'โรคหัวใจและหลอดเลือด' ภัยร้ายอันดับหนึ่งที่คร่าชีวิตคนไทยปี 2566
เมื่อเร็ว ๆ นี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เผยว่า ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจากโรคหัวใจและหลอดเลือดปีละกว่า 7 หมื่นราย หรือเฉลี่ย 8 รายต่อชั่วโมง โดย พญ.วริศรา สินค้าเจริญ อธิบายว่า "โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นหนึ่งในโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) หรือโรคจากพฤติกรรมที่คนไทยเสี่ยงเป็นสูงมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคนี้ ได้แก่ อายุที่มากขึ้น ภาวะความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง โรคเบาหวาน การมีดัชนีมวลกาย (BMI) เกินเกณฑ์ และการสูบบุหรี่ เป็นต้น ซึ่งเมื่อแพทย์พบว่าคนไข้มีความเสี่ยงเหล่านี้ ก็จะแนะนำให้ปรับพฤติกรรมการรับประทานอาหาร การพักผ่อน และหันมาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อควบคุมน้ำหนัก ระดับไขมันและน้ำตาล ให้กลับมาเป็นปกติ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรค NCDs ที่แม้บางครั้งไม่แสดงอาการชัดเจน แต่อาจอันตรายถึงชีวิตได้"
"เรื่องที่น่าเสียดายก็คือ ยังมีคนไทยอีกจำนวนมากที่ไม่เคยมาตรวจสุขภาพเลย ไม่ว่าจะเป็นการเจาะเลือด เอกซ์เรย์ หรือพบแพทย์เพื่อสอบถามปัญหาสุขภาพประจำปี ซึ่งทำให้บ่อยครั้ง กว่าจะตรวจพบโรคร้าย ก็มีอาการรุนแรงจนยากที่จะรักษาแล้ว" พญ.วริศรา สินค้าเจริญ กล่าวเสริม
ตรวจสุขภาพทุกปี-สร้างเฮลตี้ไลฟ์สไตล์ เคล็ดลับง่าย ๆ ห่างไกลโรค NCDs
การตรวจสุขภาพทุกปีมีความจำเป็นอย่างมากสำหรับคนทุกช่วงวัย ไม่ใช่แค่เพียงผู้สูงอายุเท่านั้น เพราะเป็นการตรวจคัดกรองโรคที่อาจยังไม่แสดงอาการ แต่สามารถประเมินความเสี่ยงได้จากผลเลือด ผลปัสสาวะ ผลเอกซ์เรย์ หรือผลอัลราซาวด์ รวมไปถึงการหาความปกติจากการตรวจร่างกาย การหาค่า BMI และสอบถามปัญหาสุขภาพโดยแพทย์ โดยหลังการตรวจสุขภาพ แพทย์จะพูดคุยถึงผลการตรวจ พร้อมให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์ในการเฝ้าระวังความเสี่ยงในอนาคต ถือเป็นการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน ซึ่งสำคัญอย่างมากในการสร้างสุขภาพที่ดีอย่างยั่งยืน "อีกหนึ่งเคล็ดลับในการตรวจสุขภาพและการพบแพทย์ที่ควรปฏิบัติก็คือ การให้ข้อมูลโดยละเอียดแก่แพทย์ผู้ตรวจ เช่น โรคประจำตัว ยาที่ใช้ประจำ ประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์ หรือความผิดปกติที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เพื่อให้แพทย์สามารถวินิจฉัยและรักษาโรคได้อย่างแม่นยำและปลอดภัย นอกจากนี้ หากพบว่าเป็นหรือเสี่ยงเป็นโรค NCDs อาทิ เบาหวาน ความดันโลหิต หรือไขมันในเลือดสูง คนไข้จำเป็นต้องปรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายแบบหนักปานกลาง (Moderate Intensity) เช่น การเดินเร็ว สัปดาห์ละ 150 นาที รวมไปถึงการลดอาหารจำพวกแป้ง น้ำตาล อาหารโซเดียมสูง และเพิ่มผัก ธัญพืช และผลไม้น้ำตาลต่ำในมื้ออาหาร เป็นต้น" พญ.วริศรา สินค้าเจริญ กล่าว
ส่องการตรวจสุขภาพที่เหมาะสมตามช่วงวัย
สำหรับทุกช่วงวัย แพทย์แนะนำให้ตรวจเลือดเพื่อดูความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด ระดับน้ำตาลในเลือด ไขมันในเลือด การทำงานของตับ-ไต การตรวจปัสสาวะ และเอกซ์เรย์ปอด เพื่อตรวจหาความผิดปกติเบื้องต้นของร่างกาย สำหรับผู้หญิงวัย 25 ปีขึ้นไป ควรตรวจภายในร่วมกับคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทุก 2-3 ปี ผู้หญิงอายุ 40 ปีขึ้นไปควรตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านมทุกปี ส่วนผู้ชายอายุ 40 ปีขึ้นไปควรเริ่มตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมาก นอกจากนี้ ชายและหญิงอายุ 45 ปีขึ้นไปควรเริ่มตรวจคัดกรองมะเร็งลำไส้ และตรวจซ้ำทุก 10 ปี และเมื่ออายุ 65 ปี ก็ควรเริ่มตรวจวัดค่าหนาแน่นของมวลกระดูก เพื่อป้องกันกระดูกพรุนตั้งแต่เนิ่น ๆ
"นอกจากการตรวจสุขภาพตามช่วงวัยเป็นประจำทุกปีแล้ว อย่าลืมพาบุตรหลานและผู้ใหญ่ที่บ้านไปฉีดวัคซีนที่จำเป็นให้ครบเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ที่ต้องฉีดซ้ำทุกปี หรือวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก 9 สายพันธุ์ ซึ่งฉีดได้ตั้งแต่อายุ 9 ขวบ เพราะการดูแลใส่ใจสุขภาพรับปีใหม่ถือเป็นของขวัญชิ้นสำคัญที่เราสามารถมอบให้ตนเองและคนที่เรารักได้"
ผู้ที่สนใจการตรวจสุขภาพและปรึกษาแพทย์โรงพยาบาลวิมุต สามารถติดต่อได้ที่ ชั้น 6 ศูนย์สุขภาพ รพ. วิมุต ถนนพหลโยธิน หรือโทรนัดหมาย 02-079-0034 เวลา 07.00-17.00 น. หรือใช้บริการ Telemedicine ปรึกษาแพทย์ออนไลน์ผ่าน ViMUT App คลิก https://bit.ly/372qexX
ที่มา: วิวาลดี้ อินทิเกรเต็ด พับลิค รีเลชั่นส์
