ส.อ.ท. - สสว. เดินหน้าจัดทำกลไกการปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจสีเขียว กระตุ้น SME รับมือมาตรการการค้าโลก

พุธ ๑๗ มกราคม ๒๕๖๗ ๑๔:๕๙
เมื่อวันที่ 17 มกราคม 2567 สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) โดยสถาบันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จัดสัมมนาเปิดตัวโครงการ ศึกษาวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำกลไกการปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจสีเขียว (Green Transition) สำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) เพื่อยกระดับผู้ประกอบการ SME ให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ทัดเทียมกับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ โดยได้รับเกียรติจาก นางอภิรดี ขาวเธียร รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเป็นประธานกล่าวเปิดงาน ณ ห้องประกายเพชร โรงแรมเอเชีย พญาไท กรุงเทพฯ
ส.อ.ท. - สสว. เดินหน้าจัดทำกลไกการปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจสีเขียว กระตุ้น SME รับมือมาตรการการค้าโลก

โครงการศึกษาวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำกลไกการปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจสีเขียว (Green Transition) มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลด้านแนวคิด ความจำเป็น และลักษณะการดำเนินธุรกิจปัจจุบันในเวทีโลก ที่เป็นตัวกระตุ้นให้แต่ละภาคส่วนต้องมีการปรับตัว และรับสมัครสถานประกอบการเข้าเป็นสถานประกอบการนำร่อง กลุ่มอุตสาหกรรมละ 3 แห่ง รวมทั้งสิ้น 18 แห่ง ซึ่งสถานประกอบการแต่ละแห่งจะได้รับคำปรึกษาเชิงลึกเพื่อการปรับตัวสู่ธุรกิจสีเขียว รวมถึงได้รับประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผลิตภัณฑ์ หรือคาร์บอนฟุตพริ้นท์ขององค์กรจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ทราบ Baseline Emission ของตนเองโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และสถานประกอบการ 6 แห่งที่มีความพร้อม จะได้รับการทวนสอบคาร์บอนฟุตพริ้นท์ฯ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายดำเนินโครงการ

นายนที สิทธิประศาสน์ กรรมการและเลขานุการ สถาบันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่าปัจจุบัน ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เป็นความท้าทายระดับโลก โดยได้มีคาดการณ์ว่า ในปีพ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะส่งผลให้ทั่วโลกมีมูลค่าทางเศรษฐกิจลดลงร้อยละ 10 ประเทศไทยจึงมีนโยบายเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ UNFCCC COP ในการประชุมหลายครั้งที่ผ่านมา โดยมีการประกาศเป้าหมายสำคัญ คือ ประเทศไทยจะเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปีพ.ศ. 2593 (ค.ศ. 2050) และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปีพ.ศ. 2608 (ค.ศ. 2065) ประกอบกับในต่างประเทศได้เริ่มใช้เงื่อนไขทางด้านสิ่งแวดล้อมเป็นมาตรการทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี (Non-Tariff Measures) เช่น สหภาพยุโรปมีมาตรการปรับราคาคาร์บอนก่อนข้ามพรมแดน หรือ CBAM ในหลายกลุ่มผลิตภัณฑ์ ทำให้กระทบต่อการส่งออกของผู้ประกอบการ นอกสหภาพยุโรปแล้ว ประเทศอื่นๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และจีน อาจมีการพิจารณาการใช้มาตรการในลักษณะเดียวกันในอนาคต ดังนั้นแนวคิดเศรษฐกิจสีเขียว (Green transition) จึงเป็นหนึ่งในแนวทางเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว และจะเป็นการพัฒนาสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมโลกไปสู่ความยั่งยืน ดังนั้นธุรกิจในทุกระดับจึงต้องดำเนินการปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจสีเขียว เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันจากนโยบายและมาตรการทางสิ่งแวดล้อมที่บังคับใช้ในปัจจุบันและมีแนวโน้มที่จะมีความเข้มข้นขึ้นในอนาคต ทางสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จึงได้จัดตั้งสถาบันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อเตรียมความพร้อม และยกระดับการพัฒนาคุณภาพสินค้าและการผลิตในสังคม เศรษฐกิจ อุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ รวมถึงส่งเสริม และสร้างมาตรฐานการตรวจสอบ การรับประกัน และการรับรองในระดับสากล เพื่อยกระดับการประกอบการอุตสาหกรรมของผู้ประกอบการทุกขนาด

นางอภิรดี ขาวเธียร รองผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า สสว. ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่พัฒนา และยกระดับการประกอบการของธุรกิจและอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม ให้มีศักยภาพในการแข่งข้นและประกอบกิจการให้ทัดเทียมกับกฎ ระเบียบ และมาตรการใหม่ๆ ของโลก เล็งเห็นถึงความสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจสีเขียว จึงร่วมกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. โดยสถาบันการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดำเนินโครงการศึกษาวิจัยเชิงปฏิบัติการเพื่อจัดทำกลไกการปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจสีเขียว (Green Transition) สำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) เพื่อยกระดับผู้ประกอบการ SME ซึ่งโดยมากแล้วยังขาดองค์ความรู้และบุคลากรในการปรับตัว เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ทัดเทียมกับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ที่มีความพร้อมในทุกด้านมากกว่า โดยเริ่มต้นที่กลุ่มอุตสาหกรรม 6 กลุ่ม ได้แก่ เหล็กและเหล็กกล้า อะลูมิเนียม การท่องเที่ยว พลาสติก สิ่งทอ และอาหาร โดยจัดส่งผู้เชี่ยวชาญเข้าให้คำปรึกษาเชิงลึกร่วมกับการจัดอบรมสัมมนาเชิงปฏิยัติการรายกลุ่มอุตสาหกรรม เพื่อให้สามารถปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจสีเขียว และพัฒนาองค์ความรู้ของบุคลากรภาคอุตสาหกรรมให้มีความรู้และความสามารถในการจัดการ เพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม อันเป็นการยกระดับโซ่อุปทานภาคอุตสาหกรรมสู่การเป็นเศรษฐกิจสีเขียว (Green Transition) ให้สามารถเชื่อมโยงไปยังอุตสาหกรรมต้นน้ำให้สอดคล้องกับนโยบายของประเทศและเศรษฐกิจระดับมหภาค

"โครงการนี้นับเป็นอีกโครงการดีๆ ที่จะช่วยส่งเสริมและผลักดันภาคธุรกิจ โดยเฉพาะ SME ให้มีการปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงที่มีผลต่อการค้าในอนาคต" นางอภิรดี กล่าวทิ้งท้าย

ที่มา: สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

ส.อ.ท. - สสว. เดินหน้าจัดทำกลไกการปรับตัวเข้าสู่เศรษฐกิจสีเขียว กระตุ้น SME รับมือมาตรการการค้าโลก

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๗ เม.ย. อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud