ภาพทุกภาพที่สมัชชาคัดเลือกมาจัดนิทรรศการสะท้อนกรุง เกิดจากความนึกสนุกและความช่างสังเกตของศิลปิน ที่พยายามค้นหาฉากทัศน์และองค์ประกอบแปลกตา เพื่อให้ภาพถ่ายเกิดมิติและมุมมองที่แตกต่างจากที่หลายคนคุ้นเคย จึงเกิดเป็นงานทดลองทำให้ภาพถ่ายดูมีเสน่ห์ลึกลับน่าค้นหา
"บ่อยครั้งที่ผมมักจะมองอะไรผ่านเงาสะท้อนของกระจก หน้าต่าง หรือวัสดุอื่น ๆ ร่วมกับมุมมองที่อยู่ตรงกันข้าม ทำให้เห็นทั้งสองมุมมอง หรือด้านต่าง ๆ พร้อมกันในภาพเดียว ผลงานชุดนี้จึงเป็นเหมือนงานทดลอง ที่ผมใช้แผ่นพลาสติกที่สะท้อนได้เหมือนกระจกเงานำมารวมอยู่ในเฟรมเดียวกัน เพื่อจัดองค์ประกอบต่าง ๆ ของภาพโดยไม่ต้องใช้เทคนิกการตัดต่อภาพ เพราะรู้สึกสนุกที่ได้เห็นภาพนั้นจริง ๆ ขณะที่ถ่ายภาพ
"ผมรู้สึกสนุกและมีความสุขกับการถ่ายภาพชุดนี้มากครับ ทุกภาพที่คุณได้เห็นในนิทรรศการนี้เกิดจากความนึกสนุกและอยากลองทำงานแนวนี้ที่ผมเรียกว่า 'Reflection' มันเป็นความอยากรู้อยากลองว่า มุมมองที่เห็นจะแตกต่างไปเป็นแบบไหน บวกกับการใช้ProPhoto RGB โปรไฟล์การจัดการสีของภาพสำหรับการพิมพ์ภาพถ่ายด้วยเครื่องปรินท์แบบ Fine Art Printing ผมหวังว่า ผู้ชมจะมองเห็นความเชื่อมโยงบางอย่างระหว่างสิ่งที่อยู่ข้างในของตัวเอง ผ่านภาพถ่ายสะท้อนกรุงในนิทรรศการครั้งนี้ครับ"
นิทรรศการ "Bangkok Reflection: สะท้อนกรุง" จัดขึ้นบนชั้น 2 ร้าน C43 : Fashion & Inspiration Space ในโครงการ Charoen43 Art and Eatery ระหว่างวันที่ 27 มกราคม - 4 กุมภาพันธ์ 2567 ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ https://www.facebook.com/samatchaphoto และ www.samatchaapaisuwan.com รวมถึง IG : samatchaphoto และเฟสบุ๊ก www.facebook.com/charoen43
เกี่ยวกับช่างภาพ
สมัชชา อภัยสุวรรณ หลงใหลในการถ่ายภาพมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก โดยได้รับอิทธิพลจากคุณตา (สนิทพันธุ์ พิศาลยบุตร) ซึ่งเป็นช่างภาพสมัครเล่น ก่อนจะได้เรียนรู้ทฤษฎีและฝึกฝนทักษะการถ่ายภาพอย่างจริงจังจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
สมัชชา เริ่มต้นชีวิตการทำงานเป็นช่างภาพให้กับเอเยนซี่โฆษณาชื่อดังของประเทศไทย เปิดโอกาสให้เขาได้ถ่ายรูปหลากหลายแนวทั้งในและนอกสตูดิโอเป็นเวลาเกือบ 30 ปี ก่อนจะลาออกจากงานประจำเพื่อเป็นช่างภาพอิสระ สมัชชาได้ทำงานให้กับลูกค้ามากมาย รวมทั้งบริษัท องค์กรและ แบรนด์ระดับประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการภาพถ่ายไลฟ์สไตล์ อาหาร โรงแรม ผลิตภัณฑ์ อีเวนต์ ฯลฯ รวมทั้งการทำโพสต์โปรดักชั่น
สมัชชา เกิดในยุคภาพถ่ายขาว-ดำและเติบโตมากับกล้องฟิล์มแมนนวล แต่การเรียนรู้ไม่มีสิ้นสุด เขามีโอกาสไปศึกษาด้านการถ่ายภาพต่อที่รัฐลอส แอนเจลิส สหรัฐอเมริกา จนถึงปัจจุบัน สมัชชายังคงเรียกตัวเองว่า "นักเรียนถ่ายภาพ" ไปตลอดชีวิต
สำหรับ สมัชชา ภาพถ่ายมีพลังมหัศจรรย์และมนต์เสน่ห์ยากจะอธิบาย ทุก ๆ ครั้งเมื่อลั่นชัตเตอร์เขาจะ ต้องการใหภาพถ่ายเหล่านั้น "สร้างความแปลกใหม่" และ "สามารถนำไปใช้งานได้จริง" นอกจากเป็นช่างภาพอาชีพแล้ว การถ่ายภาพยังเป็นงานอดิเรกที่เติมเต็มและสร้างแรงบันดาลใจให้เขาเสมอมา วันว่างของสมัชชาจึง มักจะออกไปเก็บภาพวิถีชีวิตตามตรอกซอกซอยและชุมชนต่าง ๆ
ที่มา: เอฟวายไอ บางกอก
