดือนที่ 1 - 3 คำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 1.90% +100 บาท, เดือนที่ 4 - 6 ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 3.90 % +100 บาท และเดือนที่ 7 - 12 ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย MRR-2% +100 บาท (ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส. เท่ากับ 6.90% ต่อปี) กรณีลูกค้าชำระเกินที่ธนาคารกำหนดให้นำไปตัดดอกเบี้ยค้างชำระ (หากมี)
  3. มาตรการภาคครัวเรือน "HD3" สำหรับกลุ่มลูกค้าสถานะ NPL ที่กู้เงินกับธนาคารมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี ผ่อนชำระเงินงวดเดือนที่ 1 - 4 จำนวน 1,000 บาท (ตัดชำระเงินต้นทั้งหมด) อัตราดอกเบี้ย 0% ต่อปี, เดือนที่ 5-8 ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 1.90 % +100 บาท และเดือนที่ 9 - 12 ผ่อนชำระเงินงวดคำนวณจากอัตราดอกเบี้ย 3.90% +100 บาท กรณีลูกค้าชำระเกินที่ธนาคารกำหนดให้นำไปตัดดอกเบี้ยค้างชำระ (หากมี)

"ลูกค้าส่วนใหญ่ของ ธอส. เป็นผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง และมีกลุ่มลูกค้าที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้ ทำให้ขาดความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ เสี่ยงต่อการตกชั้นหนี้ และต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ หรือ SM ซึ่งกลุ่มลูกค้ากลุ่มนี้ ธอส. ให้ความสำคัญและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งการจัดทำมาตรการปรับปรุงโครงสร้างหนี้อย่างยั่งยืน ที่จะสิ้นสุดมาตรการให้ความช่วยเหลือในปี 2566 นี้ รวมไปถึงการตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไว้ให้นานที่สุด เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของลูกค้า ดังนั้นเชื่อว่าการออกมาตรการช่วยเหลือ 3 มาตรการนี้จะสามารถดูแลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพและจะช่วยให้ลูกค้าสามารถรักษาบ้านของตนเองไว้ได้ต่อไป" นายกมลภพ กล่าว

สำหรับลูกค้าที่ประสงค์เข้าร่วมมาตรการข้างต้น สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการได้ตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม - 31 มีนาคม 2567 ผ่านทาง Application : GHB ALL BFRIEND โดยลูกค้าจะต้อง Upload หลักฐานยืนยันการได้รับผลกระทบทางรายได้เพื่อให้ธนาคารพิจารณาด้วย ส่วนกรณีที่ลูกค้าไม่มีสมาร์ทโฟน สามารถกรอกข้อมูลเพื่อแจ้งความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือได้ที่สาขาทั่วประเทศ โดยสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ธอส.ทุกสาขาทั่วประเทศ G H Bank Call Center โทร.0-2645-9000 หรือ Facebook Fanpage ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และติดตามข่าวสารของธนาคารได้ที่ Application : GHB ALL GEN และ www.ghbank.co.th

ที่มา: ธนาคารอาคารสงเคราะห์

ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล จัดทำ 3 มาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน ปี 2567

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๗ เม.ย. อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud