เปิดเวทีระดมสมอง พัฒนาเด็กอาชีวะสู่อุตสาหกรรม 4.0 อย่างเข้มข้น ปั้นวิทยาลัยต้นแบบ พร้อมสู่ Industrial IoT และ AI ตอบโจทย์อุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC

พฤหัส ๑๘ มกราคม ๒๕๖๗ ๑๕:๒๔
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (เนคเทค สวทช.) ภายใต้งบประมาณที่ได้รับการสนับสนุนจากเขตนวัตกรรมระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EECi) เปิดเวทีระดมสมอง พัฒนากำลังคนสู่ภาคอุตสาหกรรม 4.0 และหลักสูตร Industrial IoT และ AI ในอุตสาหกรรม 4.0 สำหรับสถาบันอาชีวศึกษา มุ่งพัฒนาวิทยาลัยต้นแบบ 6 วิทยาลัยและเครือข่าย ในพื้นที่ภาคตะวันออก(EEC) เพื่อพัฒนาเด็กอาชีวะให้ "ทำได้ ทำเป็น" ตอบโจทย์ความต้องการภาคอุตสาหกรรมอย่างตรงจุด
เปิดเวทีระดมสมอง พัฒนาเด็กอาชีวะสู่อุตสาหกรรม 4.0 อย่างเข้มข้น ปั้นวิทยาลัยต้นแบบ พร้อมสู่ Industrial IoT และ AI ตอบโจทย์อุตสาหกรรมในพื้นที่ EEC

คุณอุดม ลิ่วลมไพศาล ผู้อำนวยการกลุ่มวิจัยไอโอทีและระบบอัตโนมัติสำหรับงานอุตสาหกรรม เนคเทค สวทช.  กล่าวว่าสำหรับการพัฒนากำลังคนของเนคเทค สวทช. โดยศูนย์นวัตกรรมการผลิตยั่งยืน ในโครงการพัฒนาทักษะด้าน Industrial IoT แบบเข้มข้น สำหรับบุคลากรระดับอาชีวศึกษา ซึ่งเป็นความร่วมมือจาก 3 ภาคส่วน ได้แก่ เนคเทค สวทช., วิทยาลัยอาชีวศึกษาที่เข้าร่วมในโครงการฯ และสถานประกอบการที่เกี่ยวข้อง โดยก่อนที่มีการจัดอบรมในแต่ละหลักสูตร โครงการฯ จัดสัมมนาระดมความคิดเห็นเกี่ยวกับเนื้อหาและหลักสูตรในโครงการฯ ร่วมกับสถาบันอาชีวศึกษาในเขตพื้นที่ EEC และสถานประกอบการที่มีความสนใจนำเทคโนโลยีด้าน Internet of Things ไปใช้ โดยวิทยาลัยต่างๆ และสถานประกอบการมีบทบาทในการเสนอแนะแนวทางเกี่ยวกับหลักสูตร เช่น ทักษะเพิ่มเติมที่จำเป็น หรือ การประยุกต์ใช้ที่เหมาะสม ซึ่งทางโครงการฯ ได้ออกแบบหลักสูตร และพัฒนาชุดอุปกรณ์ประกอบการเรียนการสอน เพื่อส่งให้ผู้เรียนได้ใช้ ซึ่งหลักสูตรจะมี 4 หลักสูตร ในแต่ละหลักสูตรจะคู่มือการสอน มีเอกสารและสื่อวิดิโอ พร้อมด้วยอุปกรณ์ประกอบการเรียน ได้แก่ 1) หลักสูตร IoT Fundamentals 2) หลักสูตร Advance IoT 3) หลักสูตร Basic Industrial IoT 4) หลักสูตร Industrial IoT

จากสถิติที่ผ่านมาโครงการฯ มีการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องโดยในปี 2564-2566 มีผู้ให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้น 459 คน ซึ่งผู้เข้าร่วมโครงการฯ จะได้เรียนในหลักสูตร IoT Fundamentals  โดยเมื่อจบในแต่ละหลักสูตรจะมีการคัดเลือกทุกครั้ง เมื่อผ่านการอบรมในหลักสูตรสุดท้าย Industrial IoT จะมีการจัดงาน IoT Hackathon เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมขั้นสุดท้ายก่อนส่งนักศึกษาไปฝึกปฏิบัติงาน ให้สามารถนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการเรียนมาประยุกต์ใช้งานจริงในการแข่งขัน โดยในปี 2564 - 2566 มีจำนวนผู้ที่ผ่านการอบรมในทุกหลักสูตรทั้ง 3 ปี จำนวน 114 คน เข้าฝึกปฏิบัติงานในสถานประกอบการทั้งหมด 73 แห่ง โดยส่วนใหญ่แล้วนักศึกษาจะเข้าฝึกปฏิบัติงานในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ซึ่งจะเป็นอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการผลิต เช่น รถยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ อุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องจักร และหม้อแปลง  เมื่อนักศึกษาฝึกปฏิบัติงานจบตามหลักสูตรของแต่ละวิทยาลัย ทางโครงการฯ จะทำแบบประเมินเพื่อสอบถามไปยังสถานประกอบการถึงโอกาสการรับนักศึกษาเข้าทำงานต่อเมื่อสำเร็จการฝึกปฏิบัติงาน ตั้งแต่ปี 2564 - 2566 มีจำนวนการรับถึง 86 คน จากทั้งหมด 166 คน โดยมีอัตราการเพิ่มอยู่ที่ 20% - 30% ในทุกๆปี จากผลสำรวจการมีงานทำของผู้เข้าร่วมโครงการฯ ในปี 2564 - 2565 นั้น ผลสำเร็จผู้ที่เข้าร่วมจนจบโครงการฯ 67 คน ผู้ที่มีงานทำแล้ว 58 คน โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นอุตสาหกรรมขนาดกลาง และอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ร่วมกันแล้วอยู่ที่ 81.04% ซึ่งจะเป็นอุสาหกรรมเกี่ยวกับ อุตสาหกรรมยานยนต์, อุตสาหกรรมพลาสติก และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์

สำหรับโครงการฯ ในปี 2567 ถือเป็นการต่อยอดจากโครงการฯ ปี 2564 - 2566 เพื่อที่จะมุ่งพัฒนาวิทยาลัยต้นแบบที่มีความพร้อมทางด้านกำลังคน (ครู) เทคโนโลยี (อุปกรณ์) องค์ความรู้ (เครื่องมือ สื่อการสอน) ความพร้อมในการถ่ายทอดองค์ความรู้ในด้านเทคโนโลยี Internet of Things, Industrial IoT และ AI โดยนำผลผลิตที่ได้มาในปี 2564 - 2566 นั้นคือ หลักสูตรที่สามารถสร้างบุคลากรด้าน Industrial IoT ได้แก่ หลักสูตร Internet of Things และ Industrial IoT มาประยุกต์เป็นหลักสูตรในปัจจุบันที่มีสอนในวิทยาลัย โดยมีเป้าหมายเป็น 6 สาขาวิชา ได้แก่ ช่างไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ เมคคาทรอนิกส์ เทคนิคคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศ ซึ่งเป็นสาขาวิชาที่มีความเกี่ยวข้องกับหลักสูตรดังกล่าว อีกทั้งยังได้เพิ่มความเข้มข้นของเนื้อหาหลักสูตรด้วยองค์ความรู้ทางด้าน AI ซึ่งได้ถูกผนวกการใช้งานร่วมกับ IoT จึงเกิดเป็นเทคโนโลยี AIoT (Artificial Intelligence : Internet of Things) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีและองค์ความรู้ที่สำคัญในการพัฒนา Factory 4.0

ในปี 2567 นี้มีผู้เข้าร่วมทั้งสิ้น 189 คน โดยทางโครงการฯ ได้มีการปรับเปลี่ยน และเพิ่มความเข้มข้นให้กับการถ่ายทอดองค์ความรู้เพื่อสร้างวิทยาลัยต้นแบบจากเครือข่ายทั้งหมด โดยมีวิทยาลัยต้นแบบ จำนวน 6 วิทยาลัย ได้แก่

  1. วิทยาลัยเทคนิคสัตหีบ จ.ชลบุรี
  2. วิทยาลัยเทคนิคชลบุรี จ.ชลบุรี
  3. วิทยาลัยอาชีวศึกษาเทคโนโลยีฐานวิทยาศาสตร์ (ชลบุรี) จ.ชลบุรี
  4. วิทยาลัยเทคนิคบ้านค่าย จ.ระยอง
  5. วิทยาลัยเทคนิคพนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา
  6. วิทยาลัยเทคโนโลยี ไออาร์พีซี จ.ระยอง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 9 - 11 และ 16 - 17 ธันวาคม 2566 ทางโครงการฯ ได้ทำการเตรียมความพร้อมให้แก่ครูของทั้ง 6 วิทยาลัยข้างต้น มีการอบรมหลักสูตร Internet of Things และ Industrial IoT ร่วมทั้งได้มีการร่วมกันวางแผนการจัดการเรีนการสอนให้แก่นักศึกษาผู้เข้าร่วมโครงการฯ ในปี 2567 โดยการอบรมหลักสูตร Fundamentals IoT และ Advanced IoT สำหรับนักศึกษาในโครงการฯ จะเริ่มในช่วงเดือนมกราคม 2567

ที่มา: เนคเทค

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๗ เม.ย. อแมนด้า ชาร์ลีน ออบดัม VICHY LIFTACTIV BRAND PARTNER ตัวแทนประเทศไทย ร่วมงาน 'V.I.C VICHY INTEGRATIVE CENTER' อีเว้นท์สุดยิ่งใหญ่ในรอบ 5 ปี ของแบรนด์ VICHY (วิชี่) อวดลุคเซ็กซี่สุดฮอต สวย ปัง
๒๖ เม.ย. ไทยพีบีเอสผนึกกำลัง สสส. ผลิต และเผยแพร่เนื้อหาส่งเสริมสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว
๒๖ เม.ย. NPS ร่วมสืบสานประเพณีสงกรานต์ชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปี 2567
๒๖ เม.ย. แพทย์แผนไทย มทร.ธัญบุรี แนะฤดูร้อนควรทานพืชผักที่มีฤทธิ์เย็นช่วยลดความร้อนในร่างกาย
๒๖ เม.ย. แพรนด้า จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น ประจำปี 2566
๒๖ เม.ย. RBRU Herb Shot ขยายศักยภาพทางธุรกิจ รุกตลาดอินเดีย
๒๖ เม.ย. ไฮเออร์ ประเทศไทย เดินเกมรุกไตรมาส 2 เปิดตัวตู้เย็นรุ่นใหม่ Multi-door HRF-MD679 ตั้งเป้าปี 67 ดันยอดขายตู้เย็นโต
๒๖ เม.ย. เอ็น.ซี.ซี.ฯ ประกาศจัดงาน PET EXPO THAILAND 2024 ระดมสินค้า บริการ ลดหนักจัดเต็ม รับกระแส Petsumer ดันตลาดสัตว์เลี้ยงโตแรง
๒๖ เม.ย. ธอส. ขานรับนโยบายรัฐบาล ลดอัตราดอกเบี้ย MRR 0.25% ต่อปี พร้อมส่งเสริมวินัยการออม ด้วย เงินฝากออมทรัพย์เก็บออม ดอกเบี้ยสูงถึง 1.95%
๒๖ เม.ย. ManageEngine ลดความซับซ้อน ช่วยองค์กรจัดการต้นทุนบนคลาวด์ทั่วมัลติคลาวด์ได้ง่ายขึ้น พร้อมรองรับแพลตฟอร์ม Google Cloud